· ราคาทองคำปรับตัวลดลงประมาณ 2% หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯมีการเผยถึงแนวทางกลับมาเปิดทำการของเศษฐกิจสหรัฐฯ ประกอบกับตลาดมีความหวังเชิงบวกของไวรัสโคโรนาที่มีความเป็นไปได้ของประสิทธิภาพในการรักษา จึงทำให้นักลงทุนเลือกกลับถือครองสินทรัพย์เสี่ยง
· ราคาทองคำตลาดโลกปิดปรับลง -1.9% ที่ระดับ 1,685.84 เหรียญ หรือปรับตัวลดลงกว่า 60 เหรียญ จากระดับสูงสุดรอบ 7 ปีครึ่งที่ทำไว้ในช่วงต้นสัปดาห์ที่แล้ว จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบ 10 ปี
· หัวหน้านักวิเคราะห์จาก BMO กล่าวว่า ราคาทองคำปรับตัวลง ท่ามกลางตลาดหุ้นที่ฟื้นตัว จากประเด็นหลักคือการจะกลับมาเปิดทำการทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และหากตลาดหุ้นยังฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องก็อาจทำให้เกิดแรงเทขายเพื่อปิดสถานะทำกำไรในตลาดทองคำเพิ่มได้อีก
นอกจากนี้ ตลาดยังรับข่าวจากรายงานที่ว่าบริษัทผลิตยารายใหญ่ของสหรัฐฯอย่าง Gilead Sciences ที่พบว่ายา Remdesivir (เรมเดอร์ซีเวอร์) สามารถใช้รักษาผู้ป่วยได้
· นักวิเคราะห์อาวุโสจาก OANDA กล่าวว่า ความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงที่เพิ่มขึ้น แต่ก็อาจจะยังไม่เพียงพอต่อภาพการสูญเสียที่ปรับตัวลดลงไปก่อนหน้า จากทิศทางเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากกลุ่มผู้บริโภคที่ไม่สดใส ขณะที่ราคาทองคำยังคงได้รับแรงหนุนจากการใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและทางการเงิน เพราะถึงแม้ทองคำจะมีแรงเทขายก็ยังยืนได้เหนือระดับสำคัญ 1,650 เหรียญ
· สัญญาทองคำส่งมอบเดือนมิ.ย. ปิด -1.9% ที่ 1,698.8 เหรียญ โดยราคายังคงมีแรงหนุนจากสัญญาณความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นว่าจะเห็นการฟื้นตัวในกลุ่มห่วงโซ่อุปทานและลอจิสติกส์ ที่ได้รับผลกระทบจากการขนส่งทองคำไปยังสหรัฐฯที่ไม่อาจส่งมอบได้ทันตามกำหนด
· กองทุน SPDR เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 1021.69 ตัน
· ราคาพลาเดียมปิด +1% ที่ 2,175.54 เหรียญ ขณะที่ซิลเวอร์ปิด -3.1% ที่ 15.14 เหรียญ/บาร์เรล และราคาแพลทินัมปิด -1.5% ที่ 771.66 เหรียญ