MTS Help Center

· ราคาทองคำปรับสูงขึ้นเนื่องจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ ท่ามกลางตลาดที่มีความเชื่อมั่นดีขึ้นจากความหวังว่าการระบาดของไวรัสโคโรนาได้เข้าใกล้หรือทำจุดสูงสุดไปแล้ว

โดยราคาทองคำปรับขึ้น 0.1% แถว 1,647.94 เหรียญ หลังทำระดับสูงสุดในรอบ 4 สัปดาห์ที่ 1,671.40 เหรียญ ไปเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ขณะที่ราคาสัญญาทองคำทรงตัวแถว 1,683.40 เหรียญ

· นักวิเคราะห์จาก AxiCorp ระบุว่าราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่ส่งสัญญาณจะอ่อนค่าลง ขณะที่ปริมาณการซื้อขายเริ่มที่จะกลับมาในตลาดอย่างช้าๆตลอดช่วง 24 ช.ม. ที่ผ่านมา เนื่องจากตลาดเริ่มฟื้นความเชื่อมั่นกลับมาบ้าง

· ตลาดหุ้นเอเชียวันนี้ปรับสูงขึ้นตามตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืน ขณะที่ค่าเงินความเสี่ยงสูงได้รับแรงหนุนจากมุมมองว่าการระบาดของไวรัสอาจพ้นช่วงที่รุนแรงที่สุดไปแล้ว ด้านดัชนีดอลลาร์ค่อนข้างทรงตัวหลังจากในช่วงต้นตลาดอ่อนค่าลง 0.1% ส่วนในภาพรวมรายสัปดาห์ ดัชนีอ่อนค่าลง 0.6%

· ผู้ว่านครนิวยอร์กระบุว่ามาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social distancing) ใช้ได้ผล และเริ่มที่จะควบคุมการระบาดของไวรัสได้แล้ว แม้ว่าทางเมืองนิวยอร์กจะยังมีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันที่มากที่สุดในสหรัฐฯก็ตาม

· ขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เริ่มส่งสัญญาณเกี่ยวกับการกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง แต่ก่อนอื่นเขาต้องการอัตราการเสียชีวิตเริ่มชะลอตัวลงเสียก่อน

· ขณะที่ทางสำนักงานควบคุมโรคระบาดในยุโรประบุว่ายังไม่พบสัญญาณเกี่ยวกับการชะลอตัวของการระบาดแต่อย่างใด

· นักวิเคราะห์จาก ANZ ระบุว่าการฟื้นตัวของตลาดหุ้นเป็นปัจจัยที่กดดันความต้องการทองคำ แต่ส่งผลกระทบแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่ทั้งหมด พร้อมระบุว่าทองคำเป็นอีกสินทรัพย์หนึ่งที่กำลังเคลื่อนไหวสอดคล้องกับราคาน้ำมัน

โดยราคาน้ำมันวันนี้ปรับขึ้นได้จากกระคาดการณ์ว่ากลุ่มโอเปกและพันธมิตรจะสามารถหาข้อตกลงเกี่ยวกับการปรับลดกำลังการผลิตได้

· จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาทั่วโลกล่าสุดอยู่ที่มากกว่า 1.41 ล้านราย ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตมากกว่า 83,400 ราย

เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจ บรรดาธนาคารกลางของหลายๆประเทศจึงออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและผ่อนคลายนโยบายทางการเงินลง

· ปัจจัยที่สะท้อนถึงปริมาณอุปสงค์ในทองคำที่แข็งแกร่งในตลาดโลก มาจากการเข้าซื้อทองคำของกองทุน SPDR ที่ยังคงเพิ่มการถือครองทองคำอย่างต่อเนื่อง

· ด้านราคาพลาเดียมปรับสูงขึ้น 0.1% แถว 2,176.73 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทินัมปรับขึ้น 0.1% แถว 730.15 เหรียญ หลังทำระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ไปเมื่อวาน

· ราคาซิลเวอร์ปรับขึ้น 0.1% แถว 15.06 เหรียญ หลังทำระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ไปเมื่อวันอังคาร

