· วันนี้ในตลาดเอเชียยังคงมีแรงเทขายเข้ามาต่อในตลาดหุ้น โดยจะเห็นได้จากดัชนี CSI300 ร่วงลงไปกว่า 0.8% และยังคงอ่อนตัวจากระดับสูงสุดที่ทำไว้ในช่วงต้นปี ด้าน Topix ของญี่ปุ่นปรับลงไป 1.1% และ Kospi ของเกาหลีใต้ปรับลง 1% ในขณะที่ดัชนีฮังเส็งปรับลง 0.8% ท่ามกลางรัฐบาลที่ประกาศเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดองไวรัสโคโรนา
ความผันผวนในตลาดหุ้นสหรัฐฯยังม่ีอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา ท่ามกลางศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของสหรัฐฯ (CDC) เผยถึงการที่ประชาชนควรเตรียมรับมือกับภาวะแพร่ระบาดในปัจจุบัน
หัวหน้านักกลยุทธ์จาก State Street Global Advisors กล่าวว่า กลุ่มนักลงทุนเข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้นจากความเชื่อที่ว่าจะเห็นเฟดตัดสินใจปรับลดดอกเบี้ยเพื่อสนับสนุนทิศทางการเติบโตทางเศรษฐกิจและลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา และการดำเนินนโยบายของเฟดจะกลายเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้น
เครื่องมือ CME Group ชี้ว่า เฟดมีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยลงในเดือนมิ.ย.อีก 0.25% ด้วยโอกาสที่มากถึง 47%
ขณะที่ นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เรียกร้องให้ภาคบริษัทปรับนโยบายการดำเนินงานให้เหมาะสมด้วยกลยุทธ์ใหม่ๆหลังจากที่รัฐมนตรีอนุมัติแผนการต่อต้านไวรัสโคโรนา
อิตาลี กล่าวเตือนอียูว่าควรยืดหยุ่นสำหรับเรื่องงบประมาณเป้าหมายกรณีของไวรัสโคโรนาในกลุ่มภาคอุตสาหกรรมทางตอนเหนือของประเทศ ท่ามกลางผลกระทบที่ดูจะกินเวลานานและอาจบั่นทอนให้เศรษฐกิจเข้าสู่สภาวะถดถอยได้ ซึ่งอิตาลีถือเป็นประเทศเศรษฐกิจรายใหญ่ลำดับที่ 3 ของยุโรป รวมทั้งยังเป็นประเทศที่มีการส่งออกมาเกินกว่าครึ่ง
พนักงานโรงแรมและแขกนับร้อยของ Tenerife อยู่ภายใต้การกักตัว หลังแพทย์ชี้ว่าพบผู้ติดเชื้อ ขณะที่สวิสเซอร์แลนด์พบผู้ติดเชื้อรายแรก โดยเป็นผู้เกษียณอายุที่มาเที่ยวมิลาน
รายงานจาก The Financial Times กล่าวว่า การหามาตรการรับมือถือเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดในเวลานี้ว่าจะควบคุมการแพร่รระบาดไม่ให้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และลดจำนวนการเสียชีวิตและติดเชื้ออย่างไร ซึ่งคาดว่าในช่วง 1-2 สัปดาห์อาจพบการระบาดเพิ่มขึ้นของไวรัสดังกล่าว
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลง ทำระดับต่ำสุดมากกว่า 4 เดือน เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนานอกประเทศจีน ที่อาจจะผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้เหล่านักลงทุนออกจากสินทรัพย์เสี่ยง
โดยดัชนี Nikkei ลดลง 0.79% ที่ระดับ 22,426.19 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. ปี 2019 ที่ผ่านมา
· ตลาดหุ้นจีนปิดแดนลบ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสโคโรนาและผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีน และรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ออกมาลดน้อยลงในประเทศจีนเป็นปัจจัยที่คอยช่วยหนุนตลาดจีนในวันนี้ได้บ้าง
ทั้งดัชนี Shanghai Composite และ the blue-chip CSI300 ปรับลดลงมากกว่า 1% ในช่วงเช้า ซึ่งเป็นการปรับลดลงตามตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ปิดแดนลบอย่างหนักเมื่อคืน ก่อนที่ดัชนีจะฟื้นตัวกลับมาปิดสูงขึ้นได้บ้าง ท่ามกลางแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มอสังหาฯและกลุ่มอุตสาหกรรม
· ตลาดหุ้นยุโรปยังคงเปิดตลาดวันนี้ในแดนลบ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาที่กดดันความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยดัชนี Stoxx 600 เปิด -0.8% นำโดยหุ้นกลุ่มการท่องเที่ยวที่ปรับลดลงไปถึง 2% ส่งผลให้หุ้นทุกกลุ่มเคลื่อนไหวแดนลบตาม
อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลท.จะให้สัมภาษณ์เรื่องภาวะตลาดหุ้นวันนี้ในเวลาประมาณ 13.15 น.หลังจากตลาดหุ้นไทยภาคเช้าร่วงหนักไปกว่า 50 จุดก่อนจะกลับมาปิดตลาดที่ระดับ 1,397.04 จุด ลดลง 42.06 จุด หรือ -2.92%
