· เมื่อคืนนี้ราคาทองคำปรับตัวลดลงกว่า 1% จากการแข็งค่าของดอลลาร์และกระแสคาดการณ์ที่ว่าอุปทานทองคำจะเพิ่มสูงขึ้นจากกลุ่มผู้ผลิตทองคำที่จะกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง ประกอบกับความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงของกลุ่มนักลงทุนค่อยๆทยอยเพิ่มขึ้น และหลายๆประเทศเริ่มมีการผ่อนปรนข้อบังคับต่างๆ
· ราคาทองคำตลาดโลกปิด -1.1% ที่ระดับ 1,686.5 เหรียญ ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนมิ.ย. ปิด -1.3% ที่ 1,688.5 เหรียญ โดยราคา Futures ห่างกับ Spot ค่อนข้างแคบประมาณ 2 เหรียญ จากข่าวที่ผู้ผลิตทองคำรายใหญ่ที่สุดในโลกเกือบทั้งหมดจะกลับมาเปิดทำการ หลังจากที่ปิดเป็นการชั่วคราวตลอดช่วง 6 สัปดาห์ ขณะที่ราคาทองคำปีนี้ปรับขึ้นแล้วประมาณ 11% ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจทีชะลอตัวอันเนื่องจากการระบาดของไวรัส
· ในวันอังคารกองทุน SPDR เข้าซื้อทองคำเพิ่ม 4.68 ตัน ก่อนที่เมื่อวานนี้จะขายออกอีก 0.59 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 1,075.8 ตัน ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ 1 พ.ค. ปี 2013 ขณะที่ภาพรวมตั้งแต่ 1 – 6 พ.ค. มีการเข้าซื้อเดือนนี้สุทธิ 19.30 ตัน ถือเป็นการเข้าซื้อของกองทุนต่อเนื่อง 5 เดือน และทำให้ภาพรวมปีนี้ตั้งแต่ 1 ม.ค. – ปัจจุบัน เข้าซื้อสุทธิแล้ว 182.55 ตัน
· ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลางความคาดหวังว่ากิจกรรมภาคธุรกิจในสหรัฐฯจะได้รับการผ่อนปรนลงจากข้อจำกัดต่างๆ ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนที่หดตัวลงกว่า 20 ล้านตำแหน่งในเดือนที่แล้ว
· อีกหนึ่งอุปสรรคของทองคำคือการเห็นดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นราว 0.3% ไปทำแข็งค่ามากที่สุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์
· กลุ่มนักลงทุนจับตาความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและจีนอันเนื่องจากการระบาดของไวรัสโคโรนา
· ราคาซิลเวอร์ปิด -0.7% ที่ 14.91 เหรียญ ขณะที่แพลทินัมปิด -1.8% ที่ 751.05 เหรียญ ขณะที่ราคาพลาเดียมปิด -0.3% ที่ 1,795 เหรียญ หลังจากที่วันอังคารร่วงลงทำต่ำสุดในรอบกว่า 1 เดือน
· นักวิเคราะห์จาก Citigroup คาด ราคาแพลทินัมอาจร่วงลงอีก 15-20% ในระยะสั้นๆ อันเนื่องจากภาวะเกินดุลเพิ่มสูงขึ้น