รายงานจาก Financial Times ระบุว่า เฟดกำลังเร่งอัตราการถอยออกจากนโยบายสนับสนุนเงินทุนให้กับตลาดในระยะสั้นเร็วยิ่งกว่าเดิม แม้ว่าบรรดานักลงทุนยังคงมีความต้องการในเงินทุนสำรองจากเฟดอยู่ระดับสูงก็ตาม
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เฟดสาขานิวยอร์กได้เปิดเผยว่าจะทำให้ลดขนาดการเข้าแทรกแซงตลาด Repo หรือธุรกรรมซื้อคืน ซึ่งเป็นตลาดที่บรรดานักลงทุนแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์คุณภาพสูงอย่างพันธบัตรสหรัฐฯเป็นเงินสด จึงเป็นสัญญาณล่าสุดของการที่เฟดจะผลักดันนักลงทุนออกจากกองทุนที่เฟดเป็นผู้ออกให้กับตลาดเมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา
นโยบายใหม่ที่จะลดขนาดกองทุนเฟดเป็นผู้ปล่อยให้กู้ในแต่ละวัน จะถูกปรับลงจากระดับ 1.2 แสนล้านเหรียญ สู่ระดับ 1 แสนล้านเหรียญ โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันศุกร์นี้ นอกจากนี้ เฟดจะจำกัดมูลค่าการปล่อยระยะ 2 สัปดาห์ลงสู่ระดับ 2.5 หมื่นล้านเหรียญ จากเดิมที่ 3 หมื่นล้านเหรียญ ภายในเดือน มี.ค. เมื่อเป็นเช่นนั้น เฟดจะมีเพดานของอัตราปล่อยกู้ยะยะ 2 สัปดาห์อยู่ที่ 2 หมื่นล้านเหรียญ
บรรดานักวิเคราะห์ต่างมีความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เนื่องจากนายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด และสมาชิกเฟดรายอื่นๆ ได้ส่งสัญญาณเกี่ยวกับการถอยห่างออกจากตลาด Repo มาตลอดช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา แม้จะสร้างความประหลาดใจให้กับนักวิเคราะห์บางราย เนื่องด้วยมูลค่าที่ปรับลดลงมากกว่าที่คาดไว้ก็ตาม
นายโพเวลล์ได้กล่าวเอาไว้เมื่อการรายงานตนต่อสภาคองเกรสในช่วงสัปดาห์นี้ไว้ว่า เขาคาดการณ์ว่าปริมาณการถือครองเงินทุนสำรองของเฟดจะถูกทยอยปรับลดลงภายในช่วงปลายปีนี้ เพื่อป้องกันภาวะขาดแคลนเงินทุนเมื่อในเดือน ก.ย. ซึ่งก่อนหน้านี้ ตลาดมีแนวคิดว่าตลาด Repo ได้หลุดการควบคุมไปเมื่อ 5 เดือนก่อน เนื่องจากปริมาณเงินทุนสำรองปรับลดลงต่ำเกินไป ทำให้บรรดาธนาคารเลี่ยงการปล่อยกู้ระยะสั้น
เฟดมีการเข้าซื้อพันธบัตรเป็นมูลค่า 6 หมื่นล้านเหรียญในแต่เดือน เพื่อเพิ่มปริมาณเม็ดเงินในตลาด และเงินทุนสำรองของเฟด ซึ่งปัจจุบัน เฟดมีการถือครองเงินทุนสำรองอยู่ที่ 1.58 ล้านล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นจากเดือน ก.ย. ที่ 1.3 ล้านล้านเหรียญ
หัวหน้าฝ่ายเศรษฐศาสตร์จากสถาบัน Wrightson Icap มีมุมมองว่า นโยบายดังกล่าวของเฟด เป็นแนวคิดที่ดีเลยทีเดียว เนื่องจากระดับที่เหมาะสมสำหรับการทยอยลดการแทรกแซงลง
อย่างไรก็ตาม ปริมาณความต้องการเงินทุนจากเฟดยังคงมีอยู่ในระดับสูง เห็นได้จากการที่การปล่อยเงินกู้ระยะ 2 สัปดาห์เมื่อเร็วๆนี้ มีปริมาณความต้องการมากกว่าระดับ 3 หมื่นล้านเหรียญเกือบเท่าตัว ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่ามีสาเหตุมาจากการที่ปริมาณการปล่อยกู้ของเฟดมีค่อนข้างต่ำหรือเฉลี่ยที่ต่ำกว่า 1.6%
ดังนั้น หัวหน้าฝ่ายเศรษฐศาสตร์จึงคาดว่า จะสามารถเห็นความชัดเจนของปริมาณอุปสงค์ในตลาดได้อีกมาก เมื่ออัตราการปล่อยกู้ระยะ 2 สัปดาห์ถูกปรับลงต่ำกว่า 2 หมื่นล้านเหรียญ
ที่มา: Financial Times