· ราคาทองคำมีแนวโน้มปิดตลาดสัปดาห์นี้ในแดนบวกด้วยอัตราที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค. 2011 ท่ามกลางความกังวลว่าเศรษฐกิจโลกจะได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการระบาดของไวรัสโคโรนา
ราคาทองคำปรับขึ้น 0.1% แถว 1,671.73 เหรียญ หลังจากปรับขึ้นมาได้กว่า 2% เมื่อคืนก่อน
ด้านราคาสัญญาทองคำปรับขึ้น 0.3% แถว 1,673.30 เหรียญ
· นักวิเคราะห์จาก DailyFx ระบุว่าสาเหตุที่ราคาทองคำปรับสูงขึ้น มาจากกระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางทั่วโลกจะหันมาใช้อัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ ท่ามกลางการระบาดของไวรัสที่ขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ
ในภาพรวมสัปดาห์นี้ ราคาทองคำปรับสูงขึ้นมาได้ 5.8% โดยมีปัจจัยหลักมาจากการระบาดของไวรัสโคโรนาที่ทำให้นักลงทุนพากันเข้าหา Safe-haven กันอย่างล้มหลาม โดยเฉพาะหลังจากที่เฟดประกาศลดดอกเบี้ยฉุกเฉินลง 0.50% เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา
· นักวิเคราะห์จาก ANZ ระบุว่าพวกเขาสามารถเห็นกระแสลดการถือครองหุ้นและหันไปหาทองคำมากขึ้นได้อย่างชัดเจน และคาดการณ์ว่าราคาทองคำจะปรับสูงขึ้นได้อีก ท่ามกลางความกังวลที่มีต่อทิศทางเศรษฐกิจในอนาคต
· ตลาดหุ้นเอเชียปรับลดลงตามตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืน ขระที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 10 ปีปรับลงทำระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าทำระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักส่วนใหญ่
ในภาพรวมทั่วโลก มีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสรวมมากกว่า 98,00 ราย และเสียชีวิตรวมกว่า 3,300 ราย ส่วนในประเทศจีนที่ค้นพบการระบาดของไวรัสเป็นแห่งแรก มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ออกมาเพิ่มขึ้น 143 ราย
· การระบาดของไวรัสได้ส่งผลกระทบให้บรรดาผู้ประกอบการจำเป็นต้องหยุดกิจการลงชั่วคราว รวมถึงรัฐบาลตัดสินใจปิดการเดินทางเข้า-ออกเมือง จึงไปกดดันอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการบริการอย่างหนัก
· นายจอห์น วิลเลียม ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก ระบุว่าการระบาดของไวรัสเป็น “ปัจจัยเสี่ยงที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง” ต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และเฟดก็กำลังจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
· Gold Price Analysis: ขาขึ้นได้ไปต่อ จับตาเป้าหมายถัดไปที่ 1,710 เหรียญ
บทวิเคราะห์จาก FX Street ระบุว่าแม้ราคาทองคำจะมีการย่อตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบ 9 วันในคืนที่ผ่านมา ทิศทางของราคาก็ยังคงสดใส เนื่องจากยังอยู่ใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ประกอบกับสัญญาณจาก MACD ที่เป็นขาขึ้น โดยในช่วงสายวันนี้ ราคาทองคำย่อตัวลงเล็กน้อยประมาณ 0.16% แถว 1,669.76 เหรียญ
เมื่อคืนนี้ราคาทองคำขึ้นไปทำระดับสูงสุดแถว 1,675 เหรียญ ดังนั้นระดับดังกล่าวจึงเป็นแนวต้านแรกสำหรับวันนี้ ส่วนแนวต้านถัดไปจะอยู่ที่ระดับ 1,690 เหรียญ ที่เป็นระดับสูงสุดของเดือน ก.พ. รวมถึงระดับสูงสุดในรอบหลายปี
หากราคาสามารถผ่านระดับ 1,690 เหรียญไปได้ จะมีโอกาสไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 1,700 เหรียญ ซึ่งมีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูง เนื่องจากสัญญาณทางเทคนิคสดใส และหลังจากนั้นตลาดก็จะเริ่มจับตาเป้าหมายถัดไปที่ 1,710 เหรียญ
สำหรับฝั่งขาลงจะมีแนวรับแรกที่ระดับ 1,660 เหรียญ และถัดไปที่ 1,650 – 1,648 และ 1,630 เหรียญ ตามลำดับ
กรณีที่ราคาย่อตัวลงมาต่ำกว่าระดับ 1,630 เหรียญ ราคาจะเผชิญแนวรับสำคัญแถว 1,611 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของวันที่ 8 ม.ค. หากหลุดลงมา ราคาก็อาจร่วงลงมาถึงเส้นค่าเฉลี่ยราย 50 วันที่ 1,580 เหรียญได้
· Gold Price Forecast: คาดทองขึ้นต่อท่ามกลางการปรับลดดอกเบี้ย
บทวิเคราะห์จาก Daily FX คาดการณ์ว่าราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นได้ภายในสัปดาห์ถัดๆไป หลังจากการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดในสัปดาห์นี้ โดยถึงแม้การปรับลดดอกเบี้ยครั้งล่าสุดของเฟดจะเกิดขึ้นเหนือความคาดหมายของหลายฝ่ายๆ แต่ตลาดก็เริ่มจะคาดการณ์ว่าเฟดจะมีการปรับลดดอกเบี้ยอีกในการประชุมวันที่ 18 มี.ค. นี้ ดังนั้นราคาทองคำจึงมีแนวโน้มปรับขึ้นต่อได้ท่ามกลางภาวะอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ
Gold Price Chart: Daily Time Frame (January 2019 – March 2020)
ในเชิงเทคนิค ราคาทองคำจะมีแนวต้านอยู่ 2 แนวด้วยกัน โดยแนวต้านแรกจะอยู่ระดับ 1,690 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของเดือน ก.พ. ปี 2013 รวมถึงระดับสูงสุดของวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมานี้ และแนวต้านถัดไปอยู่ที่ระดับ Fibonacci ที่ 1,712 เหรียญ
· ราคาพลาเดียมปรับลด 0.7% แถว 2,515.85 เหรียญ
· นักวิเคราะห์จาก ANZ ระบุว่าราคาพลาเดียมยังคงปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ราคาแพลทินัมได้รับผลกระทบจากปริมาณอุปสงค์ที่ชะลอตัวลงจากภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่กำลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของไวรัส
· โดยราคาพลาเดียมได้ปรับลดลงมากถึง 13% เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา หลังจากที่ราคาขึ้นไปทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,875.50 เหรียญ ท่ามกลางภาวะขาดแคลนอุปทาน
ราคาซิลเวอร์ปรับลง 0.5% แถว 17.32 เหรียญ ส่วนราคาแพลทินัมปรับลง 1.1% แถว 854.72 เหรียญ