· ราคาทองคำปรับตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ที่ขึ้นไปได้ในช่วงก่อนหน้า โดยถูกกดดันลงมาจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า และตลาดหุ้นเอเชียที่ปรับสูงขึ้นหลังโรงงานในประเทศจีนเริ่มกลับมาเปิดทำการ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโคโรนายังคงเพิ่มศูงขึ้นต่อเนื่อง
ราคาทองคำปรับลดลง 0.2% แถว 1,568.11 เหรียญ หลังจากทำระดับสูงสุดของวันที่ 4 ก.พ. ที่ 1,576.76 เหรียญ ด้านราคาสัญญาทองคำปรับลดลง 0.5% แถว 1,571.70 เหรียญ
· บรรดานักลงทุนพากันหันเข้าหาค่าเงินดอลลาร์และค่าเงินเยนในฐานะ Safe-haven หลังจากจีนรายงานยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 108 ราย ทำให้ยอดรวมเพิ่มขึ้นเป็น 1,016 ราย ทำให้เกิดความกังวลว่าอุตสาหกรรมในประเทศจีนจะสามารถกลับมาทำงานได้อย่างเต็มที่เมื่อไหร่
· นักวิเคราะห์จาก ING ประเมินว่า ดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ม.ค. จนถึงต้นเดือน ก.พ. จึงเป็นปัจจัยที่จำกัดการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ พร้อมคาดว่า ทิศทางของราคาทองคำจะขึ้นอยู่กับว่าบรรดาธนาคารกลางจะมีมาตรการรับมือผลกระทบจากเชื้อไวรัสอย่างไร
โดยหากธนาคารกลางพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยลง ก็อาจเป็นแรงหนุนให้กับราคาทองคำ
· ตลาดหุ้นเอเชียปรับสูงขึ้นตามตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ปิดแดนบวกทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่รัฐบาลจีนถูกคาดว่าจะมีการออกนโยบายมากระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม รวมถึงอาจพิจารณาปรับลดดอกเบี้ย
· ทางฝั่งสหรัฐฯ สมาชิกเฟด 2 รายไม่แสดงความกังวลต่อสถานการณ์ไวรัสมากเท่าไหร่ ขณะที่ตลาดจะให้ความสนใจไปยังรายงานต่อสภาคองเกรสของนายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด ในคืนนี้
ซึ่งนายโพเวลล์ถูกคาดว่าจะยังกล่าวสนับสนุนแนวคิดที่เศรษฐกิจสหรัฐฯยังอยู่ในสภาวะที่แข็งแกร่ง และน่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำต่อไป เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังซบเซา
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาเป็นปัจจัยเสี่ยง และอาจผลักดันให้เฟดพิจารณาเปลี่ยนแปลงแนวทางการดำเนินนโยบายได้
· นักวิเคราะห์จาก AxiCorp ระบุว่า การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจในปี 2020 และยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆอีก จึงคาดว่าเฟดอาจเปลี่ยนแนวทางการดำเนินนโยบายมาเป็นผ่อนคลายในช่วงปลายปี 2020 นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯที่ปรับลดลง เป็นหนึ่งในปัจจัยที่สนับสนุนราคาทองคำ แต่ปัจจัยหลักก็ยังคงเป็นแนวทางการดำเนินนโยบายของเฟด
· หนึ่งในนักวิเคราะห์จาก Tradeing View ระบุว่า
ภาพกราฟราย 1 ชั่วโมงแนะนำ "SELL"
> ราคามีการ Break ออจากกรอบเทรนขาขึ้น "Bullish"
> มีการกลับทดสอบแนวต้าน แต่ไม่ผ่าน
> มีสัญญาณกดดันในทิศทางขาลงต่อ "Bearish"
> มีความเสี่ยงมากขึ้นสำหรับสินทรัพย์ปลอดภัยในหมวดสินค้าโภคภัณฑ์ ท่ามกลางการหารือถึงไวรัสโคโรนา
Trade Idea:
> หาจังหวะเปิดสถานะขายก่อน: 1575.00
> Stop Loss: 1580.00
> Take Profit: 1553.00
· นักวิเคราะห์จาก TD Securities กล่าวว่า ราคาทองคำยังอยู่ในทิศทางที่แข็งแกร่งในกรอบ ท่ามกลางความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่เข้ามาเป็นปัจจัยทำให้ราคาแกว่งขึ้นและลงในกรอบ แต่ภาพรวมก็คาดว่าอุปสงค์ทองคำจะเข้ามาช่วยผลักดันให้ราคาปรับตัวขึ้นต่อ จากภาวะอัตราดอกเบี้ยแท้จริงทั่วโลกที่ยังคงอยู่ระดับต่ำในปีนี้
ซึ่งหากทองคำยืนเหนือ 1,570 เหรียญได้ก็มีโอกาสไปต่อ ขณะที่สัญญาณทางเทคนิคกว่า 75 สัญญาณบ่งชี้ภาวะขาขึ้นในระยะยาว และเฟดดูจะมีแนวโฯ้มตั้งใจปรับลดดอกเบี้ยหากจำเป็น เพื่อช่วยผลักดันเงินเฟ้อ
นอกจากนี้ TD Securities ยังคาดว่าราคาเฉลี่ยของทองคำในช่วง Q2/2020 จะอยู่บริเวณ 1,560 เหรียญ และ Q3/2020 ที่ 1,625 เหรียญ ขณะที่ Q4/2020 จะมีราคาเฉลี่ยบริเวณ 1,650 เหรียญ
· นักกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์จาก Scoitabank กล่าวว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาก่อให้เกิดความกังวลครั้งใหม่ทั่วโลก และทำให้ราคาทองคำยังยืนได้เหนือ 1,550 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับท่ี่ดีสำหรับโอกาสที่จะเข้าซื้อครั้งใหม่ระหว่าง 1,540 - 1,550 เหรียญ และในเชิงเทคนิคราคายังมีแรงหนุนเป็นขาขึ้น แม้ว่าจะมีข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน แต่ทองคำก็ยืนได้เหนือระดับดังกล่าว
นอกจากนี้ ระยะสั้นราคาทองคำอาจปรับขึ้นไปได้แถว 1,600 เหรียญ และคาดว่าหากปรับขึ้นยืนได้เหนือ 1,600 เหรียญก็น่าจะได้รับอานิสงส์จากไวรัสโคโรนา แต่ราคาก็อาจต้องเผชิญอุปสรรคจากการแข็งค่าของดอลลาร์ที่ได้รับอานิสงสงส์ในฐานะ Safe-Haven จากภาวะการระบาดของไวรัสเช่นกัน รวมทั้งการปราศจากแรงซื้อทองคำแท่งในเอเชีย
· ราคาพลาเดียมปรับสูงขึ้น 0.2% แถว 2,359.00 เหรียญ ราคาซิลเวอร์ปรับลดลง 0.1% แถว 17.74 เหรียญ และราคาแพลทินัมปรับสูงขึ้น 0.3% แถว 963.46 เหรียญ