วุฒิสภาสหรัฐฯมีมติผ่านร่างนโยบายอัดฉีดเงินครั้งประวัติศาสตร์เป็นงบประมาณกว่า 2 ล้านล้านเหรียญ ด้วยคะแนนเสียง 96-0 พร้อมส่งต่อไปยังสภาผู้แทนราษฎรเพื่อทำการลงมติต่อ โดยคาดว่าจะสามารถผ่านการลงมติในผู้แทนฯไปได้เช่นกัน และอาจได้รับการลงนามให้มีผลบังคับใช้เร็วที่สุดผ่านในวันศุกร์นี้ แต่เกิดความกังวลว่างบประมาณดังกล่าวจะเพียงพอที่จะรองรับภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่หรือไม่
โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น 1.3%
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นร่วงลงอย่างหนัก หลังจากปรับตัวสูงขึ้น 3 วันก่อน เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในประเทศเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดยิ่งขึ้น สำหรับมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม
โดยดัชนี Nikkei ลดลง 4.51% ที่ระดับ 18,664.60 จุด ในช่วง 3 วันทำการก่อนหน้านี้ดัชนีเพิ่มขึ้น 18% โดยเมื่อวานนี้เพิ่มขึ้นถึง 8% ซึ่งนับเป็นการปรับตัวสูงขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2008 ที่ผ่านมา
สำหรับปัจจัยที่หนุนให้ดัชนีปรับตัวสูงขึ้นได้ มาจากการเข้าซื้อจากบัญชีสาธารณะในประเทศและความหวังว่าจะได้รับแรงกระตุ้นจากสหรัฐฯ
· ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลง เนื่องจากเหล่านักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากที่ปรับตัวสูงขึ้นได้ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา รวมทั้งมียอดผู้ติดเชื้อจากไวรัสโคโรนาในประเทศเพิ่มขึ้น จีนจคงต้องควบคุมอย่างเข้มงวดมากขึ้นเพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ำอีก
โดยดัชนี Shanghai Composite ลดลง 0.6% ที่ระดับ 2,764.91 จุด
· ตลาดหุ้นยุโรปเปิดปรับตัวลดลง เนื่องจากความเชื่อมั่นของเหล่านักลงทุนทั่วโลกแย่ลงอีกครั้ง ก่อนหน้าการประกาศยอดผู้ว่างงานสหรัฐฯในคืนนี้
โดยดัชนี Stoxx600 ลดลง 1.5% ด้านหุ้นกลุ่มทรัพยากรลดลง 2.7% ท่ามกลางตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในแดนลบ
อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- "อุตตม" ลั่นพร้อมอัดฉีดงบเยียวยาเพิ่ม หากจำนวนแรงงานนอกระบบที่โดนผลกระทบ "โควิด-19" สูงกว่าเป้าหมาย 3 ล้านคน ย้ำขอให้เป็นผู้ที่โดนผลกระทบจริงเท่านั้น พร้อมเตรียมแถลงขั้นตอนการลงทะเบียนรับเงินเยียวยาวันนี้ แจงกรณีให้สินเชื่อเพิ่มเติม
เพื่อเลี่ยงใช้บริหารเงินกู้นอกระบบ
- กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยสถิตินักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยในเดือน ก.พ. 63 พบ
ว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนนี้มีจำนวนลดลงอย่างเห็นได้ชัด หลังเกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในหลายพื้นที่ทั่วโลก จึงทำให้นักท่องเที่ยวชะลอการเดินทาง ทำให้ตลอดทั้งเดือน ก.พ. 63 ประเทศ ไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเพียง2,061,990 คน ลดลง 42.78% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมีรายได้จากการท่องเที่ยว 103,713.94 ล้านบาท ลดลง 43.90% ขณะที่
จำนวนยอดสะสมในเดือน ม.ค.-ก.พ. 63 มีจำนวนนักท่องเที่ยว 5,872,145 คน ลดลง 19.80% เกิดรายได้ 292,502.23 ล้านบาท
ลดลง 23.16%
- "ธปท."ประกาศออก "มาตรฐานกลางขั้นต่ำ" ช่วยเหลือลูกหนี้ดี 6 กลุ่ม ลดผลกระทบ โควิด-19 ทั้งเลื่อนจ่ายเงินต้น-
ดอกเบี้ย ลดวงเงินจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตเหลือ 5% ยาว 2 ปี พร้อมเปิดทางลดดอกเบี้ยตามสถานการณ์ของลูกค้าแต่ละราย มีผล 1 เม.ย.นี้ ด้านธุรกิจบัตรเครดิตจ่อหารือหลังธปท.ขอให้ลดเพดานดอกเบี้ยบัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล
- คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน มีความเห็นร่วมกันให้ตั้งวอร์รูม ติดตามเป็นรายกลุ่มสินค้าและบริการสำคัญ 7 กลุ่ม
รวมทั้งการประเมินปริมาณสินค้าที่สำคัญต่อการอุปโภคบริโภคของประชาชนให้มีเพียงพอในประเทศ ในสถานการณ์โควิด-19
อ้างจากสำนักข่าวกรุงเทพธุรกิจ
วันที่ 26 มี.ค. 63 นพ.ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงสถานการณ์ โควิด-19 ผู้ติดเชื้อเพิ่ม 111 ราย รวมผู้ติดเชื้อทั้งหมด 1,045 ราย ผู้ป่วยหนัก 4 ราย
ผู้ป่วยที่รักษาอยู่ที่โรงพยาบาล 953 ราย เสียชีวิต 4 ราย รักษาหายเพิ่ม 18 ราย รวมรักษาหายเเล้ว 88 ราย
โดย 111 ราย เเบ่งเป็น 3 กลุ่มดังนี้
กลุ่มที่ 1 ผู้ที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วย หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยก่อนหน้า จำนวน 29 ราย
- กลุ่มสนามมวย 6 ราย
- กลุ่มสถานบันเทิง 3 ราย
- กลุ่มผู้สัมผัสกับผู้ป่วยก่อนหน้า 19 ราย
- กลุ่มผู้ที่เข้าร่วมพิธีทางศาสนา 1 ราย (ปัตตานี)
ผู้ป่วยใหม่ 19 ราย กลุ่มเดินทางมาจากต่างประเทศ เป็นคนไทย 5 ราย ต่างชาติ คนอเมริกัน 1ราย กลุ่มที่ทำงานสัมผัสกับกลุ่มเสี่ยง ในพื้นที่แออัด 9 ราย และบุคคลากรทางการแพทย์ 3 ราย รวมบุคคลากรทางแพทย์ติดเชื้อแล้ว 9 ราย ปอดอับเสบไม่ทรายสาเหตุ1ราย และอยู่ระหว่างการสอบสอนโรค 63 ราย