· หุ้นสหรัฐฯเผชิญแรงเทขายเข้ามา ขณะที่ Nasdaq ปิดรายวันแย่ที่สุดในรอบ 3 สัปดาห์ ท่ามกลางความกังวลครั้งใหม่เกี่ยวกับไวรัสโคโรนาและข้อมูลกิจกรรมภาคธุรกิจสหรัฐฯที่ชะลอตัวในเดือนก.พ. จึงยิ่งจุดประกายความกังวลของนักลงทุนต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจโลก
ดัชนีดาวโจนส์ปิด -227.57 จุด หรือ -0.78% ที่ 28,992.41 จุด ด้านดัชนี S&P500 ปิด -1.05% ที่ 3,337.75 จุด และ Nasdaq ปิด -1.79% ที่ 9,576.59 จุด
อย่างไรก็ดี ความหวังเกี่ยวกับการจะเห็นธนาคารกลางต่างๆทั่วโลกเดินหน้าผ่อนคลายทางการเงินเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจก็ดูจะยังทำให้ S&P500 และ Nasdaq สามารถทำ All-Time Highs ได้ตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์ที่แล้ว
· ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลง ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่เฝ้าระวังข้อมูลเศรษฐกิจและความคืบหน้าต่างๆในเรื่องไวรัสโคโรนา โดยดัชนี Stoxx600 ปิด -0.6%
· ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดปรับลงในเช้านี้ทามกลางยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้น และมีการยกระดับการเตือนภัยขั้นสูงสุด จึงทำให้ดัชนี Kospi เปิดปรับลงกว่า 2% และ Kosdaq -2.25%
ด้านบริษัท Samsung Electronics ประกาศปิดโรงงานในเกาหลีใต้เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา และคาดจะกลับมาเปิดทำการได้ในเช้านี้ หลังพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในโรงงาน และหุ้นบริษัทซัมซุงก็ยังคงเปิดปรับลงกว่า 2.5% ในเช้าวันนี้
หุ้นเอเชียอื่นๆก็ปรับตัวลงไม่ว่าจะเป็น S&P/ASX200 ที่เปิด -1.8% ทางด้าน MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่นเปิด -0.7%
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการเนื่องในวันหยุดประจำชาติ
· นักบริหารการเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ไว้ืั้ระหว่าง 31.50 - 31.70 บาท/ดอลลาร์ โดยปัจจัยหลักยังคงให้น้ำหนักไปที่เรื่องโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) และปัจจัยสัญญาณเชิงบวก ของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่วนคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญก็มีผลบ้าง
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ พร้อมทั้งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคเป็นระยะเวลา 10 ปี เนื่องจากกู้เงินจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค เป็นจำนวนเงิน 191.2 ล้านบาท ซึ่งศาลฯเห็นว่าแท้จริงเป็นการบริจาคเงินที่เกินกว่ากฎหมายกำหนด โดยการทำสัญญากู้เงินที่ผิดปกติวิสัยและเอื้อประโยชน์กับพรรคการเมือง ถือเป็นหลีกเลี่ยงข้อจำกัดทางกฎหมายในการบริจาคเงินให้กับพรรคการเมือง
- สำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) เปิดเผยว่า สำนักวิจัยฯ ปรับลดประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจปีนี้ลงอีกครั้งจาก 2.3% เหลือ 1.7% จากปัจจัยกดดันเพิ่มเติมคือผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ที่กระทบการท่องเที่ยวอย่างรุนแรง ขณะที่ภาคการส่งออกมีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและจากการที่ผู้ผลิตไม่สามารถนำเข้าสินค้าขั้นกลางและวัตถุดิบจากจีนได้เนื่องจากภาคธุรกิจในจีนยังไม่เปิดทำการเต็มที่และทำให้ผู้ประกอบการไทยจำต้องลดกำลังการผลิตหรืออาจถึงขั้นปิดกิจการชั่วคราว
- ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาทองคำที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 7 ปีว่า ภาพรวมในปีนี้ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้น หลังจากผ่านบริเวณ 1,616 ดอลลาร์ต่อออนซ์ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของราคาทองคำในเดือน มี.ค. ปี 56 และเป็นกรอบแนวต้านแรกของปีนี้ที่ YLG เคยประเมินไว้
- รัฐบาลจะนำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปี 63 ขึ้นทูลเกล้าฯเมื่อวานนี้หลังครบกำหนดตามขั้นตอนที่ทางคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะต้องเก็บไว้พิจารณา 5 วันภายหลังสภาผู้แทนราษฎรส่งเรื่องกลับมา