· ราคาทองคำปรับตัวลงกว่า 1.5% จากคาดการณ์ที่จะเห็นทั่วโลกมีมาตรการบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจจากไวรัสโคโรนา จึงช่วยคลายความกังวลให้แก่นักลงทุนบางส่วน และทำให้ตลาดหุ้นกลับมาฟื้นตัวได้บ้าง
ราคาทองคำตลาดโลกปิด -1.6% ที่ 1,653.33 เหรียญ ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนเม.ย. ปิด -0.9% ที่ 1,660.3 เหรียญ
· กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ ขายทองคำออก 1.76 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ระดับ 962.03 ตัน และโดยภาพรวมปีนี้ SPDR ซื้อสุทธิกว่า 30.99 ล้านออนซ์ ซึ่งถือเป็นระดับมากที่สุดตั้งแต่ต.ค. ปี 2016
· หัวหน้าเทรดเดอร์จาก U.S. Global Investors กล่าวว่า ความผันผวนในตลาดหุ้นช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ได้ส่งผลให้นักลงทุนทำการปิดสถานะในทองคำออกบางส่วน และเพื่อรักษาสภาวะการลงทุนทั่วทุกสินทรัพย์ที่ถือครอง จึงต้องมีการขายทองคำออกมาบ้าง ท่ามกลางการเริ่มกลับเข้าซื้อดัชนี S&P500 บางส่วนในเวลานี้
· ราคาทองคำที่ปรับตัวขึ้นไปกว่า 1.7% และทำสูงสุดตั้งแต่ธ.ค. ปี 2012 บริเวณ 1,702.56 เหรียญ มาจากการที่ตลาดหุ้นและราคาน้ำมันปรับตัวลงหนักเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ขณะที่เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นและน้ำมันต่างก็มีสัญญาณการฟื้นตัวจากการที่ทั่วโลกหันมาใช้นโยบายผ่อนคลายเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลก
· นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า จะทำการผ่อนคลายมาตรการหลักๆเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ ขณะที่ญี่ปุ่นเผยมาตรการฉบับที่ 2 มูลค่า 4 พันล้านเหรียญในการจัดการจากผลกระทบในการปรับตัวลงทางเศรษฐกิจอันเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
· ในสัปดาห์ที่แล้วเฟดได้ตัดสินใจที่จะทำการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงไป 0.5% และตลาดก็คาดว่าในการประชุมสัปดาห์หน้าเฟดจะประกาศปรับลดดอกเบี้ยอีกครั้งในวันที่ 18 มี.ค. ขณะที่อีซีบีก็อยูภายใต้สถานการณ์กดดันในการสนับสนุนทางเศรษฐกิจ และน่าจะทำการประกาศแนวทางการตัดสินใจนโยบายในการประชุมวันพรุ่งนี้
· นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Kitco Metals กล่าวว่า การรีบาวน์ของตลาดหุ้นที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้น่าจะเป็นไปในลักษณะ “Dead-Cat Bounce” เนื่องจากตลาดหลักๆก็ยังคงมีแรงเทขายอยู่ ดังนั้นราคาหุ้นจึงน่าจะเป็นขาลงอยู่ และภาพรวมคนทั่วไปยังกังวลกับไวรัสโคโรนาที่ยังคงระบาดอย่างต่อเนื่อง
· ราคาพลาเดียมปิด -3% ที่ 2,414.82 เหรียญ ด้านซิลเวอร์ปิด -0.3% ที่ 16.92 เหรียญ ทางด้านแพลทินัมปิด +0.8% ที่ 869.34 เหรียญ