โดยราคาทองคำปรับขึ้น 0.3% แถว 1,706.43 เหรียญ หลังจากปรับลดลงเกือบ 1% ในช่วงตลาดก่อนหน้า ขณะที่ราคาสัญญาทองคำปรับลดลง 0.4% แถว 1,707.80 เหรียญ
· นักวิเคราะห์จาก IG Markets ระบุว่านักลงทุนมีการเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงในวันนี้ เนื่องจากถึงแม้สถานการณ์ไวรัสจะเริ่มดูดีขึ้น แต่เศรษฐกิจก็ยังคงอยู่ในภาวะอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ ประกอบกับนโยบายผ่อนคลายทางการเงินแบบพิเศษในหลายๆประเทศ ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเงินเฟ้อในอนาคตสูง
ดังนั้นจึงมองว่าราคาทองคำระยะยาวยังคงเป็นทิศทางขาขึ้น ขณะที่นักลงทุนกำลังพยายามเข้าซื้อทองคำให้ได้ในช่วงที่ราคากำลังเคลื่อนไหวแถวๆ 1,700 เหรียญ ก่อนที่ราคาจะปรับสูงขึ้นไปกว่านี้
อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำขึ้นได้อย่างจำกัดในวันนี้ เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าและตลาดหุ้นเอเชียที่ปรับสูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนมีความหวังที่ดีขึ้นเกี่ยวกับการกลับมาเปิดเศรษฐกิจในหลายๆประเทศ แม้จะมีบางประเทศที่รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อออกมาสูงขึ้นในวันนี้
· นักวิเคราะห์จาก Kedia Commodities มองว่าทิศทางขาขึ้นของราคาทองคำต้องการปัจจัยพื้นฐานใหม่ๆ อย่างเช่น สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ไม่เช่นนั้นราคามีความเสี่ยงจะย่อตัวลงมาแถว 1,680 เหรียญ
แต่การปรับลดลงก็น่าจะเป็นไปอย่างจำกัดหรือลดลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดยังมีความกังวลเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสรอบที่สองในบางประเทศ รวมถึงการที่หลายๆประเทศยังใช้นโยบายทางการเงินที่ผ่อนคลายชและอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำเป็นพิเศษ
· รัฐบาลจีนเมื่อวานนี้มีการรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่มีความเสี่ยงจะกลายเป็นการระบาดระลอกสอง ขณะที่เกาหลีใต้ก็ได้ประกาศเตือนเกี่ยวกับรอบสองในวันนี้เช่นเดียวกัน
· ขณะที่สมาชิกเฟดได้กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าอย่าคาดหวังว่าเศรษฐกิสหรัฐฯจะสามารถฟื้นฟูกลับมาได้อย่างรวดเร็ว
· ตามข้อมูลจาก CFTC บรรดานักเก็งกำไรได้ลดการถือครองสถานะ Long ในทองคำ COMEX เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
· ด้านราคาพลาเดียมปรับสูงขึ้น 2.2% แถว 1,924.57 เหรียญ ราคาแพลทินัมปรับขึ้น 0.3% แถว 767.37 เหรียญ และราคาซิลเวอร์ปรับขึ้น 0.2% แถว 15.48 เหรียญ
· นักวิเคราะห์จาก DailyForex กล่าวว่า ตลาดทองคำพยายามจะฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่ช่วงการซื้อขายในคืนวันศุกร์ แต่ราคาก็ยังคงถูกย่อกลับให้มาเคลื่อนไหวในกรอบสามเหลี่ยม และจะเห็นได้ถึงราคราที่แกว่งตัวแนว 1,700 เหรียญ โดยระดับสำคัญของทองคำจะอยู่ที่ 1,695 เหรียญ ที่เป็นแนวเส้นค่าเฉลี่ย EMA ราย 50 วัน ซึ่งหากยังยืนได้เหนือแนวรับก็ดูจะยังเป็นขาขึ้นได้ต่อ และถึงแม้ตลาดหุ้นจะมีแรงขายแต่ก็เชื่อว่าราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นได้ต่อ
ทั้งนี้ หากราคาทองคำยืนได้เหนือระดับสูงสุดที่ทำไว้ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเห็นราคาทองคำปรับตัวขึ้นไปแถว 1,750 เหรียญ และอาจเห็นไปถึง 1,800 เหรียญ ในทางกลับกันหากราคาหลุด 1,700 เหรียญ ก็มีโอกาสเห็นราคาชะลอตัว
หนึ่งในเหตุผลที่ยังเป็นปัจจัยสนับสนุนทองคำได้แก่ การเข้าซื้อของธนาคารกลางทั่วโลกที่ยังคงสนับสนุนให้สภาพคล่องในตลาดอยู่ในระดับสูง และบรรดาเทรดเดอร์ดูจะหันาเข้าซื้อทองคำมากขึ้น จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สนับสนุนทองคำ และทิศทางของทองคำในกรอบสามเหลี่ยมนี้ดูจะเคลื่อนไหวเป็นขาขึ้น แต่คุณต้องรอให้เกิดข่าวร้ายควบคู่มาด้วยเพื่อให้นักลงทุนมีการเข้าถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย เพราะนั่นจะยิ่งทำให้ตลาดปรับตัวสูงขึ้น
อย่างไรก็ดี ในเวลานี้ ยังไม่มีเหตุผลที่จะทำการเทขายทองคำจนกว่าราคาจะต่ำกว่า 1,600 เหรียญ หรืออีกกว่า 100 เหรียญนั่นเอง ดังนั้น ทองคำอาจมีแรงเทขายเข้ามาให้อ่อนตัวบ้าง แต่ภาพรวมในตลาดก็น่าจะยังเป็นทิศทางขาขึ้นอยู่ในระยะยาว ดังนั้น นักลงทุนจึงควรเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว โดยภาพหลักมองทองคำเป็นขาขึ้นมากกว่า
· ผลสำรวจ Kitco เผยนักลงทุนและนักวิเคราะห์เกินครึ่งคาดราคาทองคำจะปรับสูงขึ้น
บรรดานักลงทุนส่วนใหญ่กว่า 55% และผู้เชี่ยวชาญตลาดทองคำกว่า 67% มองว่าสัปดาห์นี้ทองคำจะปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรร่วงลงถึง 20.5ล้าน ขณะที่อัตราการว่างงานสูงถึง 14.7% ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงปี 1930 ตลาดแรงงานก็อ่อนแอลง โดยสามารถเห็นได้จากจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันความเสี่ยงจาก Walsh Trading แสดงความเห็นว่า ไม่มีความแน่นอนเลยว่าตัวเลขการจ้างงานจะสูงขึ้น ดังนั้น ราคาทองอาจสูงขึ้นอย่างน้อย 1,750 เหรียญ และอาจเป็นราคาที่สูงที่สุดในปีนี้เลยก็ได้ โดยคาดว่าสัญญาทองคำส่งมอบเดือนมิ.ย.ในช่วงกลางเดือนพ.ค. อาจสูงถึง 1,788.80 เหรียญ
บรรณาธิการจากสำนักข่าว Eureka Miner ก็คาดว่าราคาทองคำจะขึ้นเช่นกัน โดยแสดงความเห็นว่า แม้ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรจะลดลงที่ 20.5 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นจำนวนที่น้อยกว่าคาดการณ์ที่ 21.5 ล้านตำแหน่ง และความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและจีนจะเริ่มผ่อนคลายลงแล้วก็ตาม แต่ก็เป็นเพียงตัวช่วยเพียงเล็กน้อยท่ามกลางสถานการณ์ที่ย่ำแย่เท่านั้น โดยจะเห็นได้ว่าในวันศุกร์ที่ผ่านมา นักลงทุนก็เลือกสินทรัพย์ปลอดภัยมากกว่าทรัพย์สินเสี่ยงอยู่ดี
· Gold Price Analysis: มีสัญญาณขาขึ้น ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าสหรัฐฯ-จีน
บทวิเคราะห์จาก FX Street ระบุว่า ราคาทองคำในช่วงสายของตลาดเอเชียวันนี้กำลังเลื่อนไหวในแดนบวกประมาณ 0.50% แถว 1,710 เหรียญ โดยได้รับแรงหนุนจากสัญญาณความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน รวมถึงสถานการณ์วิกฤตไวรัสที่ยังไร้ความชัดเจนใด
Technical analysis
ในเชิงเทคนิค หากวันนี้ราคาสามารถยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยราย 21 วันแถว 1,708 เหรียญได้ ราคาจะมีแรงหนุนให้ขึ้นต่อไปแถวระดับ 1,723 เหรียญที่เป็นเส้นแนวต้านรายเดือน ขณะที่ราคาจะมีแนวรับสำคัญที่ 1,677 เหรียญ ซึ่งเป็นเส้นเทรนขาขึ้นตั้งแต่วันที่ 21 เม.ย. และน่าจะช่วยรองรับการปรับลงของราคาได้อย่างแข็งแกร่ง
· ออสเตรเลียอาจแซงหน้าจีนในฐานะผู้ผลิตทองคำได้ภายในปี 2021
รายงานจากสถาบัน Resources Monitor ระบุว่าออสเตรเลียมีแนวโน้มที่จะมีอัตราการผลิตทองคำสูงกว่าประเทศจีนได้ภายในปี 2021 โดยอธิบายว่าออสเตรเลียได้เปรียบจีนในด้านต้นทุนการผลิต รวมทั้งราคาทองคำเมื่อเทียบกับมาร์จิ้นในค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียซึ่งปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้บรรดาบริษัทเหมืองแร่มีแผนเปิดเหมืองใหม่หรือขยายกิจการภายในออสเตรเลียมากขึ้น