· ราคาทองคำปรับตัวลดลงเกือบ 2% ทำต่ำสุดใหม่ในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ ขณะที่พลาเดียมปรับตัวลงไป 15.5% ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่ทำการเทขายสินทรัพย์ในกลุ่มโลหะมีค่าเพื่อนำเงินสดไปปิดการขาดทุนในสินทรัพย์อื่นๆ โดยเฉพาะตลาดน้ำมันที่ทรุดตัวลงอย่างหนักจากการระบาดของไวรัสโคโรนาที่เข้ากระทบเศรษฐกิจ
· ราคาทองคำตลาดโลกปิด -1.3% ที่ 1,671.68 เหรียญ และไปทำต่ำสุดตั้งแต่ 9 เม.ย. บริเวณ 1,659.68 เหรียญ ในส่วนของสัญญาทองคำส่งมอบเดือนมิ.ย. ปิด -1.4% ที่ 1,687.8 เหรียญ
· ราคาพลาเดียมปิด -9.5% ที่ 1,958 เหรียญ และระหว่างวันร่วงลงทำ Low ที่ 1,827.92 เหรียญ ด้านแพลทินัมปิด -3.3% ที่ 745.29 เหรียญ ขณะที่ซิลเวอร์ปิด -4.3% ที่ 14.71 เหรียญ
· นักกลยุทธ์การตลาดอาวุโสจาก RJO Futures กล่าวว่า ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงแรงทำให้นักลงทุนหลายคนต้องการหนีออกจากสถานะที่ถือครอง จึงทำให้พวกเขาปิดทำกำไรในสินทรัพย์ที่ทำได้ และหลายๆคนปรับมาใช้กลยุทธ์ Wait-and-See ที่ดูจะรอดูว่าการร่าวงลงของกลุ่มพลังงานจะเข้าสู่โลหะมีค่าอย่างไร
· น้ำมันดิบ Brent เมื่อวานนี้ปรับลงกว่า 25% ทำต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ทศวรรษ หลังจากที่น้ำมันดิบ WTI ปรับลงระดับ -40 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเป็นการติดลบครั้งแรกในประวัติศาสตร์ จากความกังวลว่าการระบาดของไวรัสโคโรนาจะทำให้อุปสงค์น้ำมันย่ำแย่อย่างมาก
· นักวิเคราะห์จาก FXTM ระบุว่า การร่วงลงครั้งประวัติศาสตร์ของน้ำมันทำให้ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจถดถอยมีมากขึ้นและอาจนำมาซึ่งความต้องการเงินสด และการขายทองคำ จึงอาจทำให้ดอลลาร์แข็งค่าได้ ขณะที่ทิศทางเศรษฐกิจโลกและน้ำมันที่ดูจะส่งให้เกิดความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ทองคำก็อาจไม่ใช่ทางเลือกแรกสำหรับนักลงทุน
· ภาพรวมนักวิเคราะห์บางราย ยังเชื่อว่า ทองคำจะยังฟื้นตัวได้ดีจากปัจจัยการผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางและภาครัฐนานาประเทศ และกระแสเงินที่ไหลเข้าสู่กองทุนทองคำหรือ ETFs นั่นเอง
· กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ทำการเข้าซื้อทองคำเพิ่มอีก 3.8 ตัน โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 1033.39 ตัน ถือเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ 20 พ.ค. ปี 2013 ส่งผลให้ภาพรวมเดือนเม.ย. มีการซื้อแล้ว 66.39 ตัน ซึ่งเป็นการเข้าซื้อต่อเนื่องเดือนที่ 4 ขณะที่ภาพรวมตั้งแต่ม.ค.ถึงปัจจุบันมีการเข้าซื้อไปแล้วทั้งสิ้น 140.14 ตัน
· Bank of America คาดทองคำอาจพุ่งแตะ 3,000 เหรียญ หรือ +50% สูงกว่าระดับสูงสุดประวัติการณ์
Bank of America ทำการปรับเพิ่มราคาเป้าหมายของทองคำในรอบ 18 เดือน สู่ 3,000 เหรียญ หรือปรับขึ้นได้สูงกว่า 50% จากคาดการณ์เดิมที่มองว่ทองคำจะทำสูงสุดที่ระดับเป้าหมาย 2,000 เหรียญ อันเนื่องจากการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินทั่วโลก เพื่อช่วยหนุนเศรษฐกิจอันเนื่องจากการระบาดของไวรัสโคโรนา
ทั้งนี้ ผลผลิตทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มจะหดตัว ขณะที่งบทางการเงินดูจะเพิ่มสูงขึ้น และการเพิ่ม Balance Sheet ของธนาคารกลางที่เพิ่มเป็นเท่าตัว จึงอาจทำให้ค่าเงินดอลลาร์ถูกกดดัน แต่เป็นประโยชน์ต่อราคาทองคำ
สำหรับราคาเฉลี่ยเป้าหมายปีนี้ BofA คาดจะอยู่ที่ 1,695 เหรียญ และปีหน้าจะมีราคาเฉลี่ยที่ 2,063 เหรียญ ซึ่งสูงกว่าระดับสูงสุดที่ 1,921.17 เหรียญ ที่เคยทำไว้ในเดือนก.ย. ปี 2011
แต่สิ่งที่มั่นใจได้ในเวลานี้ คือการแข็งค่าของดอลลาร์ และความผันผวนในตลาดการเงินที่ลดลง ควบคู่กับอุปสงค์ทองคำในรูปจิวเวลรีในอินเดียและจีนก็ถือเป็นอุปสรรคและทำให้ราคาทองคำค่อนข้างผันผวน
· รองประธานของ ICRA ในอินเดีย ระบุว่า การระบาดของไวรัสโคโณนา จะส่งผลกระทบต่อการซื้อขายทองคำในอินเดียในช่วงเทศกาล Akshaya Tritiya ซึ่งเป็นช่วงที่ชาวอินเดียนิยมซื้อทองคำเพื่อเป็นศิริมงคลในพิธีกรรมต่างๆ ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 26 เม.ย. นี้
· รายงานการส่งออกทองคำจากสวิสเซอร์แลนด์สู่สหรัฐฯเพิ่มมากขึ้นในเดือนมี.ค. อีก 43.2 ตัน ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ปี 2012 ท่ามกลางชาวอเมริกาที่เร่งเข้าซื้อทองคำจากความตื่นตระหนก (Panic) ในเรื่องไวรัสโคโรนา
ขณะที่ยอดนำเข้าส่งออกของอินเดียและอังกฤษปรับตัวลดลงจากการไม่มีการขนส่งจากจีน