· ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลง ด้านพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาแบบ Second Wave ที่กดดันข้อมูลเศรษฐกิจของจีนที่ออกมาแข็งแกร่ง รวมทั้งรายงานผลประกอบการภาคบริษัทที่เพิ่มขึ้นในยุโรป
โดยตลาดหุ้นสามารถฟื้นตัวได้ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากการแพร่กระจายของไวรัสโคโรนาสามารถควบคุมได้ในเอเชียและยุโรป ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯบางส่วนเริ่มเปิดทำการอีกครั้งหลังจากปิดทำการไปจากมาตรการLockdown
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ทั่วโลก ปรับลดลง 1.31%
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับลดลงจากระดับสูงุสดในรอบ 2 สัปดาห์ ตามการร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมา ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาแบบ Second Wave ขณะที่ตลาดถูกกดดันจากแรงเทขายของเหล่านักลงทุน
โดยดัชนี Nikkei ลดลง 0.5% ที่ระดับ 20,267.05 จุด ด้านหุ้นกลุ่มวัฎจักรปรับตัวลดลง และดัชนี Topix ปรับลง 0.1% ที่บริเวณ 1,474.69 จุด
เหล่าเทรดเดอร์ ระบุว่า แรงเทขายทำกำไรบางส่วนไม่สามารถหลีกเลี่ยง เนื่องจากการปรับตัวสูงขึ้นของทั้ง 2 ดัชนี Nikkei และ Topix ในช่วงวันจันทร์ ซึ่งขึ้นไปทำระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา
ขณะที่เหล่านักลงทุนยังคงจับตาดูความตึงเครียดในสหรัฐฯและจีนหลังจากวุฒิสภาพรรครีพับลิกันสหรัฐฯเสนอกฎหมายที่จะอนุญาตให้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำหนดมาตรการคว่ำบาตรจีน หากไม่สามารถให้ข้อมูลที่นำไปสู่การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาได้
· ตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวสูงขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของหุ้นกลุ่มสุขภาพ แม้ว่าจะการปรับตัวสูงขึ้นจะเป็นไปได้อย่างจำกัด จากความกังวลเกี่ยวกับ Second Wave ของการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา
โดยดัชนี Shanghai Composite เพิ่มขึ้น 0.22% ที่ระดับ 2,898.05 จุด
· ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง เนื่องจากเหล่านักลงทุนกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาที่เพิ่มขึ้น หลังจากหลายประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการเริ่มผ่อนคลายมาตรการ Lockdowns ขณะที่ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและจีนก็เป็นปัจจัยที่กดดันความเชื่อมั่นของเหล่านักลงทุน
โดยดัชนี Stoxx600 ลดลง 1.1% ด้านหุ้นกลุ่มยานยนต์ปรับลง 1.8% ท่ามกลางตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในแดนลบ
· ข้อมูลจาก Refinitiv คาดผลประกอบการของบริษัทในยุโรปช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3 ของปีนี้จะยังย่ำแย่มาก ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของภาวะเศรษฐกิจถดถอยจากการระบาดอขงไวรัสโคโรนา โดยกลุ่มบริษัทที่อยู่ในรายชื่อของ Stoxx600 ล่าสุดถูกคาดว่าจะเห็นผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ดิ่งลง 46.7% ลดลงจากคาดการณ์ก่อนหน้าที่ 44.9%
ส่วนไตรมาสที่ 3 นักวิเคราะห์คาดว่าจะเห็นผลประกอบการลดลงแตะ 35.1% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน 32.7%
ทั้งนี้ รัฐบาลหลายๆประเทศในยุโรปมีการประกาศที่จะเริ่มปรับกลยุทธ์ในการค่อยๆผ่อนคลายมาตรการ Lockdown เพื่อควบคุมการระบาดด้วยความหวังเล็กๆที่จะเห็นเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวได้ แต่ก็อยากที่จะกลับมาฟื้นตัวได้ปกติก่อนที่จะสู่ไตรมาสแรกของปีหน้า
ในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีนี้ถูกคาดว่าผลประกอบการในกลุ่ม Stoxx60 ของยุโรปจะร่วงลงไป 16.4% ก่อนจะรีบาวน์กลับได้ 27.9% ในไตรมาสแรกของปีหน้า
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- ธปท.เผยผลสำรวจชี้ แบงก์เข้มงวดปล่อยสินเชื่อ 3 กลุ่ม ทั้งรายใหญ่ บัตรเครดิต และเช่าซื้อ ปรับเพิ่มมาร์จินธุรกิจที่มีความเสี่ยง เพิ่มเงื่อนไขสัญญากู้และหลักประกัน มองแนวโน้มไตรมาส 2 "คุณภาพสินเชื่อ" รายใหญ่และเอสเอ็มอีลดลง จากผลกระทบโควิด-19 "กสิกร" ชี้มาตรการช่วยลูกหนี้ ช่วยชะลอเกิดเอ็นพีแอล
- กระทรวงพาณิชย์เผยไทยส่งออกทองคำไตรมาสแรกโต 220.91% เหตุหลายประเทศทั่วโลกแห่ตุนเก็งกำไรดันราคาพุ่งพรวด ผลพวงโควิด-19 ไม่หยุดระบาด ห่วงเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัว
- รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ในช่วงเดือนเม.ย. ที่ผ่านมาถือเป็นช่วงของการลงทุนที่เหมาะสม ซึ่งเห็นได้จากตัวเลขนักลงทุนรายใหม่ที่เข้ามาเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นมากถึง 50,000 ราย จากปัจจัยด้านต้นทุนการซื้อที่ลดลงไป 30-40% จากต้นปีที่ผ่านมา เนื่องจากตลาดหุ้นไทยได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 อย่างรุนแรงส่งผลให้ดัชนีช่วงเดือน มี.ค.ที่ผ่านมาลดลงไปต่ำสุด 969 จุด และเริ่มฟื้นตัวขึ้นในช่วงเดือน เม.ย.