· Dow Jones E-Mini Futures Daily Chart
นักวิเคราะห์จาก FX Empire ประเมินว่าดัชนีฟิวเจอร์สดาวโจนส์จะมีแนวรับ Fibonacci สำคัญอยู่ที่ระดับ 23,100 จุด และยังเป็นแนวรับสำคัญสำหรับภาพรวมของตลาดหุ้นสหรัฐฯทั้งหมด หากหลุดต่ำกว่าระดับนี้ทิศทางของตลาดจะเปลี่ยนแปลงเป็นขาลงทันที และดัชนีจะเผชิญแรงเทขายโดยมีโอกาสลงทดสอบระดับ 18,000 จุด
· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในวันนี้ ท่ามกลางตลาดที่หันเข้าซื้อพันธบัตรและสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับโอกาสเกิดการระบาดรอบที่สอง และถ้อยแถลงประธานเฟดเมื่อคืนที่กล่าวตอกย้ำถึงความอ่อนแอของเศรษฐกิจ
โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปรับลดลง 1%
นักวิเคราะห์จาก Adansonia Capital มีมุมมองว่าตลาดหุ้นไม่น่าจะปรับลดลงไปทดสอบระดับต่ำสุดเดิมแต่อย่างใด แต่ก็ยอมรับว่า ณ ปัจจุบัน ตลาดมีความกังวลกับโอกาสเกิดการระบาดรอบที่สองของไวรัสโคโรนามากที่สุด
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลง ตามการร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ เนื่องจากถ้อยแถลงของนายเจอโรม โพลล์เวล ประธานเฟด
เกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอ กดดันมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการที่ญี่ปุ่นส่งสัญญาณจะผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ลงในบางพื้นที่ของประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดในช่วงต้นตลาดวันนี้
โดยดัชนี Nikkei ลดลง 1.7% ที่ระดับ 19,914.78 จุด ร่วงลงจากระดับสูงุสดในรอบ 2 เดือนในช่วงต้นสัปดาห์นี้
ดัชนีสำคัญทั้งสามของตลาดหุ้นสหรัฐฯร่วงลง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับ Second Wave จากไวรัสโคโรนา และมุมมองที่ลดลงของประธานเฟดเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
· ตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวลดลง ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่กังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ยืดเยื้อ ขณะที่ตลาดกำลังรอคอยมาตรการกระตุ้นเสณาญกิจเพิ่มเติมที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
โดยดัชนี Shanghai Composite ลดลง 0.96% ที่ระดับ 2,870.34 จุด
· ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่ให้ความสนใจไปยังถ้อยแถลงของนายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟดที่ออกมาเตือนเกี่ยวกับเศรษฐกิจ
โดยตลาดหุ้นยุโรร่วงลงหลังจากที่นายโพเวลล์ กล่าวว่า สมาชิกเฟดอาจใช้เครื่องมือเพิ่มเติมทุกทางเพื่อก้าวออกจากเศรษฐกิจที่ถดถอย จากคนตกงานไม่น้อยกว่า 20 ล้านราย แต่เขาก็ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมมาตรการที่จะใช้
ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx600 ลดลง 0.80% ด้านหุ้นกลุ่มทรัพยากรลดลง 1.3% ท่ามกลางตลาดหุ้นภูมิภาคที่เคลื่อนไหวในแดนลบ
อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะประชุมร่วมกับหน่วยงานสำคัญด้านเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อประเมินภาวะ