· Natixis ชี้ทองคำไตรมาส 2 ผันผวน แต่มีโอกาสแตะ 1,900 เหรียญในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี

ราคาทองคำเคลื่อนไหวในภาวะสะสมพลังและต่ำกว่า 1,700 เหรียญ แม้ว่าความเชื่อมั่นในตลาดจะยังเป็นขาขึ้น แต่ไตรมาสที่ 2 นี้เชื่อว่าตลาดจะยังคงเผชิญกับความยากลำบาก จากการปิดสถานะเพื่อถือครองเงินสด แต่ยังมีโอกาสเห็นราคาปรับขึ้นได้อยู่จนถึงช่วงสิ้นปีนี้

นอกจากนี้ นักเศรษฐศาสตร์ของ Natixis ยังมองว่ามีแนวโน้มที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯจะปรับตัวลงได้อย่างต่อเนื่อง โดยน่าจะปรับตัวลงอีก 15% จากนี้จนถึงเดือนมิ.ย. และคาดว่าจะค่อยๆเห็นภาวะขาลงเริ่มขึ้นในสัปดาห์หน้าเป็นต้นไป

อย่างไรก็ดี ภาพระยะสั้นของทองคำยังมีความผันผวน และคาดว่าราคาเฉลี่ยทองคำช่วงสิ้นปีนี้หรือไตรมาสที่ 4 จะอยู่แถว 1,850 เหรียญ แต่ราคาเฉลี่ยโดยรวมปีนี้จะอยู่ที่ 1,790 เหรียญ ขณะที่ปีหน้า (2021) จะมีราคาเฉลี่ยเพิ่มขึ้นที่ 1,823 เหรียญ

เมื่อมองที่เศรษฐกิจจะเห็นว่าไวรัสโคโรนาค่อนข้างกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯเป็นอย่างมาก จึงมีโอกาสเพิ่มขึ้นที่จะเห็นภาวะล้มละลายในภาคธนาคารกว่า 9% ในปีนี้ แม้ว่ารัฐบาลจะทำการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ตลาดการเงินอย่างต่อเนื่องก็ตาม ซึ่งหากเกิดภาวะล้มละลายดังกล่าวก็อาจนำไปสู่การสูญเสียเม็ดเงินทุนและการเติบโตของจีดีพีสหรัฐฯ

สำหรับแรงกดดันเงินฝืดจะมีเพิ่มขึ้น รวมทั้งความอ่อนแอของเศรษฐกิจ ซึ่งทั้งหมดนี้น่าจะเป็นปัจจัยที่สนับสนุนราคาทองคำได้เป็นอย่างดีในปีนี้ พร้อมคาดว่าเฟดน่าจะต้องคงดอกเบี้ยออกไปจนกว่าจะถึงไตรมาสที่ 3 ของปี 2021

แต่ทองคำก็ยังมีโอกาสปรับตัวลง ท่ามกลางแนวโน้มอุปสงค์ทองคำของภาคธนาคารกลางต่างๆที่เริ่มผสมผสานกัน และมีสัญญาณอ่อนตัวลงในปีนี้ โดยบางประเทศกลับมาให้ความสำคัญในการรักษาภาคธุรกิจไว้ ซึ่งทองคำก็น่าจะผ่านพ้นช่วงนี้ไปได้และจะมีอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นได้ในปีหน้า เนื่องจากธนาคารกลางต่างๆจะพยายามที่จะสร้างความหลากหลายในพอร์ตการลงทุนทั้งดอลลาร์และทองคำ จึงมีโอกาสเห็นราคาน้ำมันรีบาวน์ได้ด้วย รวมทั้งแนวโน้าที่ธนาคารกลางรัสเซียจะกลับเข้าซื้อทองคำเพิ่ม

· ผู้อำนวยการจาก Wisdon Tree กล่าวว่า ราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้นอีกไม่น้อยกว่า 20% ท่ามกลางการเพิ่มนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและการเงิน จึงมีโอกาสเห็นทองคำบริเวณ 2,000 เหรียญได้ ขณะที่ธนาคารกลางก็ยังมีแนวโน้มจะเพิ่มงบดุลบัญชี และการสร้างแรงกดดันเงินเฟ้อ ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นบวกต่อราคาทองคำ