· นายจิม เครเมอร์ ผู้สื่อข่าวชื่อดังของ CNBC ในรายการ Mad Money กล่าวว่า นักลงทุนหวั่นวิตกต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในเกาหลีใต้ จึงยิ่งจุดประกายความกังวลว่าจะทำให้เกิดแรงเทขายเข้ามาในตลาดหุ้นมากขึ้น โดยอาจเห็นหุ้นปรับย่อลงมาได้ เนื่องจากตลาดยังปราศจากข่าวดีๆใดเกี่ยวกับไวรัสตัวนี้ ดังนั้น จึงค่อนข้างมั่นใจว่าจะเห็นราคาปรับลงต่อ นักลงทุนจึงควรเตรียมรับมือ
· ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวแดนลบท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับปัญหาไวรัสโคโรนา ที่กดดันให้บรรดาผู้ประกอบการหันเข้าถือครองสินทรัพย์ที่เป็นของสหรัฐฯ เพื่อถือครองเป็น Safe-haven หนุนให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าทำระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี
ขณะที่ผลประกอบการของภาคบริษัทกำลังตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะอ่อนแอลง เนื่องจากผู้ประกอบกำลังเร่งหาแหล่งการผลิตใหม่ๆนอกจากประเทศจีนเพื่อควบคุมความเสี่ยง
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับลดลง 0.8%
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดลบ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสโคโรนาในประเทศจีนและค่าเงินเยน จึงช่วยหนุนค่าเงินเยนที่อ่อนค่าเมื่อวานนี้ ขณะที่บรรดานักลงทุนพากันปิดสถานะก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
นักลงทุนพากันเทขายหุ้นในกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการเชื้อไวรัสอย่างการคมนาคม และพากันเข้าซื้อหุ้นในกลุ่มที่ให้สามารถบริการผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้แทน
ทั้งนี้ ดัชนี Nikkei ปิด -0.39% ที่ระดับ 23,386.74 จุด ส่วนดัชนี Topix ปิด -0.03% ที่ระดับ 1,674.00 จุด สำหรับภาพรวมรายสัปดาห์ Nikkei ปิด -1.27% และ Topix ปิด -1.70%
· ตลาดหุ้นจีนปรับสูงขึ้น โดยดัชนี Shanghai Composite มีแนวโน้มปิดตลาดสัปดาห์นี้แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย. ปีก่อน หลังจากธนาคารกลางจีนส่งสัญญาณจะเข้ากระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนา
โดยดัชนี Shanghai Composite ปรับขึ้น 0.5% แถว 3,044.11 จุด ภาพรวมรายสัปดาห์มีแนวโน้มปรับขึ้นได้ 4.4% ซึ่งเป็นอัตราที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ เม.ย. 2019
ส่วนดัชนี The blue-chip CSI300 ปรับขึ้น 0.5% ภาพรวมรายสัปดาห์มีแนวโน้มปรับขึ้นได้ 4.4% เช่นกัน ซึ่งเป็นอัตราที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ มิ.ย. ปีก่อน
· ตลาดหุ้นยุโรปเปิดแดนลบในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ของไวรัสโคโรนาอย่างต่อเนื่อง โดยดัชนี Stoxx 600 เปิด -0.6% นำโดยหุ้นกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานที่ปรับลดลง 1% ขณะที่หุ้นกลุ่มใหญ่ๆก็ต่างเคลื่อนไหวในแดนลบ
อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เสนอคลังเข็นมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจ ก้อนใหญ่-จัดทำงบประมาณปี 64 เน้นขาดดุลมากขึ้น หวังฟื้นเศรษฐกิจ เดินหน้า สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน พร้อมชงรัฐเร่งกู้เงินมาลงทุน หลังดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลอยู่ในระดับต่ำ
- ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่าเมื่อวันที่19ก.พ. ที่ผ่านมาได้หารือกับธนาคารพาณิชย์ที่เป็นสมาชิกสมาคมถึงความช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ โดยเฉพาะโควิด-19 ซึ่งทำให้กระทบต่อธุรกิจโรงแรมและท่องเที่ยวรวมทั้งแนวทางช่วยเหลือลูกจ้างของผู้ประกอบการ โดยแต่ละธนาคารได้มีแนวทางช่วยเหลือเดิมอย่างเพียงพอแล้ว แต่สมาคมฯต้องหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พิจารณาผ่อนปรนกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่เป็นข้อติดขัด ซึ่งรวมถึงการตั้งสำรองหนี้ของลูกหนี้ที่ได้ให้ความช่วย
เหลือจากผลกระทบดังกล่าวด้วย
- คลังติดสปีดเบิกจ่ายงบลงทุน 2563 จำนวน 6.4 แสนล้านบาท แตะเป้า 80% เผยไตรมาส 2/2563 พร้อมลงทุน 4 แสนล้าน ที่เหลือใช้ได้ไตรมาส 3 นอกจากนี้มีงบลงทุนจากรัฐวิสาหกิจอีก 3.5 แสนล้านบาท ที่จะเข้าสู่ระบบได้ทันที 1 แสนล้านบาทในเดือน มี.ค. ส่วนที่เหลือก็จะทำได้ไม่ต่ำกว่า 80% หวังช่วยดันเศรษฐกิจในประเทศ
- ศาลรัฐธรรมนูญ นัดออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยในคดีที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐ ธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ ตามมาตรา 72 ประกอบมาตรา 92 วรรรคหนึ่ง (3) แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรค
การเมือง 2560 จากกรณีพรรคอนาคตใหม่ กู้ยืมเงินจาก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จำนวน 191.2 ล้านบาทในบ่ายวันนี้
- บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค หรือ AWN ในกลุ่มเอไอเอส นำโดยนายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมคณะผู้บริหาร เข้ารับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อกิจการโทรคมนาคมย่าน 2600 MHz โดยมีพลเอกสุกิจ ขมะสุนทร ประธานกรรมการ กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เป็นผู้มอบ ที่สำนักงาน กสทช. อันเป็นการเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับประเทศไทย พร้อมพาคนไทยก้าวสู่ยุค 5G อย่างเต็มรูปแบบในฐานะผู้ให้บริการรายแรกของไทยที่ได้รับใบอนุญาต คลื่น 2600 MHz เพื่อให้บริการ 5G อย่างเป็นทางการ หลังชำระเงินค่าคลื่นความถี่งวดแรก จำนวน 2,093,027,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ไปแล้ว เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา