· ราคาทองคำค่อนข้างผันผวนอย่างมากในคืนวันศุกร์ โดยมีการปรับตัวลงจากระดับสูงสุดรอบ 7 ปี ท่ามกลางแรงเทขายในตลาดทองคำเพื่อทำการปิด Margin Calls จากไวรัสโคโรนาที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อตลาดหุ้น
ราคาทองคำตลาดโลกปิด -0.5% ที่ 1,662.75 เหรียญ โดยระหว่างการซื้อขายคืนวันศุกร์ปรับลงไปมากถึง 1,642 เหรียญโดยประมาณ ก่อนจะดีดกลับ ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนเม.ย. ปิด -0.3% ที่ระดับ 1,663.60 เหรียญ
ภาพรวมรายสัปดาห์ราคาทองคำปรับตัวขึ้นกว่า 1.2% ซึ่งเป็นระดับการปรับตัวรายสัปดาห์มากที่สุดตั้งแต่ม.ค. ปี 2013 โดยมีการทำ High ช่วงต้นสัปดาห์ที่ 1,689.65 เหรียญ ก่อนจะปรับตัวลงหนักกว่า 1.4% หลังไปทำสูงสุดดังกล่าว
· กองทุน SPDR ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ทำการเข้าซื้อทองคำ 12.88 ตัน และในวันศุกร์เข้าซื้ออีก 8.20 ตัน รวมการเข้าซื้อในช่วง 2 วันสุทธิ 21.08 ตัน ปัจจุบันจึงถือครองทองคำที่ระดับ 955.60 ตัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ช่วงต้นเดือน พ.ย. ปี 2016
· เช้านี้ทองคำยืนเหนือ 1,700 เหรียญ!
เช้านี้ราคาทองคำ Break เหนือ 1,700 เหรียญ แตะ 1,703 เหรียญ ท่ามกลางความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับไวรัสโคโรนส โดยเฉพาะในอิตาลี จึงทำให้เกิดความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น ขณะเดียวกันกลุ่มนักลงทุนก็วิตกกังวลอย่างหนักเกี่ยวกับผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังจากที่ PIMCO คาดการณ์เกี่ยวกับสภาวะถดถอย ควบคู่กับตลาดน้ำมันเช้านี้ดิ่งลงแรง
นักวิเคราะห์จาก FXStreet คาดการณ์ว่า ราคาทองคำหากยืนได้เหนือ 1,700 เหรียญ ก็จะมีระดับราคาเป้าหมายต่อไปที่1,720 เหรียญ และมีสิทธิที่จะทำ All-Time High ได้เหนือ 1,900 เหรียญ ที่เคยเป็นสูงสุดเมื่อปี 2011 ขณะที่แนวรับด้านล่างคือสูงสุดในรอบ 7 ปี บริเวณ 1,690 เหรียญ
· หัวหน้านักกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์จาก TD Securities กล่าวว่า ค่อนข้างมีความผันผวนอย่างหนักในตลาดหุ้น และมีโอกาสที่จะเห็นดัชนี S&P500 หลุดต่ำกว่า 3,000 จุด จึงทำให้เห็นถึงการปิดสถานะในทองคำเพื่อนำเงินสดมาปิดสภาวะ Margin Calls ของกลุ่มนักลงทุนในคืนวันศุกร์ และนี่กำลังสะท้อนถึงภาวะวิกฤตในตลาดการเงินได้ ท่ามกลางหุ้นสหรัฐฯที่ต่างก็ร่วงลงหนัก และดัชนีดาวโจนส์ก็ดูจะดิ่งหนักกว่า 2% ท่ามกลางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ทำ All-Time Lows จากความกังวลของกลุ่มนักลงทุนเกี่ยวกับความยืดเยื้อของภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว