· ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ ท่ามกลางดัชนีดาวโจนส์ที่มีภาพรายไตรมาสที่ปรับตัวลดลงแย่ที่สุดตั้งแต่ปี 1987 ในขณะที่ดัชนี S&P500 เองก็ร่วงลงมากที่สุดตั้งแต่ที่เคยเกิดวิกฤตทางการเงิน อันเนื่องจากประสบปัญหาไวรัสโคโรนา
ดัชนีดาวโจนส์ปิด -410.32 จุด หรือ -1.84% ที่ระดับ 21,917.16 จุด ขณะที่ S&P500 ปิด -1.6% ที่ 2,584.59 จุด และ Nasdaq ปิด -0.95% ที่ 7,700.1 จุด
ภาพรวมดัชนี S&P500 มีการปรับตัวลงในไตรมาสแรกของปีนี้มากที่สุดเป็นประวัติการณ์กว่า 20% ขณะที่ดาวโจนส์เองไตรมาสที่ 1/2020 ก็ปรับตัวลงมากกว่า 20% จากการปิดชั่วคราวของภาคธุรกิจ และผลที่ตามมาจากการระบาดของไวรัสโคโรนาก็ได้ส่งผลให้บรรดานักเศรษฐศาสตร์ ทำการหั่นคาดการณ์การเติบโตทางเศรษกิจปีนี้ และเฝ้าดูรายงานผลประกอบการภาคบริษัทต่างๆที่คาดว่าจะออกมาแย่ลง รวมทั้งกังวลต่อภาวการณ์เลิกจ้างงานที่จะนำไปสู่ภาวะถดถอยเชิงลึก
· ดัชนีฟิวเจอรสสหรัฐฯเช้านี้ปรับตัวลงต่อตามการปิดร่วงเมื่อคืนนี้ หลังจากที่รายงานไตรมาสแรกของปีนี้ออกมาแย่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ทั้งในส่วนของดัชนีดาวโจนส์และ S&P500 ที่เผชิญแรงเทขายทำกำไรจากวิกฤตไวรัสโคโรนา
ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์สในเช้านี้เปิด -1.2% หรือประมาณ 220 จุด ในขณะที่ S&P500 และ Nasdaq ฟิวเจอร์ส เปิดร่วงลงไปประมาณ 25 จุด และ 55 จุด ตามลำดับ ท่ามกลางการยอมรับของนายทรัมป์ที่ระบุถึงสหรัฐฯจะเผชิญกับช่วงเวลาที่แย่ที่สุดในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า และทำเนียบขาวที่ประเมินว่าจะมีผู้เสียชีวิตในสหรัฐฯประมาณ 100,000 – 200,000 ราย
· ตลาดหุ้นยุโรปปิดแดนบวกหลังจากที่ข้อมูล PMI จีนออกมาดีขึ้น แต่ภาพรายไตรมาสก็ดูจะย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2002 จากการระบาดของไวรัสที่ส่งผลให้เศรษฐกิจก้าวสู่ภาวะถดถอย โดยดัชนี Stoxx 600 ปิด +1.5% แต่ไตรมาสแรกของปีนี้ ปรับตัวลดลงไปแล้วประมาณ 23.1% ซึ่งถือเป็นไตรมาสที่ย่ำแย่ที่สุด ขณะที่ IBEX ของสเปนดิ่ง 30% และ FTSE MIB ของอิตาลีร่วงกว่า 28% ในส่วนของหุ้นเยอรมนีและอังกฤษร่วงประมาณ 25%
· ตลาดหุ้นเอเชียเปิดผสมผสานกันในวันนี้ ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่รอคอยการเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตของภาคเอกชนจีนในเดือนมี.ค. โดยดัชนีนิกเกอิเปิด -1.33% ท่ามกลาง Topix เปิด -1.1%
ขณะที่ผลสำรวจภาคธุรกิจ Tankan เดือนมี.ค. ของญี่ปุ่นพบว่า ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจรายใหญ่ออกมา -8 จุด จากคาดการณ์ที่จะออกมาที่ -10 จุด
ดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้เปิดรีบาวน์ขึ้นจากช่วงต้นตลาด โดยเปิด +0.3% ในขณะที่ Kosdaq เปิด +1.66% ทางด้าน S&P/ASX200 ก็รีบาวน์ขึ้นได้ 3.08%
ในส่วนของดัชนี MSCI ที่ไม่ตรวมตลาดญี่ปุ่นเปิด +0.51%
· นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.70 - 33.00 บาท/ดอลลาร์ โดยค่าเงินบาทยังอ่อนค่าต่อ เพราะยังกังวลต่อปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั้งนี้พอมีความเสี่ยงมาก คนก็อยากถือเงินสดไว้ในมือ