เศรษฐกิจ และกำหนดแผนประคองเศรษฐกิจช่วงที่เหลือของปี 63 หลังต้องเผชิญกับผล กระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
- ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยในการสัมมนาออนไลน์ เรื่องกลยุทธ์การท่องเที่ยวของประเทศ
ไทยในสถานการณ์โควิด-19 ว่า การท่องเที่ยวคงต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3-6 เดือนถึงอาจจะกลับมาเริ่มเดินทางได้ ททท.เตรียมแผน
ความพร้อมหลังรัฐบาลผ่อนคลายล็อกดาวน์ประเทศไว้ 3 ระดับ คือ ระดับแรก การเตรียมความพร้อมการซ่อมสร้างการปรับตัวเข้าสู่วิถีชีวิต
ใหม่ พร้อมการสื่อสารการตลาดว่าไทยยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวทั้งคนไทย และต่างประเทศยังคงนึกถึง ระดับที่ 2 หากหลาย
ประเทศมีการปลดล็อกการเดินทางท่องเที่ยวได้ 50-60% จะเน้นนักท่องเที่ยวบางชาติที่มีการควบคุมโรคเป็นอย่างดี สามารถเดินทางได้
โดยมีใบอนุญาตจากแพทย์ ส่วนระดับ 3 หากทุกอย่างเปิดทั้งหมด ก็ต้องเตรียมตัวรับมือกับพฤติกรรมของคนที่เปลี่ยนไปด้วย
- "ธนินท์" เสนอรัฐปลดล็อกดาวน์สกัดเศรษฐกิจพัง ประเมินปิดเมือง 1 เดือนเสียหายแล้วกว่า 5 แสนล้านบาท มั่นใจไม่
ระบาดรอบ 2 ซ้ำรอยเกาหลี-ญี่ปุ่น แนะกู้เงิน 3 ล้านล้าน อุ้มแรงงาน-เกษตรพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ควบคู่ลงทุนระบบสาธรณสุข ดันขึ้นศูนย์การแพทย์โลก
อ้างอิงจากสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
- ผลประกอบการ CPALL หุ้นค้าปลีกชื่อดัง ออกมาแล้ว แม้จะลดลงทั้ง QoQ และ YoY แต่ก็ถือว่าทำได้ตามที่หลายๆฝ่ายคาดไว้ ซึ่งนั่นก็หมายความว่าหากยังเป็นไปตามที่คาดอีกว่า ไตรมาส 2/63 จะย่ำแย่กว่านี้ เพราะเป็นจุดต่ำสุดของปี ดังนั้นทางเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้คืออะไรกันแน่?
*** งบไตรมาสแรกออกมาตามที่ตลาดคาดไว้
ดูเหมือนนักลงทุนจะไม่พอใจกับผลประกอบการของ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL เท่าใดนัก สะท้อนจากราคาหุ้นของวันทำการล่าสุด(13พ.ค.63) ที่ปรับตัวลดลงทันทีหลังจากเปิดตลาดเพียงไม่นาน โดยที่ราคาหุ้นลงไปทำจุดต่ำสุดของวันที่ 71 บาท ก่อนมาปิดตลาดไปที่ 71.75 บาท ลดลง 1.75 บาท หรือ -2.38% ปริมาณหุ้นที่ซื้อขายเพิ่มขึ้น 154.30 % เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 5 วันทำการก่อนหน้า
ไตรมาส 1/63 บริษัททำกำไรสุทธิไปได้ที่ 5,645 ล้านบาท ลดลง -2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน(YoY) และลดลง -9% จากไตรมาสก่อนหน้า(QoQ) เพราะได้รับผลกระทบจากการจับจ่ายใช้สอยที่อ่อนแอลงจากสถานการณ์โควิด-19
- ณัฐธีรา จิราธิวัฒน์ บุญศรี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด ในเครือกลุ่มเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า ในการเตรียมความพร้อมที่จะกลับมาเปิดให้บริการทั้ง 23 สาขาทั่วประเทศอีกครั้ง ทางห้างเซ็นทรัลได้วางคอนเซปต์ ห้างเซ็นทรัล สะอาด ปลอดภัย อุ่นใจ เสมือนอยู่บ้าน โดยมีข้อกำหนดครอบคลุมใน 5 หัวข้อหลัก 26 มาตรการเข้มด้านสุขอนามัย ได้แก่ ปลอดภัยสูงสุด, เคร่งครัด คัดกรอง ,สะอาด ปลอดภัย ไร้กังวล,เว้นห่าง อย่างห่วงใย สุดท้าย ลดเสี่ยงจากสัมผัส