• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563

    19 กุมภาพันธ์ 2563 | SET News

· นักวิเคราะห์จาก FXStreet กล่าวว่า ดัชนี S&P500 ปรับตัวสูงขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ย SMA ในกราฟราย 4 ชม. หลังจากที่ดัชนียังคงทำ All-Time Highs อย่างต่อเนื่อง โดยจุดที่น่าสนใจเข้าซื้อให้คอยดูแนว 3,400 จุด เพราะหากผ่านไปได้มีโอกาขึ้นไปที่ 3,450 จุด และ 3,500 จุด ในทางกลับกันหากดัชนีต่ำกว่า 3,425 จุดที่เป็นแนวรับ ก็มีโอกาสเห็นดัชนีปรับตัวต่ำลงกว่า 3,300 จุด และ 3,255 จุดได้

· ตลาดหุ้นเอเชียและสัญญาซื้อขายหุ้นสหรัฐฯล่วงหน้าปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่ผ่อนคลายความกังวลเกี่ยวกับการระบาดไวรัสโคโรนา หลังจากที่ยอดผู้ติดเชื้อปรับลดลงเล็กน้อย

โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 0.4%

ขณะที่ประเทศจีนยังคงพยายามเพื่อให้ภาคการผลิตกลับมาเปิดเป็นปกติ หลังจากได้รับผลกระทบจากการระบาดไวรัสในมณฑลหูเป่ยเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา

· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นรีบาวน์ เนื่องจากความเชื่อมั่นของเหล่านักลงทุนดีขึ้นเล็กน้อย หลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดต่ำลงและ Apple เผยว่ามีแนวโน้มจะพลาดเป้าผลกำไรในช่วงไตรมาสนี้ (ม.ค. - มี.ค.) จากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาที่สร้างแรงกดดันต่อห่วงโซ่อุปทาน พร้อมเผยถึงยอดขายที่ปรับตัวลง ท่ามกลางวิกฤตการระบาดของไวรัสยังคงมีอยู่

นักลงทุนมีความระมัดระวังการลงทุน เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาและการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มของรัฐบาลเมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ดัชนี Nikkei เพิ่มขึ้น 0.89% ที่ระดับ 23,400.70 จุด ด้านดัชนี Topix ฟื้นตัว 0.37% ที่ระดับ 1,671.89 จุด หลังจากที่ปรับลดลงจากระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน

· ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสโคโรนา ซึ่งมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 2,000 รายและกดดันภาคธุรกิจภายในประเทศ

โดยดัชนี Shanghai Composite ลดลง 0.3% ที่ระดับ 2,975.40 จุด หลังดัชนีเพิ่มขึ้นได้ในช่วง 3 วันก่อนหน้านี้

· ตลาดหุ้นยุโรปเปิดปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากเหล่านักลงทุนให้ความสนใจไปยังการระบาดของไวรัสโคโรนาและการประกาศข้อมูลทางเศรษฐกิจใหม่

โดยดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้น 0.5% ด้านหุ้นทรัพยากรเพิ่มขึ้น 1.2% ท่ามกลางตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในแดนบวก

คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน กล่าวว่า เมื่อคืนวันอังคารมีผู้ติดเชื้อจากไวรัสโคโรนาใหม่จำนวน 74,185 รายที่ได้รับการยืนยันในประเทศและมีผู้เสียชีวิต 2,004 ราย

ขณะที่อัตราการชะลอตัวเล็กน้อยของผู้ป่วยรายใหม่ทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนเพิ่มขึ้น ท่ามกลางตลาดที่ให้ความสนใจไปยังความพยายามของจีนที่จะกลับมาเปิดทำการอีกครั้งหลังจากการปิดโรงงานเป็นเวลานาน

อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- รายงานกนง. ระบุเสถียรภาพการเงินเปราะบางมากขึ้นกระทบรายได้ภาคธุรกิจ-ครัวเรือน

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยรายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เมื่อวันที่ 5 ก.พ.63 ซึ่งคณะกรรมการฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ต่อปี จาก 1.25% เป็น 1.00% ต่อปี

ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยในปี 63 มีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าประมาณการเดิม และต่ำกว่าระดับศักยภาพมากขึ้นมาก อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มต่ำกว่าขอบล่างของกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อตลอดช่วงประมาณการ เสถียรภาพระบบการเงินเปราะบางเพิ่มขึ้นจากแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจ

ในสถานการณ์เช่นนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องประสานมาตรการทั้งทางการเงินและการคลัง คณะกรรมการฯ จึงเห็นว่านโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเพิ่มขึ้น จะช่วยลดผลกระทบจากปัจจัยลบที่เกิดขึ้น รวมทั้งสนับสนุนสภาพคล่องและการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้กับภาคธุรกิจและครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งจะต้องเร่งดำเนินการให้เกิดผลชัดเจนขึ้น

- นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) กล่าวว่า วันนี้ (19 ก.พ.) ที่ประชุม กสทช. มีมติรับรองผลการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 700 MHz 2600 MHzและ 26 GHz ตามประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล ย่าน 700 MHz 1800 MHz 2600 MHz และ 26 GHz ที่สำนักงาน กสทช. ได้จัดให้มีการประมูลขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่16 ก.พ. 2563 ที่ผ่านมา เรียบร้อยแล้ว ผลการประมูลรวม 3 คลื่นความถี่ เป็นเงินประมูลรวมทั้งสิ้น 100,521 ล้านบาท

โดยหลังจากนี้ ผู้ชนะการประมูลสามารถชำระเงินงวดแรกพร้อมวางแบงค์การรันตีในส่วนที่เหลือได้ทันที จากนั้นสำนักงาน กสทช. จะได้ออกใบอนุญาตให้ผู้ชนะการประมูล เพื่อให้ผู้ชนะการประมูลสามารถดำเนินการนำเข้าอุปกรณ์และติดตั้งได้ภายในเดือน ก.พ. และสามารถเปิดให้บริการได้ในเดือน มี.ค. 2563

- นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) กล่าวยอมรับว่า บริษัทได้รับผลกระทบอย่างมากจากการแพร่ระบาดโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (ไวรัสโควิด-19) โดยทั้ง 6 สนามบิน ได้แก่ สุวรรณภูมิ,ดอนเมือง, ภูเก็ต, เชียงใหม่ , เชียงราย และ หาดใหญ่ มีจำนวนผู้โดยสารลดลงไป 25-30% ในช่วงนี้ จากเดิมที่มีวันละ 4.5-4.6 แสนคน/วัน มาที่ประมาณ 3 แสนคน/วัน เนื่องจากผู้โดยสารจากจีนมีสัดส่วนสูงถึง 26% สูงกว่าผู้โดยสารไทยมีสัดส่วน18%

ทั้งนี้ยอดผู้โดยสารสะสม ตั้งแต่ช่วง 1 ต.ค.62 -15 ก.พ. 63 ติดลบ 1.6% แม้ในช่วง 1 ต.ค.62- 23 ม.ค.63 จะมียอดเติบโต 2.9% จากฐานที่ใหญ่ในปีก่อน แต่หลังจากมีการแพร่ระบาดหนักทำให้ยอดเฉลี่ยสะสมถึง 12 ก.พ.63 ไม่มีการเติบโต จนมาถึงขณะนี้ติดลบแล้ว และในเดือน มี.ค.ก็ไม่มีความหวังว่าจะดีขึ้

- ประธานสมาคมธนาคารไทย เตรียมเรียกสมาชิกที่เป็นธนาคารพาณิชย์เข้ามาหารือถึงมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว หลังได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะจีนเข้ามาเที่ยวไทยลดลง ส่งผลให้ธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบตามไปด้วย จึงต้องร่วมมือกับภาครัฐออกมาตรการ เช่น การเพิ่มรายได้ หรือการลดรายจ่ายให้ผู้ประกอบการ เพราะกังวลว่าจะกระทบถึงลูกจ้างในธุรกิจดังกล่าวหากพบปัญหาจนผู้ประกอบการเลิกจ้างพนักงาน ทำให้คนงานตกงานในที่สุด

- ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัส โควิด-19 ระบาด ซึ่งขณะนี้ตัวเลขยังไม่นิ่ง โดยจะมีการทบทวนสถานการณ์เศรษฐกิจไทยและประเมินตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี)อีกครั้งในการประชุม คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เดือนมีนาคม 2563 คาดว่าจะมีการปรับประมาณการตัวเลขจีดีพี ปี 2563 ลง จากเดิม คาดว่าจะขยายตัว 2.8% ซึ่งเป็นตัวเลขที่ประเมินไว้ในช่วงเดือนธันวาคม 2562 ก่อนการระบาดของไวรัสโควิด-19

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com