· ราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้กว่า 1% กลับมายืนเหนือ 1,600 เหรียญได้อีกครั้ง โดยราคาทองคำตลาดโลกปิด +1.3% ที่ 1,601 เหรียญ และมีการทำสูงสุดตั้งแต่ 8 ม.ค. บริเวณ 1,605 เหรียญในช่วงต้นตลาด ด้านสัญญาทองคำส่งมอบเดือนเม.ย. ปิด +1.1% ที่ 1,603.6 เหรียญ
ทั้งนี้ ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นได้ หลังจากที่บริษัท Apple Inc สร้างเซอร์ไพร์สตลาดด้วยการกล่าวเตือนถึงการได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา จึงตอกย้ำความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับภาวะความอ่อนแอทางเศรษฐกิจโลก และทำให้นักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง
· กองทุนทองคำ SPDR เพิ่มการถือครองทองคำเมื่อวานนี้อีก 5.85 ตัน ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 929.84 ตัน ซึ่งเป็นระดับการถือครองทองคำที่มากทีสุดนับตั้งแต่ 14 พ.ย. ปี 2016
· พลาเดียมทำ All-Time High ที่ 2,592.02 เหรียญ และปิดตลาดที่ +2.8% บริเวณ 2,592 เหรียญ จากภาวะอุปทานที่ลดลงในกลุ่มโลหะที่ใช้ผลิตรถยนต์ โดยเป็นผลจากปัญหาการผลิตชิ้นส่วนในแอฟริกาใต้
· กรรมการผู้จัดการจาก High Ridge Futures ระบุถึงการที่ตลาดหุ้นเผชิญแรงกดดัน และทองคำยังคงถูกต้องการในฐานะ Safe Haven ดังนั้น เมื่อเราเห็นข่าวในเชิงลบเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาที่สะท้อนถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกจึงเป็นปัจจัยบวกต่อทองคำ
· บริษัทด้านเทคโนโลยีรายใหญ่อย่าง Apple เผยว่ามีแนวโน้มจะพลาดเป้าผลกำไรในช่วงไตรมาสนี้ (ม.ค. - มี.ค.) จากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาที่สร้างแรงกดดันต่อห่วงโซ่อุปทาน พร้อมเผยถึงยอดขายที่ปรับตัวลง จึงกดดันทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
· หัวหน้านักกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์จาก TD Securities มองว่า ความกังวลโดยส่วนใหญ่ยังเป็นเรื่องของไวรัสโคโรนาที่อาจย่ำแย่กว้าที่คาดการณ์ไว้เพียงเล็กน้อยนั้น ดูจะส่งผลให้บรรดาธนาคารกลางต่างๆทั่วโลก มีแนวโน้มจะผ่อนคลายทางการเงินเพิ่ม และตลาดดูจะตอบรับกับความเป็นจริงในข้อนี้
· นักวิเคราะห์บางราย ระบุถึงทิศทางทองคำที่ดูจะยังเคลื่อนไหว Sideways ในลักษณะค่อยๆปรับตัวสูงขึ้น แม้จะมีปัจจัยลบจากดอลลาร์ที่แข็งค่าก็ตาม แต่ภาพรวมของทองคำยังอยู่ในทิศทางที่แข็งแกร่ง
· ราคาซิลเวอร์ปิด +2.2% ที่ 18.16 เหรียญ ด้านแพลทินัมปิด +2.3% ที่ระดับ 991.22 เหรียญ