• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 17 เมษายน 2563

    17 เมษายน 2563 | SET News
 

· ตลาดหุ้นเอเชียปรับสูงขึ้นตามรายงานข่าวเกี่ยวกับการที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯกำลังพิจารณากลับมาเปิดเศรษฐกิจสหรัฐฯ แม้จะแรงกดดันมาจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่รายงานออกมาอ่อนแอกว่าที่คาดเนื่องจากผลกระทบของไวรัสในวันนี้ก็ตาม

โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับขึ้น 2.6% หลังทำระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ ขณะที่หุ้นในประเทศจีนปรับสูงขึ้น 1.8% แม้ข้อมูล GDP จะออกมาอ่อนแอก็ตาม โดยตลาดยังคาดหวังว่าจีนจะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมอีก ส่วนหุ้นออสเตรเลียปรับขึ้น 2.62%

ด้านดัชนีฟิวเจอร์ S&P 500 ปรับสูงขึ้น 3.38% ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์

· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดบวกทำระดับสูงสุดในรอบเกือบ 6 สัปดาห์ ตามการฟื้นตัวของดัชนีฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐฯที่ได้รับแรงหนุนจากรายงานเกี่ยวกับการค้นพบยารักษา COVID-19 และการที่สหรัฐฯกำลังพิจารณากลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง

โดยดัชนี Nikkei ปิด +3.2% ที่ระดับ 19,897.26 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของวันที่ 9 มี.ค. ท่ามกลางนักลงทุนที่พากันทำการ Short-covering ส่วนภาพรวมรายสัปดาห์ ดัชนีปิด +2.0%

· ตลาดหุ้นจีนปิดแดนบวก แม้จะเผชิญแรงกดดันจากการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่ประกาศออกมาอ่อนแอในช่วงเช้าวันนี้ แต่ได้รับแรงหนุนในเชิงบวกจากสัญญาณการชะลอตัวของการระบาดของไวรัสโคโรนา

โดยดัชนี Shanghai Composite ปิด +0.66% ที่ระดับ 2,838.49 จุด ส่วนดัชนี Blue-chip CSI300 ปิด +0.98% นำโดยหุ้นกลุ่มการเงินที่ปรับขึ้นได้ 1% กลุ่มอุปโภคบริโภค +1.67% กลุ่มอสังหาฯ +0.57% ขณะที่กลุ่มสุขภาพ -0.72%


· ตลาดหุ้นยุโรปเปิดบวก นำโดยภาคการเงินที่ตอบรับกับรายงานเกี่ยวกับแนวโน้มที่สหรัฐฯจะกลับเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง รวมถึงจากรายงานความสำเร็จในการค้นพบยารักษา COVID-19

โดยดัชนี STOXX 600 เปิด +2.5% ขณะที่การประกาศข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่ออกมาอ่อนแอเมื่อเช้านี้ ดูจะไม่สั่นคลอนตลาดเท่าไหร่นัก

อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศ มาตรการล็อกดาวน์ของต่างประเทศ รวมถึงมาตรการปิดสถานที่ชั่วคราวของรัฐบาลไทย ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนไทยในเดือน มี.ค.63 โดยดัชนีภาวะเศรษฐกิจและการครองชีพของครัวเรือนไทย (KR-ECI) ที่อาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และพื้นที่ต่างจังหวัด ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ต่ำสุดในรอบ 74 เดือน จากระดับ 37.3 ในเดือน ก.พ. 63 มาอยู่ที่ระดับ 33.1 ในเดือน มี.ค.63

สาเหตุจากความกังวลของครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นมากต่อประเด็นเรื่องรายได้และการจ้างงาน เงินออม และค่าใช้จ่าย (ไม่รวมภาระหนี้สิน) ซึ่งมีส่วนสำคัญมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

- นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมา ประเทศต่างๆ มีมาตรการจำกัดการเดินทางเข้า-ออกประเทศ จากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถจัดการประชุมความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ตามรูปแบบปกติได้ สมาชิก RCEP จึงได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็นการประชุมผ่านระบบทางไกลแทน โดยได้นำระบบนี้มาใช้เป็นครั้งแรกในการประชุมคณะกรรมการเจรจาจัดทำความตกลง RCEP (RCEP-TNC) เมื่อวันที่ 7 เม.ย.63 ซึ่งประสบความสำเร็จด้วยดี

การประชุมดังกล่าว มีการหารือเกี่ยวกับแผนการทำงานในปี 63 โดยมีมติเห็นชอบร่วมกันว่าจะปรับเปลี่ยนรูปแบบการประชุมต่างๆ ของ RCEP ในช่วงนี้ถึงช่วงกลางปี 63 เช่นก ารประชุมคณะทำงานขัดเกลาถ้อยคำทางกฎหมาย และการประชุมคณะกรรมการเจรจาจัดทำความตกลง RCEP (RCEP-TNC) เป็นต้น มาเป็นการประชุมผ่านระบบทางไกล

- นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตามที่ธนาคารออมสินได้เปิดลงทะเบียน"โครงการสินเชื่อฉุกเฉินและโครงการสินเชื่อพิเศษ" ให้ผู้มีอาชีพอิสระ วงเงินกู้สูงสุด 10,000 บาท และผู้มีรายได้ประจำ วงเงินกู้สูงสุด 50,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 โดยเริ่มลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ธนาคารออมสิน www.gsb.or.th ตั้งแต่วันที่ 15 เม.ย.นั้น

ข้อมูลล่าสุดจนถึงวันที่ 16 เม.ย. พบว่ามีประชาชนสนใจเข้ามาลงทะเบียนแล้วรวม 520,847 ราย คิดเป็นวงเงินสินเชื่อ 13,286,870,000 บาท โดยแบ่งเป็น ขอกู้วงเงิน 10,000 บาท มีจำนวน 318,887 ราย คิดเป็นวงเงินสินเชื่อ 3,188,870,000 บาท ส่วนการขอกู้วงเงิน 50,000 บาท มีจำนวน 201,960 ราย คิดเป็นวงเงินสินเชื่อ 10,098,000,000 บาท โดยดาดว่าวันนี้จะมีผู้ทยอยลงทะเบียนยื่นกู้อีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งยอดรวมวันนี้มีโอกาสจะทะลุเกิน 1 ล้านรายแน่นอน  

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com