· ตลาดหุ้นทั่วโลกและน้ำมันดิบปรับตัวลดลง ขณะที่สินทรัพย์ปลอดภัย อย่างเช่น ทองคำปรัตัวสูงขึ้นได้เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสนอกประเทศจีนที่ส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก รวมทั้งยอดผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นในเกาหลีใต้ อิตาลีและฝั่งประเทศตะวันออกกลาง
การพุ่งขึ้นอย่างมากของผู้ติิดเชื้อจากไวรัสดังกล่าวในอิตาลี ส่งผลให้เหล่านักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับโอกาสที่ไวรัสจะแพร่ระบาดในยุโรปและทำให้เศรษฐกิจชะงักงัน
นักวิเคราะห์ ระบุว่า แรงเทขายในตลาดเอเชียและสหรัฐฯ รวมทั้งตลาดการซื้อขายล่วงหน้าในยุโรปเป็นปฏิกิริยาแรกของตลาดการเงินต่อข่าวช่วงวันหยุดที่ผ่านมา
ดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้ ร่วงลง 3.4% ด้านตลาดหุ้นจีนเปิดลง โดยดัชนีกลุ่มบลูชิพ CSI300 ลดลง 0.5%
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นเอเชียที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลง 1.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนก.พ.ที่ผ่านมา ขณะที่วันนี้ตลาดญี่ปุ่นปิดทำการเนื่องในวันหยุดราชการ
· ตลาดหุ้นจีนปรับลดลง ท่ามกลางการระบาดของไวรัสโคโรนาและจำนวนผู้เสียชีวิตที่เพิ่มสูงขึ้นในต่างประเทศนอกจากประเทศจีน แม้สถานการณ์ในประเทศจีนจะเริ่มดูดีขึ้นบ้างจากการที่รัฐบาลพยายามออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องก็ตาม
โดยดัชนี The blue-chip CSI300 ปิด -0.4% ที่ระดับ 4,132.84 จุด ส่วนดัชนี Shanghai Composite ปิด -0.3% ที่ระดับ 3,031.23 จุด
· ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่ให้ความสนใจไปยังการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา และเฝ้าระวังการแพร่ราดในอิตาลี
โดยดัชนี Stoxx600 ร่วงลง 2.4% ท่ามกลางหุ้นกลุ่มยานยนต์ที่ร่วงลง 4% ขณะที่ตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ
· หุ้นอิตาลีเปิดร่วง 4% กังวลไวรัสโคโรนาหุ้นอิตาลีเปิดลดลงมากกว่า 4% ท่ามกลางกังวลไวรัสโคโรนา ส่งผลให้รัฐบาลตัดสินใจปิดเมือง ปิดโรงเรียน ระงับกิจกรรมทางสังคมต่างๆ รวมถึงยกเลิกการแข่งขันฟุตบอล
อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาระดับกระทรวงและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข แถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ว่าผู้ป่วยเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังเป็นชายชาวจีนที่เข้ามารักษาที่โรงพยาบาลแม่สอดด้วยอาการโรคระบบทางเดินหายใจนั้น ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ 2 แห่งได้ผลเป็นลบ ไม่พบสารพันธุกรรมเชื้อไวรัสโควิด-19และยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาลเนื่องจากอยู่ในภาวะวิกฤติจากโรคประจำตัวเดิม
- รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลของไทย เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ซึ่งเลื่อนมาจากปกติที่จะมีขึ้นทุกวันอังคาร เนื่องจากช่วงบ่ายวันนี้สภาผู้แทนราษฎรจะเริ่มเข้าสู่การพิจารณาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลระหว่างวันที่ 24-27 ก.พ.
- นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้มีวาระพิจารณามีไม่มาก และยังไม่มีการพิจารณาวาระเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ"ชิม ช้อป ใช้ เฟส 4" เนื่องจากคณะรัฐมนตรีเตรียมเดินทางไปรัฐสภาเพื่อเข้าร่วมรับฟังการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเป็นรายบุคคลที่จะเริ่มขึ้นในช่วงบ่ายนี้
- นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) พร้อมด้วยนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทยในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน)เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกันกับประธานสภาผู้แทนราษฏรเกี่ยวกับกรอบการอภิปรายไม่ไว้วางรัฐบาลเป็นรายบุคคลว่า ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องต้องกันเรื่องเวลา โดยจะเริ่มอภิปรายในวันนี้และจะลงมติในวันที่ 28 ก.พ. ซึ่งการอภิปรายจะเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ และจะมีการประท้วงให้น้อยที่สุด
- สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ของไทย แถลงตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือน ม.ค.63 โดยการส่งออกมีมูลค่า 19,625.7 ล้านเหรียญ ขยายตัว 3.35% เป็นการกลับมาบวกครั้งแรกในรอบ 6 เดือน จากตลาดคาดการณ์ว่าจะหดตัวราว -3.1% ถึง -2.9% ส่วนนำเข้ามีมูลค่า 21,181.4 ล้านเหรียญ หดตัว -7.86% ส่งผลให้ดุลการค้าขาดดุล 1,555.7 ล้านเหรียญ
- นายสมประวิณ มันประเสริฐ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานวิจัยและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) กล่าวว่า ฝ่ายวิจัยฯ ปรับลดประมาณการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ไทยรอบแรกในปี 63 ลดลงเหลือขยายตัว 1.5% จากเดิมที่คาดว่าขยายตัว 2.5% จากปัจจัยที่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ 3 ด้าน ได้แก่ ความล่าช้าของ พ.ร.บ. งบประมาณปี 63 ซึ่งทำให้รัฐบาลคาดว่าน่าจะเริ่มเบิกจ่ายได้ภายในสิ้นเดือน มี.ค.นี้หรืออย่างเร็วสุดในกลางเดือน มี.ค.นี้