• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563

    14 กุมภาพันธ์ 2563 | SET News
 

· ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่กังวลต่อรายงานการพบผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากไวรัสโคโรนามากขึ้น โดยดัชนีดาวโจนส์ปิด -128.11 จุด หรือ -0.4% ที่ระดับ 29,423.31 จุด ทางด้านS&P500 ปิดปรับลงเกือบ -0.2% ที่ 3,373.94 จุด และ Nasdaq ปิด -0.1% ที่ 9,711.97 จุด

· หุ้นยุโรปปิดปรับลงเช่นกัน โดย ดัชนี Stoxx 600 ปิด -0.15% ท่ามกลางหุ้นส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในแดนลบ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซที่ดูจะฉุดให้หุ้นในกลุ่มพลังงานปรับลงเกือบ 1%

· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลง ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสโคโรนาที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงกดดันความเชื่อมั่นของเหล่านักลงทุนในตลาด

โดยเช้านี้ ดัชนี Nikkei ลดลง 0.65% เนื่องจากดัชนี Fast Retailing ลดลง 1.77% ด้านกัชนี Topix ลดลง 0.62% ขณะที่หุ้น Nissan ร่วงลงไปมากกว่า 6% หลังจากที่บริษัทปรับลดการคาดการณ์ผลการดำเนินงานประจำปีลงมากกว่า 40%

ทางด้านดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้ ลดลง 0.21% ขณะที่ดัชนี S&P/ASX 200 ออสเตรเลีย เคลื่อนไหวค่อนข้างทรงตัว

ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่น ปรับลดลงเล็กน้อย 0.06%

นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาไปยังการที่จีนจะทำการปรับลดภาษีนำเข้าสหรัฐฯบางส่วนมูลค่า 7.5 หมื่นล้านเหรียญที่จะมีผลในคืนวันนี้ ตามที่จีนเคยประกาศไว้ในช่วงต้นเดือนก.พ. โดยจีนจะปรับลดภาษีสินค้าสหรัฐฯในกลุ่มที่ขึ้น 10% เหลือ 5% และกลุ่มที่ขึ้น 5% สู่ระดับ 2.5%

อย่างไรก็ดี กลุ่มนักลงทุนในตลาดก็จับตาสถานการณ์ไวรัสโคโรนาอย่างใกล้ชิดหลังจากที่ข้อมูลเมื่อวานยังคงมีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มเติม

· นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทไว้ที่ระหว่าง 31.05 - 31.25 บาท/ดอลลาร์ โดยค่าเงินบาทยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ซึ่งกลับมาแข็งค่าสุดในรอบวันเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลังจากที่ร่างพ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปี 63 ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรในวาระที่ 2-3 อย่างไรก็ดี คาดว่าในวันนี้เงินบาทยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบเช่นเดิม เนื่องจากรอปัจจัยใหม่เข้ามามากระทบ

· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- สภาผู้แทนราษฎร ลงมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ ปี 63 ในวาระที่ 2 และ 3 ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้มีการลงมติอีกครั้ง หลังจากเกิดปัญหาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เสียบบัตรแทนกันในการพิจารณาครั้งก่อน

- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีของไทย เปิดเผยว่า วันนี้กระทรวงการคลังจะหารือร่วมกักระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงแรงงาน กระทรวงพาณิชย์ เพื่อหามาตรการดูแลเฉพาะหน้าจากปัญหาไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)ที่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว ซึ่งไม่ใช่กระทบแค่ผู้ประกอบการ แต่รวมไปถึงประชาชนที่มีอาชีพเกี่ยวกับการท่องเที่ยวด้วย รวมถึงต้องกระตุ้นโครงการไทยเที่ยวไทยมาช่วยหนุน เพื่อให้เกิดการจ้างงานและมีรายได้หล่อเลี้ยงในชุมชน

- ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ปรับประมาณการเงินบาท ณ สิ้นปี 63 มาอยู่ที่ระดับ 30.00-30.50 บาท/ดอลลาร์ โดยคาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเดือนมี.ค.63 โดยปัจจัยเสี่ยงต่อประมาณการค่าเงินบาท ได้แก่ ความเสี่ยงสงครามการค้า, ความไม่แน่นอนทางการเมืองของสหรัฐฯ, ความเสี่ยงที่ไทยจะถูกเข้ากลุ่มเฝ้าระวังเป็นผู้แทรกแซงค่าเงิน และการถอนเงินฝากในบัญชีเงินตราต่างประเทศ (FCD) ในช่วงที่เงินบาทอ่อนค่า

- ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ของไทย ประเมินว่า ทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 63 จะมีภาวะที่ค่อนข้างทรงตัวต่อเนื่องจากปี 62 แต่มีโอกาสที่จะขยายตัวได้สูงถึง 5-7% หากเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศมีการขยายตัวดีขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงานและความมั่นใจของผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในการตัดสินใจที่จะซื้อที่อยู่อาศัยมากขึ้น

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com