· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลง ท่ามกลางกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับรายงานผลประกอบการภาคบริษัทและข้อมูลทางเศรษฐกิจที่อาจจะขับเคลื่อนมุมมองเศรษฐกิจโลกที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ขณะที่ภาวะอุปทานล้นตลาดส่งผลให้น้ำมันดิบปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 20 ปี
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นลดลง 0.23% หลังจากปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกัน 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน ท่ามกลางการระมัดระวีงการลงทุนของเหล่านักลงทุนก่อนหน้าการประกาศผลประกอบการภาคบริษัทที่อาจจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
โดยดัชนี Nikkei ลดลง 1.15% ที่ระดับ 19,669.12 จุด นำโดยหุ้นกลุ่มผู้บริโภคและภาคการดูแลสุขภาพ
ด้านบริษัทต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการใช้จ่ายของผู้บริโภคได้รับผลกระทบอย่างมาก เนื่องจากเจ้าหน้าที่ของญี่ปุ่นสนับสนุนให้คนจำนวนมากอยู่บ้านเพื่อจำกัดการแพร่กระจายของไวรัสดังกล่าว
ขณะที่ในช่วงต้นตลาด กลุ่มสุขภาพได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่าหลายๆบริษัทพยายามแข่งขันกันเพื่อให้ได้ยารักษาไวรัส ก่อนที่หุ้นจะปรับตัวลงเนื่องจากตลาดยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ไวรัสโดยรวม
· ตลาดหุ้นจีนปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงเป็นครั้งที่สองของปีนี้ตามคาด โดยปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะ 1 ปี ลง 0.20% จากระดับ 4.05% สู่ระดับ 3.85% เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนา
โดยดัชนี Shanghai Composite เพิ่มขึ้น 0.5% ที่ระดับ 2,852.55 จุด
· ตลาดหุ้นยุโรปเปิดปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย โดยตลาดยังคงให้ความสนใจไปยังการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาอยู่ พร้อมกับการลดลงของราคาน้ำมัน
การเคลื่อนไหวที่สูงขึ้นในตลาดหุ้นยุโรปเกิดขึ้นหลังจากตลาดเอเชียเคลื่อนไหวผสมกันในการซื้อขายวันนี้ เนื่องจากจีนลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และสัญญาน้ำมันดิบของสหรัฐในเดือนพ.ค.ลดลงมากกว่า 19% เป็น 14.77 เหรียญ/บาร์เรล
ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้นประมาณ 0.4% ท่ามกลางตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในแดนบวก
อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 3/2563 มีมติให้เลื่อนการประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2563 จากเดิมวันที่ 24 เม.ย.ออกไปอย่างไม่มีกำหนด ซึ่งเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 พร้อมยกเลิกวาระการประชุมเดิมทั้งหมด อย่างไรก็ตามคณะกรรมการอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท จากกำไรสุทธิและผลการดำเนินงานปี 2562 โดยการจ่ายเงินปันผลดังกล่าวจะจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นที่มีรายชื่อปรากฎ ณ วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 12 มี.ค.63 ซึ่งกำหนดไว้เป็นวันเดิมตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2563 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 15 พ.ค.63
- ตลาดหุ้นไทยต้นภาคเช้าพุ่งกว่า 10 จุด ทิศทางเดียวกับต่างประเทศ หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกเริ่มเป็ฯสัญญาณที่ดีขึ้น ขณะที่มีความคาดหวังว่าทางการจะผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ลง
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นกว่า 10 จุด ดูดีกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้แกว่งไซด์เวย์ จากความคาดหวังการเปิดเศรษฐกิจ และเปิดเมือง รวมถึงการออกพ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 ทำให้เป็นบวกต่อตลาดให้ปรับขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง
- ทีดีอาร์ไอเสนอแนวทางผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ชูใช้แผนผสมผสาน ย้ำสถานที่แออัด ผับ บาร์ โรงหนัง คอนเสิร์ต
ยังไม่ควรเปิด ด้านเซ็นทรัลร่อนหนังสือถึงผู้เช่าเตรียมเรียกพนักงานขายกลับมาทำงาน ภาคเอกชนส่งแผนรีสตาร์ทธุรกิจเสนอ ศบค.
