เกิดสัญญาณความผันผวนของตลาดตั้งแต่เปิดตลาดสัปดาห์ หลังจากที่เฟดประกาศลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉินลงสู่ระดับ 0% ในช่วงเช้าตรู่วันนี้ พร้อมแนะนำว่าทองคำถือสินทรัพย์เดียวที่ควรถือครองในสถานการณ์เช่นนี้
ในช่วงเปิดตลาดเอเชีย ราคาสัญญาทองคำส่งมอบเดือน เม.ย. ได้ปรับสูงขึ้น 2.8% แถวระดับ 1,559.50 เหรียญ เทียบกับดัชนีฟิวเจอร์ส S&P 500 ที่ปรับลง 4.77%
การเคลื่อนไหวของตลาดเกิดขึ้นหลังจากที่เฟดประกาศลดดอกเบี้ยลงสู่กรอบ 0 – 0.25% ซึ่งนับเป็นการปรับลดดอกเบี้ยฉุกเฉินครั้งที่สองภายในระยะเวลาไม่กี่สัปดาห์
นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่าการปรับลดดอกเบี้ยครั้งล่าสุดของเฟดเป็นอีกการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นจากภาวะแตกตื่น หรือ Panic move ท่ามกลางกระแสความกังวลว่าเศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยเนื่องจากการที่รัฐบาลหลายๆประเทศตัดสินใจปิดประเทศเพื่อยับยั้งการระบาดของไวรัส
บรรดานักวิเคราะห์จึงเริ่มประเมินสถานการณ์ใหม่ อีกครั้งหลังจากการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดครั้งล่าสุด ว่าเศรษฐกิจจะอ่อนแอลงมากแค่ไหน
ผู้บริหารจาก Forexlive.com มองว่าสินทรัพย์เดียวที่สามารถถือครองในเวลาได้คือทองคำ ขณะที่ภาวะขาดดุลน่าจะมีความร้ายแรง เนื่องจากหากเป็นสภาวะวิกฤติทางการเงิน รัฐบาลก็จะพยายามสนับสนุนภาคธนาคาร แต่คราวนี้เป็นวิกฤติการระบาดของไวรัส รัฐบาลจึงจำเป็นต้องดูแลทุกๆฝ่าย
หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การตลาดจาก Blue Line Futures คาดว่าราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นได้อีก และคาดว่าความผันผวนของตลาดในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้น่าจะมีความรุนแรงมากที่เดียว ดังนั้นจะไม่แปลกใจเลยหากเห็นราคาทองคำปรับขึ้นได้ถึง 80 เหรียญ และก็ไม่แปลกใจเช่นกันหากราคาทองคำจะทรงตัวหรือปรับตัวลงเล็กน้อย
ก่อนหน้าการประกาศลดดอกเบี้ยของเฟด หัวหน้าฝ่ายบริหารกองทุน ETF ประจำสถาบัน Aberdeen Standard Investments คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,525 – 1,575 เหรียญ ท่ามกลางสถานการณ์ความผันผวนในปัจจุบัน
พร้อมย้ำว่าหลังจากการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดผ่านพ้นไป ทองคำจะเป็นเพียงสินทรัพย์เดียวที่สามารถือครองได้ เนื่องจากบรรดาธนาคารกลางจะพากันปรับลดดอกเบี้ยและออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ราคาทองคำจะเริ่มปรับสูงขึ้นเมื่อนักลงทุนเริ่มตระหนักถึงเม็ดเงินที่ถูกตีพิมพ์เข้ามาในตลาด ซึ่งจะทำให้เกิดภาวะเงินฝืดตามมา