· ดัชนีดาวโจนส์ปิดทรงตัว ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิด +0.17% ที่ 3,357.75 จุด ทางด้าน Nasdaq ปิด +0.11% ที่ 9,638.94 จุด โดยที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ต่างก็ยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่องทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้เป็นวันที่ 2 ท่ามกลางหน่วยงานทางการแพทย์จีนที่คาดว่าการติดเชื้อไวรัสโคโรนาจะสิ้นสุดลงในเดือนเม.ย.
นักวิเคราะห์บางรายมองว่า สิ่งที่ดีที่สุดที่จะเกิดขึ้นกับหุ้นสหรัฐฯปีนี้ คือดัชนีน่าจะเคลื่อนไหว Sideways ขณะเดียวกันตลาดก็อาจมีการอ่อนตัวลงมาได้บ้าง
นักลงทุนยังคงเฝ้ารอคอยถ้อยแถลงของประธานเฟดต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภในวันนี้ หลังจากที่เมื่อคืนเขากล่าวย้ำในสภาผู้แทนราษฎรเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจที่ยังขยายตัวได้ดี แต่ก็จะจับตาอย่างใกล้ชิดต่อความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้ อันหมายรวมถึงไวรัสโคโรนา
· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้น ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯทีเพิ่มขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ปิดแตะระดับสูงสุดใหม่
โดยเช้านี้ ดัชนี Nikkei เพิ่มขึ้น 0.69% ขณะที่ดัชนี Topix ปรับขึ้นเล็กน้อย
หุ้นกลุ่ม Softbank ของญี่ปุ่นพุ่งสูงกว่า 12% ในการซื้อขายช่วงต้นตลาด หลังจากผู้พิพากษาระบุว่า รัฐบาลอนุมัติการควบรวมกิจการระหว่าง T-Mobile และ Sprint Softbank เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Sprint
ด้านดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น 0.29% ขณะที่ตลาดหุ้นออสเตรเลียเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน โดยดัชนี S&P/ASX 200 ปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 0.36%
อ้างอิงจากสำนักข่าว Reuters ระุบว่า หุ้นของ Blackmores บริษัทอาหารเสริมเพื่อสุขภาพมีแนวโน้มโดยรวมลดลงมากกว่า 15% ซึ่งก่อนหน้านี้ บริษัทได้ประกาศจ่ายเงินปันผลและความคาดว่ากำไรของปีนี้จะลดลงครึ่งหนึ่งเนื่องจากห่วงโซ่อุปทานของบริษัท ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโคโรนาไวรัส
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่น ปรับตัวสูงขึ้น 0.1%
· นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทสำหรับวันนี้ำว้ที่ระหว่าง 31.10 - 31.30 บาท/ดอลลาร์ โดยค่าเงินบาทน่าจะเป็นไปตามทิศทางการเคลื่อนไหวของ fund flow เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆเข้ามากระทบ
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจ ธุรกิจและเศรษฐกิจฐานราก ธนาคารออมสิน สำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ Startup (SSI) ประจำไตรมาส 4 ปี 62 โดยได้สำรวจกลุ่มตัวอย่างผู้ประกอบการ Startup ทั่วประเทศจำนวน 500 ตัวอย่าง พบว่า ค่าดัชนี SSIในไตรมาส 4 มีการปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า ถึงแม้ในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลจะดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านมาตรการที่หลากหลาย
- สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เปิดผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ประจำเดือน ก.พ.63 ลดลง 9.91% มาอยู่ที่ระดับ 72.75 โดยเป็นการปรับลดลงอยู่ในโชนชบเซา (Bearish) (ช่วงค่าดัชนี 40-79) เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี เนื่องจากนักลงทุนกังวลสถานการณ์การท่องเที่ยวและสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ เป็นปัจจัยฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุน
- นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมของไทย กล่าวถึงการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปี 63 ในวาระ 2 และ 3 ว่า ควรจะให้มีการอภิปรายเพิ่มเติมหรือควรจะให้ลงมติเลยหรือไม่นั้น เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาลและคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน จะมีการบริหารจัดการร่วมกัน ซึ่งต้องเป็นไปตามกรอบที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมา