• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 4 มีนาคม 2563

    4 มีนาคม 2563 | Gold News
     

· ราคาทองคำปรับขึ้นต่อ หลังจากที่เมือคืนปรับขึ้นมาได้ถึง 3% จากการที่เฟดประกาศลดอัตราดอกเบี้ยแบบฉุกเฉินเพื่อช่วยรองรับเศรษฐกิจจากการระบาดอย่างรวดเร็วของไวรัสโคโรนา

ราคาทองคำปรับขึ้น 0.1% แถว 1,641.08 เหรียญ หลังจากเมื่อคืนปรับขึ้นได้มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2016 ขณะที่ราคาสัญญาทองคำปรับลดลง 0.1% แถว 1,642.50 เหรียญ

เมื่อคืนนี้เฟดประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.5% หลังการประชุมฉุกเฉิน เพื่อช่วยป้องกันความเสี่ยงให้กับเศรษฐกิจสหรัฐฯจากการระบาดของไวรัสโคโรนา

· นักวิเคราะห์จาก CMC Markets กล่าวว่าการเข้าซื้อทองคำที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ ยังคงดำเนินต่อในช่วงตลาดวันนี้ แต่ตลาดน่าจะตอบรับกับแนวโน้มที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปไว้แล้ว การปรับขึ้นในวันนี้จึงเป็นไปอย่างค่อนข้างจำกัด

การปรับลดดอกเบี้ยของเฟดเมื่อคืนนี้ เป็นการปรับลดดอกเบี้ยนอกรอบครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2008 ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดวิกฤติทางการเงิน

อย่างไรก็ตาม การปรับลดดอกเบี้ยเมื่อคืนไม่ได้ช่วยคลายความกังวลของตลาดเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสโคโรนาแต่อย่างใด ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนนี้ปรับลดลงเกือบ 3% ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียในวันนี้ค่อนข้างผันผวน

· นักวิเคราะห์จาก CMC Markets กล่าวเสริมว่า หากเฟดปรับลดดอกเบี้ยลงมากเกินไป จะเป็นการส่งสัญญาณให้กับตลาดว่าเศรษฐกิจกำลังอยู่ในภาวะวิกฤติ ขณะที่คาดการณ์ว่าเฟดน่าจะพิจารณาคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มี.ค. นี้ เพื่อจับตาผลกระทบจากการปรับลดดอกเบี้ย

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 10 ปี เคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์เคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน

ตลาดจะจับตาการรายงานดัชนี ISM non-manufacturing PMI ของสหรัฐฯและรายงาน Beige Book ของเฟดที่จะเปิดเผยในคืนนี้

· นักวิเคราะห์จาก Anand Rathi มองว่าตลาดได้คาดการณ์เอาไว้แล้วว่าตัวเลขทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่น่าจะประกาศออกมาในแดนอ่อนแอ ดังนั้นการประกาศตัวเลขในคืนนี้น่าจะไม่ส่งผลกับราคาทองคำมากนั

· นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจาก Reuters ประเมินว่าราคาทองคำจะมีแนวรับแรกที่ระดับ 1,630 เหรียญ ขณะที่แนวต้านจะอยู่ที่ 1,660 เหรียญ

· Gold Price Analysis: ราคาขึ้นแรง แต่ยังไม่ผ่านแนวต้าน 1,650 เหรียญ



บทวิเคราะห์จาก FX Street ระบุว่า ราคาทองคำในช่วงสายวันนี้ เคลื่อนไหวแถวระดับ 1,643 เหรียญ โดยในช่วงต้นตลาดเอเชียทำระดับสูงสุดไปที่ 1,652 เหรียญ

แรงเข้าซื้อทองคำเริ่มที่จะชะลอตัวลง ท่ามกลางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 10 ปีที่เริ่มฟื้นตัวขึ้นมาแถว 0.983% หรือขึ้นมาประมาณ 0.07% จากระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.91% ที่ลงไปเมื่อวันก่อน ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปี ก็ฟื้นตัวขึ้นมาแถว 0.683% จากระดับต่ำสุดเมื่อคืนที่ 0.616%

ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะย่อตัวลงต่อ เนื่องจากเส้น RSI กำลังแสดงสัญญาณ Bearish divergence

อย่างไรก็ตาม ทิศทางขาขึ้นของราคาทองคำจะยังไม่อ่อนกำลังลงจนกว่าราคาจะย่อตัวต่ำกว่า 1,630 เหรียญ ซึ่งเป็นเส้นเทรนขาลงในกราฟราย 4 ช.ม. โดยหากราคาสามารถฟื้นตัวเหนือ 1,652 เหรียญ จะเป็นการลบล้างทิศทางขาลง และมีโอกาสขึ้นต่อไปยังแนวต้านถัดไปที่ ระดับ 1,660 เหรียญ

· เฟดสร้างเซอร์ไพร์สตลาดด้วยการลดดอกเบี้ย แล้วราคาทองคำจะเป็นอย่างไรต่อ?

เมื่อคืนวันอังคารเฟดตัดสินใจประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนอกรอบลงอีก 0.5% จึงทำให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นแต่ดาวโจนส์กลับเผชิญกับแรงเทขายเข้ามา

ผู้จัดการจาก CPM Group กล่าวว่า ราคาทองคำที่ตอบรับค่อนข้างดีน่าจะหมายถึงราคาทองคำน่าจะไปต่อได้ และตลาดก็คาดว่าน่าจะเห็นเฟดปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มได้อีก

ราคาทองคำค่อนข้างตอบรับในทิศทางเชิงบวก และการเคลื่อนไหวแบบนี้ดูจะไม่ธรรมดา ดังนั้น เราจึงคาดว่าจะเห็นราคาทองคำและซิลเวอร์นั้นค่อยๆปรับตัวขึ้น แต่การใช้นโยบายผ่อนคลายดังกล่าวอาจให้ผลลัพธ์ที่เห็นได้ช้าเกินไป เนื่องจากมาตรการการเงินส่วนใหญ่จะเห็นผลในช่วง 6 - 8 เดือน ขณะที่ไวรัสโคโรนามีแนวโน้มว่าจะถูกควบคุมได้แล้วในระยะเวลาช่วงนัั้น

· ราคาพลาเดียมปรับลง 0.4% แถว 2,490.70 เหรียญ ส่วนราคาแพลทินัมปรับขึ้น 0.7% แถว 880.71 เหรียญ และราคาซิลเวอร์ปรับขึ้น 0.2% แถว 17.22 เหรียญ

นักวิเคราะห์จากสมาคม World Platinum Investment ระบุว่า ปริมาณความต้องการแพลทินัมในภาคอุตสาหกรรมจะเพิ่มสูงขึ้นในปีนี้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2016 แต่จะไม่เพียงพอต่อการชะลอตัวของการเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไร ทำให้ปริมาณอุปทานในแพลทินัมยังคงล้นตลาดโลกเช่นเดิม


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com