· ค่าเงินหยวนและค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียต่างเคลื่อนไหวในแดนอ่อนค่า หลังตลาดจีนกลับมาเปิดทำการหลังผ่านวันหยุดในช่วงตรุษจีน ท่ามกลางความกังวลต่อการระบาดของเชื้อไวรัส
โดยค่าเงินหยวนนอกประเทศอ่อนค่า 0.1% ใกล้ระดับอ่อนค่าที่สุดในรอบ 1 เดือนแถว 7.0117 หยวน/ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินหยวนในประเทศอ่อนค่า 1% แถวระดับ 7.0125 หยวน/ดอลลาร์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียฟื้นตัวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยแถว 0.66925 ดอลลาร์ แต่ยังเคลื่อนไหวใกล้ระดับอ่อนค่าที่สุดในรอบ 10 ปีครึ่งที่ 0.6670 ดอลลาร์
ค่าเงินยูโรทรงตัวแถว 1.1084 ดอลลาร์/ยูโร หลังจากปิดตลาดสัปดาห์ก่อนแข็งค่าขึ้นมาได้ 0.6% ซึ่งถือเป็นสัปดาห์ที่ค่าเงินปรับแข็งค่าขึ้นมาได้เป็นครั้งแรกในรอบ 5 สัปดาห์ ท่ามกลางกระแสเงินลงทุนที่ไหลกลับสู่ภาคการส่งออกของยุโรปในช่วงสิ้นเดือน
ด้านค่าเงินปอนด์อ่อนค่า 0.2% แถว 1.3172 ดอลลาร์/ปอนด์ หลังจากรัฐบาลอังกฤษส่งสัญญาณที่ค่อนข้างแข็งขันกับการเจรจาการค้าร่วมกับอียู โดยระบุว่าจะยึดตามกฏเกณฑ์ของตัวเองมากกว่าที่จะเป็นไปได้ตามระเบียบของอียู
· EUR/USD TECHNICAL ANALYSIS: BEARISH
แม้ค่าเงินยูโรจะแข็งค่าขึ้นได้ หลังจากที่ค่าเงินดอลลาร์ถูกเทขายท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยที่มากขึ้น แต่ภาพรวมของค่าเงินยูโรก็ยังเป็ยทิศทางขาลงนับตั้งแต่ต้นปีนี้และมีแนวโน้มที่จะรีบาวน์ลงมาอีก โดยประเมินว่าค่าเงินน่าจะปรับขึ้นมาแถว 1.1150 ดอลลาร์/ยูโร โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 1.1239 ดอลลาร์/ยูโร หากค่าเงินย่อตัวลงก็จะมีแนวรับที่ 1.0968 – 1.0990 ดอลลาร์/ยูโร และแนวรับสำคัญที่ 1.0879 ดอลลาร์/ยูโร ที่เป็นระดับต่ำสุดของวันที่ 1 ต.ค.
· ย่านหลักทางเศรษฐกิจในประเทศจีนประกาศขยายวันหยุดออกไปจนถึงสัปดาห์หน้าเป็นอย่างน้อย ท่ามกลางการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาที่คร่าชีวิตชาวจีนไปแล้วมากกว่า 200 ราย
โดยในวันนี้ มณฑลในประเทศจีนอย่างน้อย 24 มณฑล ได้ประกาศให้ผู้ประกอบการเลี่ยงการกลับมาทำงานออกไปจนถึงวันที่ 10 ก.พ. เป็นอย่างน้อย
ทั้งนี้ เมืองหลักๆที่มีประกาศออกมาแล้วว่าจะขยายวันหยุดออกไปได้แก่
1. กรุงปักกิ่ง ประกาศขยายวันหยุดออกไปจนถึงวันที่ 10 ก.พ.
2. มณฑลหูเป่ย ที่เป็นจุดศูนย์กลางของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ได้ประกาศขยายวันหยุดออกไปจนถึงวันที่ 14 ก.พ. และยังมีแนวโน้มที่จะขยายวันหยุดออกไปอีก ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัส
3. นครเทียนจิน ประกาศขยายวันหยุดออกไปจนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติม
· บริษัทเทคโนโลยีของจีนบางแห่งกำลังดำเนินการผลิตชิ้นส่วนและผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง แม้ว่ารัฐบาลจะเรียกร้องให้เมืองและจังหวัดต่าง ๆหยุดงานเนื่องจากจีนพยายามที่จะหยุดยั้งการแพร่กระจายของโคโรนาไวรัสในประเทศ
โดยบริษัทหัวเว่ยของจีน ได้กลับมาผลิตสินค้า อุปกรณ์ของผู้บริโภค อุปกรณ์ผู้ให้บริการ รวมทั้งการดำเนินงานตามปกติ ท่ามกลางอุตสาหกรรมบางประเภทในประเทศจีนที่ได้รับการยกเว้น เริ่มกลับมาดำเนินงานอีกครั้งในวันนี้ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อประเทศ แม้ว่าบริษัทในจีนจะหยุดการทำงานทั้งหมดในบางเมืองและจังหวัด
· รายงานจากธนาคารกลางจีนระบุว่า ผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสจะคงอยู่ในวงจำกัดและมีผลเพียงชั่วคราวเท่านั้น ส่วนระบบการเงินของประเทศก็จะกลับมาเป็นปกติในระยะยาว
· รายงานจากกระทรวงต่างประเทศของจีน ระบุว่าสหรัฐฯเป็นประเทศที่ใส่ไฟให้ความหวาดกลัวเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อไวรัสขยายเป็นวงกว้างยิ่งกว่าเดิม แทนที่จะเสนอความช่วยเหลือหรือร่วมมือที่มีความหมาย โดยสหรัฐฯเป็นประเทศแรกๆที่เสนอให้เจ้าหน้าที่ของสถานทูตเดินทางออกประเทศจีนและกีดกันชาวจีนที่เดินทางเข้าสู่ประเทศ
· ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดทำระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปี ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาที่อาจฉุดปริมาณอุปสงค์น้ำมันในประเทศจีนให้ตกต่ำลง เห็นได้จากการที่สายการบินหลายแห่งพากันยกเลิกเที่ยวบินสู่ประเทศจีน เพื่อเป็นการช่วยควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส
ขณะที่ตลาดจีนเริ่มกลับมาทำการอีกครั้ง หลังผ่านพ้นวันหยุดในเทศกาลตรุษจีนไป แต่ห่วงโซ่อุปทานทั่วตลาดจีนได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัส ส่งผลให้โรงกลั่นน้ำมันรายใหญ่ในประเทศจีนอย่าง Sinopec ประกาศลดกำลังการผลิตเดือนนี้ลงไปกว่า 12%
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลง 18 เซนต์ หรือ 0.3% แถว 56.44 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากเมื่อสัปดาห์ก่อนปรับลดลงมากว่า 2.1% ที่ระดับต่ำสุดที่ 55.42 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเป็นอัตราที่มากที่สุดนับตั้งแต่ 9 ม.ค. 2019
ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้น 10 เซนต์ แถว 51.66 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากทำระดับต่ำสุดที่ 50.42 เหรียญ/บาร์เรล ส่วนเมื่อสัปดาห์ก่อน ปิดลดลงไป 2.2% ซึ่งเป็นอัตราที่มากที่สุดนับตั้งแต่ 14 ม.ค. 2019