· ราคาทองคำผ่าน 1,600 เหรียญขึ้นมาได้ และปิดทำสูงสุดรอบ 7 ปี ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่ทำการเข้าถือครองสินทรัพย์เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากระดับหุ้นที่สูงขึ้น ประกอบกับตลาดมีความกังวลเรื่องไวรัสโคโรนา
· ราคาทองคำตลาดโลกปิดปรับขึ้น +0.5% แถว 1,609.61 เหรียญ และราคายังคงปิดได้เหนือระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 27 มี.ค. ปี 2013 บริเวณ 1,606.2 เหรียญได้ ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนเม.ย. ปิดปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 5 โดยปิด +8.2 เหรียญ หรือคิดเป็น +0.51% ที่ระดับ 1,611.8 เหรียญ
· กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ทำการเข้าซื้อทองคำเพิ่มอีก 1.76 ตัน โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 931.6 ตัน ซึ่งเป็นระดับการถือครองทองคำที่มากทีสุดนับตั้งแต่ 14 พ.ย. ปี 2016
· ราคาทองคำยังคงปรับตัวขึ้นได้ดีจากความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจโลกจะเผชิญกับภาวะถดถอยจากไวรัสโคโรนาที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตพุ่งสูงกว่า 2,000 ราย และผู้ติดเชื้อสูงกว่า 74,000 ราย และถึงแม้ตลาดหุ้นทั่วโลกจะมีทิศทางเชิงบวกจากการที่จีนเริ่มกลับมาเปิดทำการเป็นส่วนใหญ่ ควบคู่กับอัตราการชะลอตัวของการติดเชื้อก็ดูจะไม่ได้ส่งผลกับราคาทองคำมากนัก
· ผู้จัดการด้านพอร์ตการลงทุนจาก Shaw and Partners ประจำซิดนีย์ กล่าวว่า ราคาทองคำปรับตัวขึ้นจากการใช้กลยุทธ์ Hedging มากกว่าจะเป็นการตอบรับต่อไวรัสโคโรนาโดยตรง ขณะที่อัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับต่ำจึงทำให้มีการถอนเงินลงทุนบางส่วนจากตลาดหุ้นเข้าถือทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยง
· นักวิเคราะห์จาก Citi Group มีการปรับเพิ่มคาดการณ์เป้าหมายราคาทองคำที่ระดับ 1,700 เหรียญ ในช่วง 6 – 12 เดือน และปรับคาดการณ์ราคาเฉลี่ยทองคำปีนี้เพิ่มขึ้นจาก 1,575 เหรียญ สู่ระดับ 1,640 เหรียญ
ขณะที่ช่วง 1 – 2 ปีจากนี้ คาดราคาทองคำอาจไปทำสูงสุดได้บริเวณ 2,000 เหรียญได้ โดยมีแนวโน้มที่ทองคำจะปรับขึ้นเหนือ 1,800-1,900 เหรียญ ซึ่งเป็นสูงสุดช่วงปี 2010/2011
อย่างไรก็ดี Citi Group เตือนถึงภาพรวมความต้องการทองคำในเอเชียมีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยเฉพาะจากยอดขายจิวเวลรี และนี่อาจเป็นปัจจัยลบที่มาชดเชยกันกับเม็ดเงินการลงทุน รวมทั้งการเข้าซื้อทองของบรรดาธนาคารกลางทั่วโลกได้