MTS Help Center

· ตลาดหุ้นเอเชียฟื้นตัวขึ้นมาปิดในแดนบวก หลังจากปรับลดลงไปเมื่อเช้า ท่ามกลางมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากแรงกดดันของการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาโดยรัฐบาลจีน จึงช่วยหนุนความเชื่อมั่นของนักลงทุนกลับขึ้นมาได้บางส่วน ขณะที่หุ้นญี่ปุ่นปรับลดลง หลังการรายงานตัวเลขการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่ออกมาชะลอตัวลง

โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปรับสูงขึ้น 0.3% ใกล้ระดับสูงสุดของสัปดาห์ก่อนที่ 558.30 จุด ซึ่งยังเป็นระดับสูงสุดของเดือน ม.ค.

ตลาดยังได้รับแรงหนุนมาจากการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยและอัดฉีดเม็ดเงินเพิ่มเติมของธนาคารกลางจีนในวันนี้อีกด้วย

· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับลดลงทำระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ครึ่ง หลังการประกาศอัตราการเติบโตของ GDP ญี่ปุ่นในเดือน ธ.ค. ที่ออกมาต่ำกว่าที่คาด ประกอบมุมมองของบรรดาผู้ประกอบการที่เป็นลบต่อเศรษฐกิจกำลังกดดันการลงทุนในตลาด

ดัชนี Nikkei ปิด -0.7% ที่ระดับ 23,523.24 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของวันที่ 5 ก.พ. ขณะที่ดัชนี Topix ปิด -0.9% ที่ระดับ 1,687.77 จุด ระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ครึ่ง

· ตลาดหุ้นจีนปรับสูงขึ้น หลังธนาคารกลางจีนประกาศออกมาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจจากผลกระทบของเชื้อไวรัสโคโรนา ผู้ประกอบการายใหม่ในประเทศจึงปรับสูงขึ้นและทำระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 ปีได้ โดยดัชนี CSI300 ปรับขึ้นได้ 1.2% แถว 4,036.38 จุด ขณะที่ดัชนี Shanghai Composite ปิด +1.3% ที่ระดับ 2,955.07 จุด

· ตลาดหุ้นยุโรปเปิดแดนบวกใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ตลาดยังคงจับตาสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา หลังธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบต่อเศรษฐกิจ โดยดัชนี Stoxx 600 เปิด +0.3% นำโดยหุ้นกลุ่มยานยนต์

· Wall Street Week Ahead: นักลงทุนเริ่มกลับเข้าหาตลาดเกิดใหม่ ท่ามกลางการระบาดของไวรัสโคโรนา

รายงานจาก Reuters ระบุว่าบรรดานักลงทุนเริ่มกลับเข้ามาลงทุนในตลาดเกิดใหม่ แม้การระบาดของไวรัสโคโรนาจะเป็นปัจจัยที่กดดันการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงก็ตาม

อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยชี้นำตลาด ขณะที่ช่วงเช้าวันนี้สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปี 63 ลงเหลือ 1.5-2.5% ต่ำกว่าคาดการณ์เดิมที่ 2.7-3.7% แต่ก็ไม่ได้กดดัน Sentiment การลงทุนมากนัก เพราะตลาดฯน่าจะรับรู้ปัจจัยต่าง ๆ ไปบ้างแล้ว

อย่างไรก็ตาม มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มสื่อสาร หลังทราบผลการประมูลคลื่น 5G ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่เข้าลงทุนในหุ้น ADVANC, TRUE เป็นหลัก และหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการวางระบบโทรคมนาคมที่คาดว่าจะได้รับผลดีไปด้วย รวมถึงในหุ้นที่มีผลประกอบการดี อย่าง TASCO

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้าที่ผ่านมาเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบสลับกัน

- สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ แถลงตัวเลขอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในไตรมาส 4/62 ขยายตัว 1.6% เทียบกับการขยายตัว 2.6% ในไตรมาสก่อนหน้า (%YoY) และเมื่อปรับผลของฤดูกาลออกแล้ว เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4/62 ขยายตัว 0.2% จากไตรมาสที่ 3/62 (%QoQ SA)

ในด้านการผลิต ภาคเกษตรลดลงตามการลดลงของผลผลิตพืชหลัก ส่วนภาคนอกเกษตรชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้าตามการลดลงของภาคอุตสาหกรรม ขณะที่ภาคบริการขยายตัวดีต่อเนื่อง ด้านการใช้จ่าย การใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคขั้นสุดท้ายของเอกชนขยายตัวดีต่อเนื่อง การลงทุนรวมชะลอตัวตามการลดลงของการลงทุนภาครัฐบาล ขณะที่การอุปโภคขั้นสุดท้ายของรัฐบาล และการส่งออกและนำเข้าสินค้าและบริการลดลง

- กระทรวงพาณิชย์รายงานว่า คณะผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การการค้าโลก (ดับบลิวทีโอ) และองค์การทรัพย์สินทางปัญญา

โลก (ไวโป) รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ดับบลิวทีโอ ได้เผยแพร่รายงานติดตามสภาวะการค้าของดับบลิวทีโอ โดยระบุว่าการค้าโลกทวีความตึงเครียดมากขึ้น เพราะในรอบ 1 ปี หรือตั้งแต่เดือน ต.ค.61-ต.ค.62 สมาชิกดับบลิวทีโอใช้มาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างกันมากขึ้น ครอบคลุมมูลค่าการค้าราว 750,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สูงสุดนับตั้งแต่ปี 55 และเพิ่มขึ้นถึง 27% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าที่มีมูลค่า 588,300 ล้านเหรียญ สร้างความไม่แน่นอนต่อการค้าระหว่างประเทศ ทำให้ปีนี้การค้าโลกจะขยายตัวเพียง 2.7% จากเดิมคาดขยายตัว 3%

- กสทช. จัดงานประมูลคลื่นความถี่ 5G ทำรายได้ให้รัฐรวม 100,521 ล้านบาท จาก 3 คลื่นความถี่ 700 MHz 2600 MHzและ 26 GHz โดยประมูลออกทั้งหมด 48 ใบอนุญาต จากทั้งหมด 49 ใบอนุญาต หลังจากนี้ กสทช.จะนำผลการประมูลเข้าประชุมบอร์ด เพื่อรับรองผลภายในวันที่ 19 ก.พ.นี้ เพื่อให้โอเปอเรเตอร์เริ่มลงทุนในช่วงต้นเดือน มี.ค.