· ตลาดหุ้นเอเชียปิดปรับขึ้นตามการฟื้นตัวต่อจากเมื่อวาน ขณะที่ตลาดมีการคลายความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
ทั้งนี้ หุ้นจีนเป็นผู้นำการปรับขึ้นโดยเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิด +1.25% ที่ 2,818.09 จุด ด้านเสิ่นเจิ้น คอมโพเนนท์ปิด +2.14% ที่ 10,305.5 จุด และเสิ่นเจิ้นคอมโพสิตปิด +2.48% ที่ 1,678.63 จุด
ภาพรวมตลาดหุ้นจีนปิดปรับขึ้นได้หลังจากที่ร่วงลงไปกว่า 7% เมื่อวันจันทร์เหตุจากการขยายเวลาวันหยุดอันเนื่องจากกาแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
ดัชนีนิกเกอิวันนี้ปิด +1.02% ที่ 23,319.56 จุด ด้าน Topix ปิด +1.04% ที่ 1,701.83 จุด ท่ามกลางเงินเยนที่ยังคงเคลื่อนไหวได้ดีในสภาวะที่ตลาดมีความไม่แน่นอน แต่ในวันนี้ยังคงทรงตัวแนว 109.42 เยน/ดอลลาร์
ดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้เปิดอ่อนตัวลงเกือบ 1% ก่อนจะปิด +0.36% ที่ 2,165.63 จุด และ HSI ของฮ่องกงปิด +0.83% หลังจากที่เมื่อเช้าเปิด +0.27% และดัชนี ASX200 ปิด +0.39% ที่ 6,976.10 เหรียญ
นักกลยุทธ์ค่าเงินประจำ National Australia Bank กล่าวว่า ตลาดยังคงปรับตัวขึ้นจากการรีบาวน์รอบใหม่นี้ อันเป็นผลจากการที่จีนพยายามสนับสนุนเศรษฐกิจ ควบคู่กับการลดความกังวลต่อกรณีไวรัสโคโรนาที่จะเข้ากระทบต่อเศรษฐกิจโลก
· ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลงเล็กน้อย หลังจากที่ตลาดหุ้นเอเชียฟื้นตัวขึ้น ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
โดยดัชนี Stoxx600 ลดลง 0.2% ด้านกลุ่มน้ำมันและก๊าซลดลง 0.7% ขณะที่หุ้นเทเลคอมปรับตัวสูงขึ้น 0.3%
ทั้งนี้ เหล่านักลงทุนให้ความสนใจไปยังผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากการระบาดของไวรัสโคโรนา หลังจากที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวน 24,324 ราย และยอดผู้เสียชีวิตในประเทศจีนจำนวน 490 ราย
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการร่วม 3 สถาบัน (กกร.) มองมีความเสี่ยงมากขึ้นที่สงผลให้ภาวะเศรษฐกิจไทยในปี 2563 จะเติบโตชะลอลงมากกว่าที่คาดไว้ ดังนั้นจึงพิจารณาปรับลด ประมาณการลงเป็นกรณีพิเศษในรอบนี้ โดยประเมินว่า อัตราการขยายตัวของ GDP ในปี 2563 อาจลดลงมาที่ 2.0-2.5% จากเดิม ประมาณการไว้ที่ 2.5-3.0% แต่ยังคงกรอบประมาณการอัตราการเติบโตของการส่งออกและเงินเฟ้อไว้ตามเดิม ขณะที่คงต้องติดตามการ ออกมาตรการของทางการเพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ
- ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2563 เหลือโต 2.1% จากเดิมคาด 2.7% จากผลกระทบโรคระบาดไวรัสโคโรนา 2019 และความล่าช้าของการจัดทำงบประมาณ
สำหรับโรคระบาด 2019-nCoV ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยใน 2 ช่องทางหลักคือภาคการท่องเที่ยวและการส่งออก โดยจากมาตรการที่เข้มงวดของทางการจีน ด้านการห้ามไม่ให้กรุ๊ปทัวร์ออกนอกประเทศ ประกอบกับความตื่นกลัวของผู้คนในหลายประเทศทั่วโลก ทำให้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยน้อยลง
- นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวในการประชุมนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศด้วยเทคโนโลยี 5G เพื่อให้ลงสู่ทุกภาคส่วนของสังคมเพื่อให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานว่า กสทช. นำเสนอที่ประชุมหารือ ได้แก่ นโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศด้วยเทคโนโลยี 5G เพื่อลงสู่ทุกภาคส่วนของสังคมให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็ว รวมทั้งประโยชน์ที่จะได้รับจากการประมูล 5G
ได้รายงานความคืบหน้าการประมูล 5G เมื่อวานนี้ โดยมีผู้มายื่นคำขอรับใบอนุญาตทั้งหมด จำนวน 5 ราย ได้แก่ บริษัท ทรู มูฟเอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด บมจ. ทีโอที บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด บมจ. กสท โทรคมนาคม และบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด
สำหรับกระบวนการต่างๆ หลังจากนี้ สำนักงาน กสทช. จะดำเนินการพิจารณาคุณสมบัติ และจะมีการชี้แจงรายละเอียดและการประมูลรอบสาธิต (Mock Auction) ในวันที่ 10 และ 14 ก.พ. 2563 โดยจะจัดการประมูลในวันที่ 16 ก.พ. 2563
· อ้างอิงจากสำนักข่าวประชาชาติธุรกิจ
นายทิตนันท์ มัลลิกะมาส เลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุม กนง. วันนี้ (5 ก.พ.) ว่า คณะกรรมการฯ มีมติเอกฉันท์ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ต่อปี จากเดิม 1.25% ต่อปี มาอยู่ที่ 1% ให้มีผลทันที เนื่องจากประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปี 2563 มีแนวโน้มขยายตัวต่ำว่าที่ประมาณการไว้ จากผลกระทบไวรัสโคโรน่า งบประมาณล่าช้า และภัยแล้ง
ทั้งนี้ กนง.เห็นว่านโยบายการเงินที่ผ่อนคลายขึ้นจะช่วยลดผลกระทบจากปัจจัยลบ และช่วยสนับสนุนสภาพคล่องภาคธุรกิจ และเอื้อต่อการการปรับโครงสร้างหนี้ที่ต้องเร่งดำเนินการโดยเร็ว