· ราคาทองคำปรับลดลงมากกว่า 1% ย่อตัวลงจากระดับสูงสุดเหนือ 1,700 เหรียญที่ขึ้นไปได้ในช่วงตลาดก่อนหน้า ท่ามกลางความหวังว่าการประกาศนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากทั่วโลกจะสามารถช่วยบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโคโรนาไวรัสได้
ราคาทองคำย่อตัวลง 1.4% แถว 1,656.24 เหรียญ หลังจากทำระดับสูงสุดตั้งแต่เดือน ธ.ค. ปี 2012 ที่ 1,702.56 เหรียญ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับโคโรนาไวรัส ขณะที่ราคาสัญญาทองคำปรับลดลง 1.1% แถว 1,657.10 เหรียญ
· นักวิเคราะห์จาก AxiCorp ระบุว่าตลาดมีความผันผวนสูง เนื่องจากกระแสความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงเริ่มฟื้นตัวกลับขึ้นมาบ้าง โดยเฉพาะหลังจากที่สหรัฐฯและญี่ปุ่นต่างส่งสัญญาณว่าจะมีการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ จึงเป็นปัจจัยที่กดดันราคาทองคำในวันนี้
· นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุว่าเขาจะเปิดเผยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ “ครั้งใหญ่” เพื่อรับมือกับการระบาดของโคโรนาไวรัส
· ขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจญี่ปุ่นระบุว่ารัฐบาลจะไม่ลังเลที่จะดำเนินการออกนโยบายที่เหมาะสมเพื่อช่วยปกป้องเศรษฐกิจจากผลกระทบของโคโรนาไวรัส
นอกจากนี้ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังญี่ปุ่นระบุว่าทางรัฐบาลญีปุ่นมีการติดต่อกับรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อพิจารณาการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจควบคู่กัน
· นักวิเคราะห์มองว่าหากญี่ปุ่นตัดสินใจออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ประเทศอื่นๆในภูมิภาคเอเชียก็จะตัดสินใจออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเช่นเดียวกัน กลายเป็น Domino Effect
· ตลาดหุ้นเอเชียและค่าเงินดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นในวันนี้ ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรก็ฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน
· ค่าเงินเยนที่เป็น Safe-haven อ่อนค่าลงจากระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีที่ขึ้นไปเมื่อวานนี้
· นักวิเคราะห์จาก CMC Markets มองว่าหากสหรัฐฯมีการออกนโยบายเศรษฐกิจครั้งใหญ่จริง ความเชื่อมั่นของนักลงทุนก็จะสามารถฟื้นกลับขึ้นมาได้ ซึ่งนั่นจะเป็นปัจจัยลบต่อราคาทองคำ
· เฟดเมื่อสัปดาห์ก่อนได้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงแบบฉุกเฉิน ขณะที่ตลาดยังคาดการณ์ว่าเฟดจะมีกาปรรับลดดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมวันที่ 18 มี.ค. นี้
· อิตาลีประกาศขยายมาตรการควบคุมการระบาดของโคโรนาไวรัสให้มีผลทั่วประเทศ จำกัดการเดินทางของประชาชน และห้ามมีการรวมตัวกันทางสังคม
· จำนวนผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นแตะระดับ 111,600 ราย รวมจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศจีนที่ 80,754 ราย
· กองทุน SPDR เพิ่มการถือครองทองคำสู่ระดับ 30.99 ล้านออนซ์ เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นะระดับสูงสุดตั้งแต่ ต.ค. ปี 2016
· Gold Price Analysis: สัญญาณ Spinning Top ชี้ทิศทางขาขึ้นอ่อนแรงชั่วคราว
บทวิเคราะห์จาก FX Street ระบุว่า หลังจากที่ราคาทองคำขึ้นไปทำระดับสูงสุดในรอบ 7 ปีที่ 1,703 เหรียญเมื่อวานนี้ แต่ได้ปิดตลาดรายวันด้วยแท่งเทียนที่เป็นลักษณะ Spinning Top บ่งชี้ถึงความลังเลของฝั่งเข้าซื้อ
ทั้งนี้ ราคาจะยืนยันทิศทางกลับตัวลง หากหลุดต่ำกว่าระดับ 1,657 เหรียญ (ระดับต่ำสุดของวันจันทร์) ซึ่งจะทำทิศทางระยะสั้นเข้าสู่ขาลง และมีโอกาสลงทดสอบแนวรับ 1,640 เหรียญ หากหลุดลงมาอีกก็อาจร่วงต่อไปถึงแนวรับทางจิตวิทยาที่ 1,600 เหรียญ
หากราคาสามารถปรับขึ้นต่อ และปิดเหนือระดับ Spinning Top ที่ 1,703 เหรียญได้ จะทำให้ทิศทางขาขึ้นสามารถดำเนินต่อไปได้
· ราคาพลาเดียมปรับขึ้น 0.5% แถว 2,502.99 เหรียญ หลังลงไปทำระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 1 เดือนในช่วงก่อนหน้า ด้านราคาซิลเวอร์ปรับสูงขึ้น 0.2% แถว 17.01 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทินัมปรับสูงขึ้น 1.5% แถว 875.24 เหรียญ