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงหนักหลังเจอข่าวโรงพยาบาล บี.แคร์ เมดิคอลเซ็นเตอร์ พบผู้ป่วยชายไทยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และมีการปกปิดข้อมูลในช่วงแรกที่เข้ามารับการรักษาด้วย ซึ่งลักษณะคล้ายผู้ติดเชื้อในเกาหลีใต้ โดยที่น่าวิตกเป็นเรื่องที่หลานของผู้ป่วยรายนี้ได้ไปเรียน 1 วัน แล้ว ซึ่งหลานก็ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วย ปัจจัยนี้เกิดการ Panic การแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งช่วงนี้ภาวะการลงทุนขึ้นกับข่าวการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 จึงแนะให้ชะลอการลงทุน และติดตามดูว่าจะควบคุมได้หรือไม่
- สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ประกาศให้ผู้ที่เดินทางด้วยเที่ยวบิน XJ 621 จากซับโปโร-ดอนเมือง ในวันที่ 20 ก.พ.63 ควรพบแพทย์โดยด่วนหลังจากมีผู้เดินทาง 2 คนติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ซึ่งวันนี้กระทรวงสาธารณสุขยืนยันการพบผู้ป่วยชาวไทยติดเชื้อเพิ่ม 3 ราย ซึ่งเป็นปู่และย่าที่เดินทางกลับมาจากญี่ปุ่น และนำเชื้อกลับมาติดหลานชายวัย 8 ขวบ
ทั้งนี้ สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ได้รับทราบและประสานต่อกรณีดังกล่าวซึ่งมีผู้โดยสารที่เดินทางกลับมาจากญี่ปุ่นติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยพร้อมให้ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดต่อด่านควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก โดยเฉพาะการแจ้งผู้โดยสารที่เข้าข่ายเฝ้าระวังโดยตรง รวมทั้งให้ลูกเรือในเที่ยวบินดังกล่าวหยุดงาน 14 วันเพื่อสังเกตอาการ เฝ้าระวัง และเข้าไปตรวจเพิ่มเติม
- ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก หรือ จีบีเอส เปิดเผยถึงสถานการณ์ทองคำในช่วงนี้ ว่าถือเป็นจังหวะของการทำกำไรทองคำในระยะสั้น จึงแนะนำนักลงทุนให้จัดพอร์ตการลงทุนในทองคำที่ 30% ลงทุนในหุ้น 20% โดยเน้นหุ้นได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า และถือครองเงินสด 50% เนื่องจากกังวลการระบาดไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ในประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อิตาลี และอิหร่าน ส่งผลให้นักลงทุนกลับมากังวลว่าเศรษฐกิจโลกอาจชะลอตัว
- หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ เปิดเผยว่า ยังคงแนะนำให้นักลงทุนถือทองคำต่อแม้วันนี้ (25 ก.พ.) เริ่มปรับฐานราคาต่ำลงก็ตาม เนื่องจากราคาทองคำโลกและทองคำไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น
- ตลท.เผยผลการดำเนินงานของกลุ่มปี 2562 รายได้รวม 7,286 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.75% จากปีก่อน ก.ล.ต.แถลงแผนนโยบายยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนตลาดทุนไทย 3 ปี เตรียม ใช้ AI ช่วยตรวจปั่นหุ้น
- ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก หรือ จีบีเอส เปิดเผยถึงสถานการณ์ทองคำในช่วงนี้ ว่าถือเป็นจังหวะของการทำกำไรทองคำในระยะสั้น จึงแนะนำนักลงทุนให้จัดพอร์ตการลงทุนในทองคำที่ 30% ลงทุนในหุ้น 20% โดยเน้นหุ้นได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า และถือครองเงินสด 50% เนื่องจากกังวลการระบาดไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ในประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อิตาลี และอิหร่าน ส่งผลให้นักลงทุนกลับมากังวลว่าเศรษฐกิจโลกอาจชะลอตัว
อ้างอิงจากสำนักข่าว MCOT
- นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรมของไทย (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (เอ็มพีไอ) เดือนมกราคม 2563 หดตัว 4.59% อยู่ที่ระดับ 103.32 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ระดับ 108.30 เนื่องจากผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวต่อเนื่อง ทำให้การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมไม่รวมทองคำเดือนมกราคม 2563 หดตัว 0.85%
ส่วนแนวโน้มดัชนีเอ็มพีไอเดือนกุมภาพันธ์ 2563 สศอ.ประเมินว่าจะทรงตัวอยู่ในระดับใกล้เคียงกับเดือนมกราคม เนื่องจากสงครามการค้าจีน-สหรัฐดีขึ้นหลังจากบรรลุข้อตกลงเจรจาการค้ารอบแรก ประกอบกับสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ของไทยมีมาตรการป้องกันและเฝ้าระวังค่อนข้างได้ผลดีอยู่ในระดับ 2 ยังไม่เข้าสู่ความรุนแรงระดับ 3 เพราะสามารถควบคุมการแพร่เชื้อไว้ได้ในวงจำกัด