· ราคาทองคำปรับตัวลงจากดอลลาร์ที่แข็งค่า ขณะที่กลุ่มนักลงทุนกลับถือครองสินทรัพย์เสี่ยงจากการที่จำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตในจีนอยู่ในอัตราที่ชะลอลง ประกอบกับภาคโรงงานอุตสาหกรรมจีนที่ทยอยกลับมาเปิดทำการ จึงช่วยลดความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก
· ราคาทองคำตลาดโลกปิดปรับลง 0.3% ที่ 1,567.26 เหรียญ โดยลดลงจากวันจันทร์ที่ไปทำสูงสุดตั้งแต่ 4 ก.พ. ที่ระดับ 1,576.76 เหรียญ
· สัญญาทองคำส่งมอบเดือนเม.ย. ปิดปรับลง 0.6% ที่ 1,570.10 เหรียญ
· กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ ทำการซื้อทองคำ 6.15 ตัน โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 922.23 ตัน
· นักวิเคราะห์จาก High Ridge Futures กล่าวว่า ราคาทองคำปรับลงหลังตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลางความกังวลไวรัสโคโรนาที่ลดลง แต่ถึงอย่างนั้นราคาทองคำก็มีแรงช้อนซื้อเมื่อปรับลงมา ดังนั้น แม้ตลาดหุ้นทั่วโลกจะแข็งแกร่ง แต่ทองคำก็ยังมีแนวโน้มปรับขึ้นได้ดี
· รายงานจาก Business News ระบุว่า หลังจากมีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนากว่า 1,000 รายในจีน แต่ภาพรวมที่ปรึกษาทางการแพทย์บางส่วนเชื่อว่าการแพร่ระบาดดังกล่าวจะสามารถยุติลงได้ในช่วงเม.ย. อันจะเห็นจากจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตมีอัตราที่ชะลอตัวลง
นอกจากค่าเงินดอลลาร์จะเป็นปัจจัยที่กดดันทองคำแล้ว ถ้อยแถลงของนายเจอโรม โพเวลล์ต่อคณะกรรมาธิการด้านการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ที่หนุนมุมมองเชิงบวกทางเศรษฐกิจสหรัฐฯก็ดูจะเป็นปัจจัยลบต่อราคาทองคำเช่นกัน แต่เขาก็มีความกังวล และระบุถึงความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐฯจะถูกคุกคามในระยะยาวจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
อย่างไรก็ดี การที่เฟดตัดสินใจคงดอกเบี้ยในการประชุมเดือนที่แล้ว มาจากมุมมองภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตด้วยดีในระดับปานกลางและตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่ง
· นักวิเคราะห์การตลาดอาวุโสจาก OANDA กล่าวว่า ราคาทองคำระยะยาวเป็นขาขึ้น และยังคงมีแรงสนับสนุนจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นของบรรดาธนาคารกลางต่างๆ และความเสี่ยงทางเศรษฐกิจโลกที่เพิ่มสูงขึ้นจุดประกายแนวทางการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทั่วโลก
· ข้อมูลการนำเข้าทองคำของจีนปรับตัวสูงขึ้นในเดือนธ.ค. ซึ่งดูจะเป็นการขึ้นเพียงชั่วคราวก่อนได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนาที่สร้างความกังวลและความไม่แน่นอนมากขึ้นต่อทิศทางเศรษฐกิจจีน จึงอาจทำให้เราเห็นอุปสงค์ทองคำในจีนปรับตัวลดลงได้
ในรายงานจาก Kitco ระบุถึง นักเศรษฐศาสตร์บางส่วน คาดว่าราคาทองคำในอินเดียที่สูงขึ้น ประกอบกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจจีน จะเป็นปัจจัยลบต่อความต้องการทองคำในปี 2020
· Goldman Sachs หั่นคาดการณ์จีดีพีจีนปีนี้จาก 5.8% เหลือเพียง 5.2% พร้อมคาดจีดีพีไตรมาสแรกนี้จะขยายตัวได้เพียง 2% ขณะที่ภาพรวมอุปสงค์ทองคำจีนได้รับผลกระทบครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงพ.ค.ปีที่แล้วที่ระดับราคาปรับตัวขึ้น โดยจะเห็นได้ว่าช่วงไตรมาสที่ 2/2019 อุปสงค์ทองคำปรับลงประมาณ 27%
· หัวหน้านักวิเคราะห์ฝ่ายการตลาดจาก INTL FCStone กล่าวว่า ขณะที่ราคาทองคำค่อยๆปรับตัวสูงขึ้น แต่ความต้องการทองคำแท่งกลับปรับตัวลงมาประมาณ 15% เมื่อเทียบกับปี 2018 และทำให้คาดว่าปีนี้ความต้องการทองคำจากจีนปีนี้จะปรับตัวลงไปประมาณ 10% ท่ามกลางจีนที่ต้องใช้เวลาฟื้นตัวจากปัญหาไวรัสโคโรนา ที่ประสบปัญหาตั้งแต่ช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา ขณะที่ภาพรวมการลงทุนทองดูจะน่าสนใจกว่าการเข้าซื้อทองคำเพื่อการสวมใส่
· ราคาพลาเดียมปิด -0.6% ที่ 2,339.26 เหรียญ ด้านซิลเวอร์ปิด -0,7% ที่ 17.63 เหรียญ และแพลทินัมปิด +0.9% ที่ 969.43 เหรียญ