MTS Help Center

· ตลาดหุ้นปิดแดนบวก โดยเป็นการฟื้นตัวหลังจากที่ดัชนีปรับลดลงอย่างมากจากความกังวลการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา โดยดัชนีดาวโจนส์ปิด +124 จุด หรือ 0.4% ที่ 28,859.44 จุด ส่วนดัชนี S&P 500 ปิด +0.3% ที่ระดับ 3,283.66 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด +0.3% ที่ระดับ 9,298.93 จุด

ในช่วงต้นตลาดสหรัฐฯเมื่อคืน ดัชนีมีการปรับตัวลดลงอีก โดยดัชนีดาวโจนส์ปรับลดลงไปถึง 244 จุด ก่อนที่จะเริ่มฟื้นตัวขึ้น ก่อนหน้าการประกาศขององค์กรอนามัยโลก ที่ระบุให้การระบาดของเชื้อไวรัสเป็นภาวะฉุกเฉินระดับโลก แต่ไม่ได้แนะนำให้ปิดกั้นการเดินทางเข้าออกประเทศจีน รวมถึงยืนยันว่าสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้

· ตลาดหุ้นเอเชียปรับสูงขึ้นเล็กน้อยตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ ท่ามกลางความหวังว่ารัฐบาลแต่ละประเทศจะสามารถควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสได้ แม้จะมีรายงานยอดผู้เสียชีวิตและติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องก็ตาม แต่ในภาพรวมรายสัปดาห์ดัชนีส่วนใหญ่ยังมีแนวโน้มปิดในแดนลบ

ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการรายงานของผลประกอบการของ Amazon ที่ออกมาสดใสกว่าที่คาด ส่งผลให้หุ้น Amazon ปรับสูงขึ้นถึง 11% หลังการรายงานผล

ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญีปุ่น เปิด +0.1% แต่ภาพรวมรายสัปดาห์มีแนวโน้มปรับลดลง 4.1% ขณะที่ดัชนี Nikkei เปิด 0.9% แต่ภาพรวมรายสัปดาห์มีแนวโน้มปรับลดลง 2.7%

อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

-นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ระหว่าง 31.00-31.25 บาท/ดอลลาร์ โดยค่าเงินบาทยังอ่อนค่าต่อเนื่อง เนื่องจากความกังวลเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น เงินบาทก็ยังมีโอกาสจะอ่อนค่าได้ต่อ

- นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า ในวันนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการอุบัติใหม่ ซึ่งตนในฐานะประธานการประชุมจะเสนอให้พิจารณามาตรการยกเลิก Visa on Arrival (VoA) นักท่องเที่ยวจีนชั่วคราวหวังสกัดการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา เพื่อดูแลสถานการณ์ให้ดีที่สุดและให้นักท่องเที่ยวจีนมาไทยให้น้อยที่สุด

- นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย รวมถึงเศรษฐกิจทั่วโลกด้วย ดังนั้นกระทรวงการคลังจะหาแนวทางดูแลเศรษฐกิจในประเทศให้ขยายตัว เพื่อทดแทนปัจจัยเสี่ยงที่เกิดขึ้นในขณะนี้ให้ได้ ทั้งนี้ ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวได้ถึง 3% ตามที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่ เนื่องจากจะต้องรอดูสถานการณ์และปัจจัยต่างๆ ที่เข้ามาว่ามีผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากน้อยเพียงใด

- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ขอความร่วมมือให้สถาบันการเงิน สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ และผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับและสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพพิจารณาให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในด้านต่างๆ ทั้งด้านเงินทุนและสภาพคล่อง, ผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้ และปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ปรับลดอัตราการผ่อนชำระหนี้บัตรเครดิตขั้นต่ำ และผ่อนผันเพดานวงเงินชั่วคราวกรณีฉุกเฉินของสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับจนถึงวันที่ 31 ธ.ค.63