• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2563

    25 กุมภาพันธ์ 2563 | Economic News

ค่าเงินดอลลาร์ชะลอการแข็งค่า หลังตลาดเริ่มกลับมีกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดดอกเบี้ยของเฟด เนื่องจากการระบาดของไวรัสโคโรนาอาจเป็นปัจจัยกดดันการเติบโตของเศรษฐกิจ

ค่าเงินในตลาดเอเชียจึงปรับแข็งค่าได้ ท่ามกลางการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ แต่ความกังวลเกี่ยวกับไวรัสโคโรนายังคงมีอยู่ในระดับสูง

ทั้งนี้ ค่าเงินดอลลาร์ออสเครเลียและนิวซีแลนด์ต่างแข็งค่าขึ้นได้ 0.2% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ ด้านค่าเงินหยวนแข็งค่า 0.2% ขณะที่ค่าเงินวอนเกาหลีใต้ฟื้นตัวขึ้นมาปิดช่องว่างที่อ่อนค่าลงเมื่อวานนี้ได้เกือบทั้งหมด

ขณะที่ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงแถว 99.321 จุด แต่เนื่องจากสถานการณ์ไวรัสยังไม่มีท่าทีจะคลี่คลายลงในเร็วๆนี้ หลายฝ่ายจึงคาดว่าค่าเงินดอลลาร์จะเคลื่อนไหวในทิศทางแข็งค่าต่อไปได้

ด้านค่าเงินเยนทรงตัวแถว 110.82 เยน/ดอลลาร์ โดยได้รับแรงหนุนจากถ้อยแถลงของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ที่ระบุว่ารัฐบาลจะมีมาตรการใหม่ที่แข็งแกร่งกว่าเดิมมาช่วยควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัส จึงช่วยหนุนฐานะ Safe-haven ของค่าเงินเยนได้บ้าง



สถานการณ์ไวรัสโคโรนา

· รัฐบาลจีนประกาศระงับการค้าและบริโภคสัตว์ป่าในประเทศ โดยเฉพาะสัตว์ป่าที่ไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อการบริโภค หรือสัตว์ป่าที่ถูกใช้ในเชิงวิทยาศาสตร์ การแพทย์ และการจัดแสดง เพื่อช่วยป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา



· สายการบิน Korean Air ตรวจสอบพบการติดเชื้อไวรัสโคโรนาในลูกเรือรายหนึ่ง ส่งผลให้ทางสายการบินตัดสินใจปิดสำนักงานในสนามบินอินชอนที่ตั้งอยู่ในเมืองโซล ขณะที่ข้อมูลส่วนตัวของลูกเรือที่ติดเชื้อรวมถึงเที่ยวบินที่ร่วมงานยังไม่ได้รับการเปิดเผยออกมา



· รัฐบาลเกาหลีใต้กำลังพิจารณาตรวจคัดกรองโรคกับสมาชิกโบสถ์ทั้ง 200,000 รายที่อยู่ในเมืองที่มีการระบาดของไวรัสโคโรนา เพื่อพยายามระงับไม่ให้การระบาดของไวรัสโคโรนาการเป็นการระบาดในระดับโลก ขณะที่การระบาดของไวรัสเริ่มมีมากขึ้นในพื้นที่ยุโรปและตะวันออกกลาง



· อิหร่านรายงานผู้เสียชีวิตจากกี่ติดเชื้อไวรัสโคโรนารายใหม่เพิ่มขึ้น 2 ราย ทำให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตในประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 14 ราย อิหร่านจึงเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสนอกประเทศจีนมากที่สุด

ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อในอิหร่านเมื่อวานนี้รายงานออกมาที่ 61 ราย



· รัฐบาลญี่ปุ่นเรียกร้องให้ผู้ประกอบการภายในประเทศใช้การติดต่อสื่อสารทางไกลมากขึ้น รวมถึงกระจายกะให้คนงานเพื่อช่วยควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา

แผนดังกล่าวได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีของญีปุ่นในวันนี้ นอกจากนี้ทางรัฐบาลยังเรียกร้องให้ผู้ที่มีอาการป่วยหรือเป็นไข้พักฟื้นตัวอยู่ที่บ้าน รวมถึงบรรดาผู้จัดงานกิจกรรมทางสังคมให้พิจารณาให้รอบคอบอีกครั้งว่าจะดำเนินงานต่อไปหรือไม่



· รายงานจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของเกาหลีใต้ เผยว่า ยอดผู้ติดเชื้อล่าสุด 60 รายที่เพิ่มขึ้นในกาหลีใต้ ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้ออยู่ที่ระดับ 893 ราย โดยในเมืองที่มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่ม ได้แก่

โซล: 2

ปูซาน: 3

แดกู: 16

จังหวัดคย็องกี : 5

จังหวัดคย็องซังเหนือ : 33

จังหวัดคย็องซังใต้: 1

และกว่าครึ่งในประเทศเป็นการได้รับเชื้อจากกลุ่มผู้นับถือลัทธิชินชอนจิทางตอนใต้ของเมืองแดกู



· ผู้โดยสารเรือสำราญ Diamond Princess ที่เทียบท่าในญี่ปุ่น เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาเป็นรายที่ 4 ซึ่งผู้โดยสารคนดังกล่าวเป็นผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 80 ปี

รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังเผชิญเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เนื่องจากการรับมือกับสถานการณ์ของเรือสำราญที่เดินเรือโดยบริษัท Carnival Corp ซึ่งมีผู้โดยสารจำนวนหลายร้อยรายติดเชื้อไวรัส ส่งผลให้ภาพรวมจำนวนผู้ติดเชื้อในญี่ปุ่นพุ่งสูงขึ้น ขณะที่ทางรัฐบาลญี่ปุ่นมีกำหนดการจะชี้แจงรายละเอียดของมาตรการควบคุมไวรัสเพิ่มเติมในวันอังคารนี้



· กองทัพสหรัฐฯและเกาหลีใต้ส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ที่ทั้ง 2 ประเทศจะลดระดับการซ้อมรบร่วมกันระหว่างทั้ง 2 ฝ่าย เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสโคโรนา ซึ่งนับเป็นสัญญาณแรกที่บ่งชี้ว่าการระบาดของไวรัสเริ่มที่จะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางการทหารของสหรัฐฯในต่างประเทศแล้ว



· บริษัทสหรัฐฯโดยส่วนใหญ่กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนากำลังบั่นทอนภาคธุรกิจของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็น United Airlines ที่ประกาศจะระงับการบินระหว่างสหรัฐฯและจุดหมายปลายทาง 4 แห่งในจีน ซึ่งน่าจะทำให้บริษัทเสียเม็ดเงินประมาณ 5% ขณะที่ความต้องการเดินทางในระยะสั้นๆเพื่อไปจีนมีแนวโน้มจะปรับตัวลงใกล้ระดับ 0 รวมทั้งความต้องการเดินทางไปยังประเทศที่เหลือในแถบแปซิฟิกมีโอกาสปรับลงถึง 75%

อย่างไรก็ดี การยกเลิกสายการบินระหว่างสหรัฐฯ, กรุงปักกิ่ง, เฉิงตู, เซี่ยงไฮ้ และฮ่องกง น่าจะถูกปิดจนถึง 24 เม.ย. แต่โดยภาพรวมคาดว่าผลประกอบการจะยังแข็งแกร่งและเติบโตได้ดีในช่วงปี 2021 และหลังจากนั้น



· ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของสหรัฐฯ (CDC) เพิ่มระดับคำแนะนำการเดินทางไปยังเกาหลีใต้เป็นขั้น 3 ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา โดยเบื้องต้นแนะนำให้นักลงท่องเที่ยวหลีกเลี่ยงการเดินทางที่ไม่จำเป็นทั้งหมดไปยังเกาหลีใต้ เนื่องจากมีการจำกัดด้านการเข้าถึงทางการแพทย์ที่ไม่เพียงพอสำหรับพื้นที่ที่มีการติดเชื้อ โดยยอดผู้ติดเชื้อ ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 893 ราย

นอกจากนี้ ทาง CDC ยังเพิ่มระดับคำแนะนำการเดินทางไปยังอิตาลีและอิหร่านสู่ระดับ 2 จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าว โดยระบุว่าผู้สูงอายุและประชาชนโดยทั่วไปควรพิจารณาเลื่อนการเดินทางที่ไม่จำเป็นในพื้นที่ดังกล่าวออกไปก่อน