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงภาวะเศรษฐกิจไทยในเดือน ก.พ.63 หดตัวจากระยะเดียวกันของปีก่อน โดยการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจเป็นวงกว้างชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่หดตัวสูง
นอกจากนี้การส่งออกและการนำเข้าสินค้าได้รับผลกระทบเพิ่มเติมจากมาตรการปิดเมืองของจีน ส่วนการใช้จ่ายภาครัฐหดตัวต่อเนื่อง มีเพียงการบริโภคภาคเอกชนที่ยังขยายตัวได้จากการเร่งซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจำเป็น ทั้งนี้กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หดตัวทำให้การผลิตภาค
อุตสาหกรรมและการลงทุนภาคอกชนหดตัวสอดคล้องกัน ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงจากเดือนก่อน จากอัตราเงินเฟ้อหมวดพลังงานที่ลดลงตามราคาน้ำมันดิบ ในตลาดโลก ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานปรับสูงขึ้น ด้านดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลเพิ่มขึ้นจากมูลค่าการนำเข้าสินค้าที่ลดลงมา แม้รายรับจาก ภาคการท่องเที่ยวจะลดลง ส่วนดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายไหลออกสุทธิ
- ธปท. ระบุว่า จากประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2563 ที่คาดว่าจะหดตัว -5.3% นั้น ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะติดลบทุกไตรมาส และจะหดตัวมากสุดในไตรมาส 2 จากนั้นการหดตัวจะเริ่มน้อยลงในไตรมาส 3 และ 4 ตามลำดับ โดยปัจจัยหลักมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่คาดว่าจะหายไปมากที่สุดในช่วงไตรมาส 2 จากผลของมาตรการที่เข้มข้นในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะเริ่มฟื้นกลับมาได้ในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้
- สำนักวิจัยธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) ปรับมุมมองทางเศรษฐกิจไทย จากเดิมขยายตัว 1.7% เป็นหดตัว 6.4%ตามภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลก ซึ่งทำให้เศรษฐกิจไทยถึงจุดต่ำสุดในช่วงไตรมาส 2/63 และน่าจะฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง แต่หากสถานการณ์เลวร้ายไปอีก เศรษฐกิจไทยคงเข้าสู่ภาวะวิกฤตตามเศรษฐกิจโลก เพราะมีความเสี่ยงเติบโตช้าจากปัญหาสงครามการค้า ภัยแล้ง และงบประมาณล่าช้า ก่อนจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
- วันที่ 31 มีนาคม 2563 นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ลงนามในประกาศ เรื่อง มาตรการพึงปฏิบัติเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 ฉบับที่ 2: ขอความร่วมมือประชาชนงดการออกนอกเคหสถาน และขอความร่วมมือประชาชนทุกคน งดการออกนอกเคหสถานตั้งแต่เวลา 23.00 น. – 05.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ยกเว้น เป็นผู้ขนส่งสินค้า ผู้ที่ต้องปฏิบัติงานใน ช่วงเวลาดังกล่าว หรือมีความจำเป็นเร่งด่วน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง ประกาศ ณ วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ.2563