• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563

    13 กุมภาพันธ์ 2563 | SET News

· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลง เนื่องจากเหล่านักลงทุนถูกกดดันจากรายงานที่ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาจากมณฑลหูเป่ยที่เพิ่มสูงขึ้น

ด้านตลาดหุ้นจีนปรับตัวสูงขึ้นในช่วงต้น ก่อนจะปิดลดลง โดยดัชนี Shanghai composite ลดลง 0.71% ที่ระดับ 2,906.07 จุด

ขณะที่ความเชื่อมั่นของตลาดเป็นไปในเชิงบวกในช่วงต้นสัปดาห์ เนื่องจากข้อมูลแสดงให้เห็นว่าการชะลอตัวของยอดผู้ติดเชื้อและจำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสดังกล่าวลดลง ท่ามกลางการที่ผู้กำหนดนโยบายในประเทศจีนได้ประกาศมาตรการเพื่อต่อสู้กับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจจากการระบาดของไวรัส

ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่น ปรับตัวลง 0.17%

· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลง เนื่องจากยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาในจังหวัดหูเป่ยที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของตลาด

โดยดัชนี Nikkei ลดลง 0.14% ที่ระดับ 23,827.73 จุด ด้านดัชนี Topix ลดลง 0.34% ที่ะรดับ 1,713.08 จุด

เจ้าหน้าที่ของจีน กล่าวว่า จำนวนผู้เสียชีวิตและผู้ป่วยรายใหม่ของจีนจากการระบาดของไวรัสดังกล่าว นเพิ่มสูงขึ้น โดยมีผู้เสียชีวิต 242 รายและผู้ป่วยเพิ่มอีก 15,000 คนในมณฑลหูเป่ย

· ตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวลดลง หลังจากที่ปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกัน 7 วันทำการ เนื่องจากรายงานที่ว่ามณฑลหูเป่ยมียอดผู้ป่วยที่ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาเพิ่มมากขึ้น

โดยดัชนี Shanghai Composite ลดลง 0.7% ที่ระดับ 2,906.07 จุด

· ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาเพิ่มสูงขึ้น โดยดัชนี Stoxx600 ลดลง 0.4%

ดัชนีดังกล่าวได้ทำสถิติสูงสุดใหม่ในช่วงสองช่วงที่ผ่านมา จากมุมมองเชิวบวกเกี่ยวกับยอดผู้ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวที่ดูเหมือนจะลดลง

อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ ที่มีนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เป็นประธาน ได้สั่งการให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ หรือ สบน.ไปพิจารณาถึงความเหมาะสมในการก่อหนี้เพิ่มเติมเพื่อเตรียมพร้อมใช้ในโครงการลงทุนใหม่ของรัฐบาล รองรับการเบิกจ่าย พ.ร.บ. งบประมาณปี 63 ที่คาดว่าจะมีความล่าช้าออกไป โดยการก่อหนี้เพิ่มจะเป็นหนึ่งในแนวทางที่รัฐบาลเตรียมนำมาใช้เพื่อลดผลกระทบจากการเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้า โดยเฉพาะโครงการลงทุนใหม่ที่ไม่สามารถเบิกได้หากงบประมาณยังไม่ผ่านความเห็นชอบ ส่วนจะมีการก่อหนี้เป็นจำนวนเท่าใดยังไม่สามารถระบุได้

- "กรุงศรี" จ่อรื้อเป้าหมายสินเชื่อปีนี้ หลังเผชิญปัญหาไวรัสโคโรนา จากเดิมคาดเติบโต 5-7% พร้อมสั่งคุม "เอ็นพีแอล" ไม่เกิน 2.5% ยอมรับปีนี้เผชิญความท้าทายมากขึ้นจากปัจจัยทั้งใน-นอกประเทศ มั่นใจกรณี "แบงก์ชาติ" เตรียมรื้อค่าธรรมเนียมใหม่ ไม่กระทบรายได้

- นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯคาดการณ์ปริมาณส่งออกข้าวไทยปี 2563 ไว้ที่ 7.5 ล้านตัน มูลค่า 4,200 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 130,000 ล้านบาท ซึ่งใกล้กับปี 2562 ที่ส่งออกได้ 7.58 ล้านตัน

- นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ได้ส่งเรื่องการขยายอายุสัมปทาน ระยะเวลา 15 ปี 8 เดือนให้กับบมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) เพื่อแลกกับการยุติข้อพิพาทเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตั้งแต่วันที่ 7ก.พ.ที่ผ่านมา พร้อมยืนยันดำเนินการถูกต้องภายใต้การคำนวณจากตัวเลขสถิติปริมาณการใช้รถบนทางด่วน ทั้งนี้ กรณีดังกล่าว การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เป็นผู้ทำผิดสัญญาจากการสร้างทางแข่งขัน และไม่ให้ปรับขึ้นค่าผ่านทาง รวมคดีที่ BEM ฟ้องมี 17 คดี รวมมูลหนี้ 1.3 แสนล้านบาท แต่ กทพ.ได้เจรจาลดลงเหลือ 5.8 หมื่นล้านบาท โดยไม่มีตัวเลขการใช้งานจริงรับรอง ดังนั้น คณะทำงานที่แต่งตั้งขึ้นมาให้ดูแลเรื่องนี้คำนวณตัวเลขจากข้อมูลกรมทางหลวง และ กทพ.ที่มีการเก็บสถิติรถวิ่งผ่านทางด่วนกับค่าผ่านทาง คิดมาแล้วที่ BEM สูญรายได้ไปกว่า 7 หมื่นกว่าล้านบาท ซึ่งต่ำกว่า 1.3 แสนล้านบาท และเป็นตัวเลขความเสียหายอย่างเป็นทางการ

- น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ระบุว่า ศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้องของพรรคอนาคตใหม่ที่ขอให้เปิดไต่สวนโดยเปิดเผยในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้วินิจฉัยยุบพรรคกรณีกู้เงิน 191 ล้านบาทจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค แต่ศาลฯ ได้ขยายวันให้พยานส่งคำชี้แจงไปเป็นภายในวันที่ 17 ก.พ.นี้ จากเดิมกำหนดให้จัดทำบันทึกถ้อยคำส่งให้ศาลฯ ภายในวันที่ 12 ก.พ.63

อย่างไรก็ตาม ศาลฯ ยังยืนยันกำหนดวันวินิจฉัยคดีคือวันที่ 21 ก.พ.63 ตามเดิม

อ้างอิงจากสำนักข่าวกรุงเทพธุรกิจ

- นายชวน ได้ดำเนินการประชุมตามระเบียบวาระในการพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณเป็นรายมาตรา โดย นายชวน กล่าวถึงที่มาของการประชุมวันนี้ว่าเป็นผลมาจากการที่มีข่าวออกมาว่ามีการเสียบบัตรแทนกันของ ส.ส. จนทำให้ ส.ส.รัฐบาลและฝ่ายค้านเข้าชื่อเพื่อส่งให้ประธานสภาฯ ส่งไปให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของร่างพระราชบัญญัติงบประมาณฯ ตามมาตรา 148(1) ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยออกมาแล้วว่ากระบวนการพิจารณาไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญเฉพาะการลงมติในวาระที่ 2 และวาระที่ 3 ของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา แต่กำหนดคำบังคับให้สภาฯ ดำเนินการใหม่ในวาระที่ 2 และ 3 ใหม่

- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากการติดตามข้อมูลทางเศรษฐกิจและปัจจัยที่เข้ามากระทบกัับเศรษฐกิจในหลายเรื่องทั้งงบประมาณยังล่าช้า การท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 และล่าสุดยังเกิดเหตุการณ์ความสูญเสียที่กระทบจิตใจคนไทยที่ จ.นครราชสีมา จะส่งผลให้เศรษฐกิจในไตรมาสที่ 4 ปี 2562 ต่อเนื่องมาถึงไตรมาสที่ 1 ปี 2563 จะออกมาไม่ดีนัก

สำหรับเศรษฐกิจไตรมาสที่ 4 ปี 2562 คาดว่าผลิตภัณฑ์รวมภายในประเทศ (จีดีพี) จะขยายตัวได้ไม่ถึง 2% ส่วนในไตรมาสที่ 1 ปี 2563 จีดีพีอาจจะขยายตัวได้ไม่ถึง 1% เนื่องจากมีผลกระทบในเรื่องการท่องเที่ยวที่รายได้จะหายไปจากการระบาดของไวรัสโคโรนาดังนั้นในช่วงนี้รัฐบาลคงต้องดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อประคองให้ผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปให้ได้

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com