· ค่าเงินเยนและยูโรต่างแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ในวันนี้ ท่ามกลางตลาดที่มีกระแสคาดการณ์ว่าอาจเห็นเฟดประกาศลดดอกเบี้ยลงอย่างเร็วที่สุดภายในการประชุมเดือนนี้ เพื่อช่วยบรรเทาเศรษฐกิจจากการระบาดของไวรัสโคโรนา
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด กล่าวว่าทางเฟดจะมีการดำเนินการเหมาะสมเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจจากการระบาดของไวรัส
ตลาดจึงตอบรับถ้อยแถลงดังกล่าวว่าอาจเป็นการที่เฟดจะพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยลงอย่างน้อย 0.25% ในการประชุมวันที่ 17-18 มี.ค. นี้
นอกจากนี้ยังมีกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการผ่อนคลายนโยบายการเงินที่อาจไม่เกิดขึ้นตามกำหนดการ หลังจากนักเศรษฐศาสตร์ประจำธนาคารในสหรัฐฯกล่าวว่ามีความเป็นไปได้ที่อาจเห็นบรรดาธนาคารกลางมีการดำเนินการบางอย่างเร็วที่สุดในวันพุธนี้
ค่าเงินทรงตัวแถวระดับ 108.15 เยน/ดอลลาร์ หลังจากแข็งค่าที่สุดที่ 107.00 เยน/ดอลลาร์ในช่วงต้นตลาดวันนี้
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ค่าเงินเยนแข็งค่าได้ 3.2% นับเป็นอัตราที่มากที่สุดตั้งแต่เดือน ก.ค. ปี 2016 ท่ามกลางการเข้าซื้อค่าเงินเยนในฐานะ Safe-haven เนื่องจากญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้าที่มากเป็นพิเศษ
ค่าเงินยูโรแข็งค่าทำระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนที่ระดับ 1.1074 ดอลลาร์/ยูโร ล่าสุดทรงตัวแถว 1.1050 ดอลลาร์/ยูโร คิดเป็นแข็งค่า 0.3% หลังจากเมื่อสัปดาห์ก่อนแข็งค่าขึ้นมาได้ 1.7%
· รายงาน Beige Book ของธนาคารกลางจีน ระบุว่าผู้ประกอบการในประเทศกว่า 1,400 รายที่ร่วมทำแบบสำรวจ คาดการณ์ว่าผลกระทบของไวรัสโคโรนาจะทำให้ GDP ของประเทศหดตัวในไตรมาสที่ 1/2020
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการ 31% ระบุว่ายังระงับกิจการทั้งหมดหรือเป็นบางส่วนอยู่ อีก 32% ระบุว่าให้พนักงาน ทำงานจากที่บ้าน และอีก 7% กำลังรอกลับมาทำงาน
· อีลอน มัคส์ คาดเศรษฐกิจจีนจะเติบโตใหญ่กว่าสหรัฐฯ 2-3 เท่า
นายอีลอน มัคส์ CEO บริษัท Tesla และ SpaceX มีมุมมองว่าเศรษฐกิจจีนจะสามารถขยายตัวใหญ่กว่าสหรัฐฯได้อย่างน้อย 2–3 เท่า ซึ่งผลของมันจะทำให้ความตึงเครียดทางการทหารของทั้ง 2 ประเทศมีมากที่ยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ เนื่องจากจีนมีจำนวนประชากรที่มากกว่าสหรัฐฯ จึงหมายความว่าจีนมีอุปสรรคที่ต่ำกว่าสหรัฐฯ ในการที่จะพัฒนาเศณษฐกิจให้ยิ่งใหญ่กว่า โดยสหรัฐฯมีจำนวนประชากรที่ 330 ล้านคน ขณะที่จีนมีประชากรมากกว่า 1.3 พันล้านคน
หากจีนสามารถขยายเศรษฐกิจให้ยิ่งกว่าสหรัฐฯได้จริง จะยิ่งทำให้ความตึงเครียดระหว่างทั้ง 2 ประเทศมีมากยิ่งขึ้น ซึ่งตอนนี้ก็มีความตึงเครียดกันอยู่แล้วในประเด็นของการค้าและเทคโนโลยี 5G
สิ่งเดียวที่สหรัฐฯจะสามารถทำให้เพื่อรักษาความเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจคือการพัฒนาเทคโนโลยีและการเดินทางในอวกาศ ซึ่งนายอีลอนกังวลว่าสหรัฐฯเริ่มที่จะล้าหลังกว่าจีนในประเด็นดังกล่าวเสียแล้ว
· นายพีต บุตติเจจ ตัวแทนพรรคเดโมแครตแห่งสหรัฐฯ ประกาศถอนตัวออกจากการแข่งขันชิงตำแหน่งตัวแทนพรรคเดโมแครตที่จะไปท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯในการเลือกตั้งเดือน พ.ย. โดยระบุว่าเนื่องจากมองไม่เห็นถึงโอกาสที่จะชนะ 1 วันหลังจากที่นายโจ ไบเดน เอาชนะการเลือกตั้งครั้งใหญ่ในรัฐเซาท์แคโรไลนา
การประกาศถอนตัวของนายบุตติเจจทำให้เหลือตัวแทนพรรคเดโมแครตเพียง 6 คน จากเดิมที่มีตัวแทนแข่งขันกันถึง 20 คน โดยที่ปรึกษาส่วนตัวของนายบุตติเจจระบุถึงเหตุผลที่ตัดสินใจถอนตัวว่าเพื่อไม่ให้เป็นการช่วยเหลือนายเบอร์นี แซนเดอร์ส ตัวตัวแทนที่มีคะแนนสูงสุด ณ ปัจจุบัน
· เกาหลีใต้รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารายใหม่ออกมาเพิ่มขึ้น 476 ราย ทำให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 4,212 ราย ขณะที่รัฐบาลเกาหลีใต้กำลังขยายการสืบสวนเข้าไปในลัทธิทางศาสนาที่เป็นต้นตอของการระบาดในประเทศ
เปรียบเทียบกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่รายงานออกมาเมื่อวันเสาร์ที่ 813 ราย ซึ่งเป็นจำนวนรายวันที่มากที่สุดของเกาหลีใต้ ส่วนวันอาทิตย์ออกมาเพิ่มขึ้น 586 ราย ทำให้สถานการณ์การระบาดของไวรัสนอกประเทศจีนดูเลวร้ายลง
ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตล่าสุดของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นเป็น 22 ราย จากเดิม 20 ราย
· รายงานจากกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ระบุว่าตรวจสอบพบวัตถุที่ไม่สามารถระบุประเภทได้จำนวน 2 ลูก ถูกยิงออกมาจากฝั่งตะวันออกของเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกาหลีเหนือทำการยิงทดสอบขีปนาวุธหลายครั้ง ซึ่งทางเกาหลีใต้ไม่ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติม แต่ระบุว่ากำลังจับตาสถานการณ์เพิ่มเติม
· ผลการสำรวจของเอกชนพบว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) อยู่ที่ 40.3 ลดลงจาก 51.1 ในเดือนม.ค. ซึ่งหดตัวมากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มการสำรวจในปี 2004 เนื่องจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ทำให้เศรษฐกิจส่วนใหญ่ของประเทศชะงักงัน
ด้านภาคบริการของจีน ลดลงจาก 54.1 ในเดือนม.ค. เหลือ 29.6 ในเดือนก.พ.
· สำนักพระราชวังมาเลเซีย ประกาศแต่งตั้ง นายมูห์ยิดดิน ยัสซิน อดีตรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย เป็นนายกรัฐมนตรีมาเลเซียคนใหม่แทนที่นายมหาเธร์ โมฮัมหมัด และได้เข้าพิธีสาบานตนในวันนี้
· กระทรวงสาธารณสุขฝรั่งเศสประกาศห้ามการรวมพลทางสังคมที่มีจำนวนมากกว่า 5,000 คนขึ้นไป และห้ามจัดงานสังคมในพื้นที่ที่จำกัด หลังจากที่จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 73 รายเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
· ราคาน้ำมันฟื้นตัวขึ้นมากกว่า 1 เหรียญหลังจากที่ราคาลงไปทำระดับต่ำสุดในรอบหลายปี ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่ากลุ่มโอเปกจะพิจารณาปรับลดกำลังการผลิตลง รวมถึงการที่บรรดาธนาคารกลางอาจพิจารณาออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนา
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับขึ้น 1.64 เหรียญ หรือ 3.3% แถว 51.31 เหรียญ/บาร์เรล ปรับขึ้นจาก 48.40 เหรียญ/บาร์เรล ระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือน ก.ค. ปี 2017
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้น 1.35 เหรียญ หรือ 3% แถว 46.11 เหรียญ/บาร์เรล ปรับขึ้นจาก 43.32 เหรียญ/บาร์เรล ระดับต่ำสุดในรอบ 14 เดือน