- โควิดกระเทือนท่องเที่ยวไทย ดับฝันพยุงเศรษฐกิจไทย "สทท." คาดปี 63 ทำรายได้ 5% ของจีดีพีก็เก่งแล้ว "ททท." ตั้งทีมนิวนอร์มอลรับมือพฤติกรรมท่องเที่ยวเปลี่ยน ด้าน "เซ็นเทล" ชี้แรงกว่าดิจิทัลดิสรัปชั่น ธุรกิจแชริ่ง "แอร์บีแอนด์บี" โดนหางเลข
- กสทช.-โอเปอเรเตอร์ จ่อสรุปมาตรการช่วยเหลือ ปชช. คาดจบที่ให้โทร.ฟรีบนในเครือข่าย 100 นาที โทร.ฟรีนอก
เครือข่าย 50 นาที มีผล 1 พ.ค.นี้ ครอบคลุมกว่า 50 ล้านเลขหมาย
- รมว.พลังงาน รับทราบข้อร้องเรียนค่าไฟแพงช่วงโควิด-19 คาดทำงานอยู่บ้านปัจจัยทำค่าไฟพุ่งช่วง "หยุดเชื้อ เพื่อชาติ" นัดถก "กฟน.-กฟภ." 20 เม.ย.นี้ หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางที่จะช่วยแบ่งเบาภาระของประชาชนในเรื่องนี้ได้
อย่างไรในระยะ 2 เดือนข้างหน้า เพื่อเสนอนายกฯ พิจารณา
- นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 27 คน ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยสะสมรวมทั้งสิ้น 2,792 คน จำนวนผู้ที่หายปวยแล้วรวมทั้งสิ้น 1,999 คน ยังรักษาตัวอยู่ใน รพ. 746 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม
อ้างอิงจากสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
จับตา CPN เช้านี้ หลังมีปัจจัยบวกหนุน ลุ้นเตรียมเปิดห้างตามปกติในวันที่ 1 พ.ค.นี้ นักวิเคราะห์ประเมินหากเปิดได้จริง จะทำให้กำไรทั้งปีลดลง 40% แต่ถ้ายืดเยื้อไปอีกกำไรมีโอกาสทรุดเกินครึ่ง ชี้แม้ปิดห้างทำสูญกระแสดเงินสด 2 พันลบ. แต่ฐานะการเงินแข็งแกร่ง ไร้ปัญหาสภาพคล่อง จึงแนะนำซื้อลงทุนระยะยาว
ราคาหุ้น บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา หรือ CPN เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 10% มาปิดที่ 49.50 บาท ด้วยปริมาณการซื้อขายที่หนาแน่นผิดปกติ +143.45% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วง 5 วันทำการก่อนหน้า
จากกรณีที่ บริษัท สรรพสินค้า เซ็นทรัล จำกัด ส่งจดหมายถึงคู่ค้าและพันธมิตรทางการค้าในหนังสือระบุว่า บริษัทขอแจ้งการเตรียมการเปิดให้บริการห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ตามที่คาดว่าจะเปิดบริการในวันที่ 1 พฤษภาคม 2563 เวลาเปิด–ปิด สาขาตามปกติของแต่ละสาขานั้น
ล่าสุด บริษัท สรรพสินค้า เซ็นทรัล ได้มีจดหมายชี้แจงเพิ่มเติมว่า กรณีข้างต้นที่มีการส่งจดหมายถึงคู่ค้าและพันธมิตรทางการค้านั้น สืบเนื่องจากการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ให้มีการปิดห้าสรรพสินค้าชั่วคราวจนถึง 30 เมษายน 2563 บริษัทจึงได้ออกจดหมาย เพื่อเป็นการแจ้งล่วงหน้า และเตรียมความพร้อม ในกรณีที่รัฐบาลอนุมัติให้ห้างฯ เปิดทำการได้ในวันที่ 1 พฤษภาคม 2563 ทั้งนี้ กำหนดการวัดเปิดของห้างฯ ขึ้นอยู่กับการประกาศอย่างเป็นทางการของรัฐบาลเท่านั้น