ทั้งนี้ นักลงท่องเที่ยวควรหลีกเลี่ยงการติดต่อหรือสัมผัสกับบุคคลที่ป่วย รวมทั้งหมั่นล้างมือของท่านให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำอย่างน้อย 20 วินาที หรือทำการล้างมือด้วยน้ำยาล้างมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์อย่างน้อย 60-95%



· ผู้เชี่ยวชาญเตือน จีนอาจยกระดับ “การจับตาประชาชน” ผ่านเทคโนโลยีต่างๆ ตั้งแต่โดรนไปจนถึงการจดจำใบหน้า เพื่อคอยบันทึกพฤติกรรมของประชาชนและควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนา และการใช้เทคโนโลยีเพื่อจุดประสงค์ดังกล่าวก็มีแนวโน้มที่จะดำเนินและได้รับการพัฒนาต่อไปแม้จะเป็นหลังจากที่ไวรัสถูกควบคุมได้



· นายมหาเธร์ โมฮัมหมัด กลับมาทำงานในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีชั่วคราว หลังจากที่เขาได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งนากยรัฐมนตรีมาเลเซียไปเมื่อวานนี้ ซึ่งได้สร้างความประหลาดใจให้กับหลายๆฝ่าย และทำให้การเมืองมาเลเซียเข้าสู่ภาวะความวุ่นวาย

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนว่านายมหาเธร์จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีชั่วคราวนานแค่ไหน รวมถึงไม่มีความชัดเจนว่ารัฐบาลจะสามารถก่อตั้งพรรคร่วมรัฐบาลขึ้นใหม่ได้เมื่อไหร่



· ราคาน้ำมันดิบทรงตัว เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อหลังจากที่ราคาน้ำมันดิบร่วงลงเกือบ 4% ในช่วงก่อนหน้านี้ แต่ความกังวลเกี่ยวกับโคโรนาไวรัสที่ระบาดออกไปนอกประเทศจีนอาจทำให้เศรษฐกิจสำคัญพากันชะลอตัวและลดปริมาณอุปสงค์ในน้ำมันลง

ราคาน้ำมันดิบ Brent เพิ่มขึ้น 19 เซนต์ หรือ 0.3% ที่ระดับ 56.49 เหรียญ/บาร์เรล หลังจากที่ลดลง 3.8% เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นราคารายวันที่ร่วงลงมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ. ที่ผ่านมา

ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 17 เซนต์ หรือ 0.3% ที่ระดับ 51.60 เหรียญ/บาร์เรล ฟื้นตัวจาก 3.7% ในช่วงก่อนหน้านี้



· รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานแห่งซาอุดิอาระเบียกล่าวว่า กลุ่มโอเปกและพันธมิตรยังคงมีแนวคิดที่หลากหลายสำหรับการปรับสมดุลให้กับตลาดน้ำมัน และบรรดาประเทศสมาชิกภายในกลุ่มก็สามารถดำเนินงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น

ถ้อยแถลงดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่าเกิดความขัดแย้งขึ้นภายในกลุ่มโอเปก ว่าจะตัดสินใจปรับกำลังการผลิตลงอีกหรือไม่ ท่ามกลางราคาน้ำมันที่ยังคงเผชิญแรงกดดันจากปริมาณอุปทานที่มีในระดับสูง ขณะที่ปริมาณอุปสงค์กำลังเผชิญแรงกดดันจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ และล่าสุดเผชิญแรงกดดันจากการระบาดของไวรัสโคโรนาอีกด้วย

ทั้งนี้ กลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตรนำโดยรัสเซีย จะมีการประชุมร่วมกันขึ้นในวันที่ 5-6 มี.ค. นี้ แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่ากลุ่มโอเปกจะตัดสินใจปรับลดกำลังการผลิตลงอีกในการประชุมครั้งที่จะถึงนี้หรือไม่ โดยมีข่าวลือว่ารัสเซียยังไม่สามารถตัดสินใจ ขณะที่ในปัจจุบันกลุ่มโอเปกและพันธมิตรได้ปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลงด้วยอัตรา 1.7 บาร์เรล/วัน


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com