· ราคาทองคำในวันนี้ปรับลดลง 1% ท่ามกลางแรงเทขายทำกำไร หลังจากที่ราคาปรับขึ้นไปเหนือระดับ 1,700 เหรียญเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับโอกาสเกิดภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจจากการระบาดของโคโรนาไวรัส
โดยราคาทองคำปรับลง 0.6% แถว 1,663.35 เหรียญ หลังทำระดับสูงสุดที่ 1,702.56 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของเดือน ธ.ค. ปี 2012 ขณะที่ราคาสัญญาทองคำปรับลง 0.4% แถว 1,665.30 เหรียญ
· นักวิเคราะห์จาก Phillip Futures ระบุว่าแรงเทขายที่เกิดขึ้นในตลาดทองคำวันนี้ เกิดจากปัจจัยทางเทคนิคมากกว่าปัจจัยอื่นๆ เนื่องจากระดับ 1,700 เหรียญถือเป็นระดับเป้าหมายของนักลงทุนส่วนใหญ่ ทำให้เกิดการทำ Profit-taking ทันทีที่ราคาขึ้นไปถึงระดับดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม แรงเทขายจะเกิดขึ้นในระยะสั้นๆเท่านั้น เนื่องจากตลาดหุ้นยังคงอ่อนแอจากการระบาดของโคโรนาไวรัส
ตลาดหุ้นทั่วโลกต่างปรับร่วงลงอย่างหนัก ขณะที่ดัชนีฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐฯปรับลดลงถึง 5% เนื่องนักลงทุนหันเข้าหา Safe-haven กันมากขึ้น
ค่าเงินเยนแข็งค่าทำระดับแข็งค่าที่สุดในรอบ 3 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพัธบัตรสหรัฐฯปอายุ 10 ปี ทำระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
· นักวิเคราะห์จาก OANDA ระบุว่าราคาทองคำในช่วงตลาดก่อนหน้านี้ ปรับขึ้นได้มากถึง 1.7% ท่ามกลางการเข้าถือครอง Safe-haven หลังข้อมูลเศรษฐกิจจีนประกาศออกมาอ่อนแอ ขณะที่อิตาลีประกาศควบคุมบริเวณประชากรในประเทศมากกว่า 3 ใน 4 เนื่องจากการระบาดของไวรัส
ข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่เปิดเผยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่ายอดส่งออกของจีนปรับลดลงอย่างมากในช่วง 2 เดือนของปี 2020 ขณะที่การนำเข้าก็ชะลอตัวลงเช่นกัน เนื่องจากการระบาดของไวรัสส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
รัฐบาลอิตาลีประกาศปิดย่านเศรษฐกิจขนาดใหญ่ทางตอนเหนือของเมืองมิลาน เพื่อพยายามควบคุมการระบาดของโคโรนาไวรัส ส่งผลกระทบต่อประชาชนกว่า 16 ล้านคน ซึ่งจะถูกสั่งห้ามรวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่ หรือจำกัดการเคลื่อนไหวเข้า-ออกพื้นที่จนถึงวันที่ 3 เม.ย.
· ผลสำรวจโดย Reuters คาดการณ์ว่าการระบาดของโคโรนาไวรัส ที่ล่าสุดมีจำนวนผู้ติดเชื้อรวมกันทั่วโลกมากกว่า 110,000 ราย จะทำให้จีนชะลอการเติบโตทางเศรษฐกิจลงไปมากกว่าครึ่งหนึ่งของคาดการณ์เดิมเมื่อ3 เดือนก่อน
ตลาดกำลังคาดการณ์ว่าเฟดจะมีการปรับลดดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมวันที่ 18 มี.ค. นี้ แม้เฟดจะมีการประกาศลดดอกเบี้ยฉุกเฉินเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
· นักวิเคราะห์จาก OANDA กล่าวเสริมว่าการปรับลดลงอย่างหนักถึง 30% ของราคาน้ำมัน ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินฝืดขึ้น จึงเป็นปัจจัยที่กดดันราคาทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนเลือกถือครองเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ
· นักกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์อาวุโสจาก Bloomberg Intelligence กล่าวว่า การปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร และการร่วงลงของตลาดหุ้นอาจเป็นการให้สัญญาณถึงการปรับตัวลงควบคู่กับราคากลุ่มพลังงานด้วยเช่นเดียวกันกับสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ดังนั้น สินค้าโภคภัณฑ์ก็น่าจะยังปรับตัวลงต่อจนกว่าตลาดหุ้นจะแสดงทิศทางที่ชัดเจนเกี่ยวกับการฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพ
อย่างไรก็ดี ทองคำน่าจะปรับขึ้นไปแตะ 1,800 เหรียญได้ เนื่องจากราคาผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นในลักษณะ Inverse
นักวิเคราะห์จาก DailyFX กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรในเวลานี้อาจเป็นผลบวกต่อราคาทองคำให้สามารถกลับไปทำ All-Time High เหนือ 1,900 เหรียญได้
· ราคาซิลเวอร์ปรับลง 3.9% แถว 16.63 เหรียญ ด้านราคาพลาเดียมปรับลง 4% แถว 2,463 เหรียญ และราคาแพลทินัมปรับลง 3% แถว 873.50 เหรียญ