• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 15 พฤษภาคม 2563

    15 พฤษภาคม 2563 | SET News

· ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่ตอบรับกับมุมมองเชิงบวกทางเศรษฐกิจ ประกอบกับถ้อยแถลลงของนายทรัมป์ที่อาจตัดสัมพันธ์ทางการค้ากับจีน จากการระบาดของไวรัสโคโรนา โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับขึ้น 377.37 จุด หรือคิดเป็น +1.62% ที่ 23,625.34 จุด ด้าน S&P500 ปิด +1.15% ที่ 2,852.5 จุด และ Nasdaq ปิด +0.91% ที่ 8,943.72 จุด

ความกังวลเกี่ยวกับ Trade War และข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาแย่ ดูจะบดบังมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการกลับมาเปิดทำการทางเศรษฐกิจและความเป็นไปได้ที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

· เช้านี้ดัชนีฟิวเจอร์สหรัฐฯเปิดบวกตามการปิดแดนบวกของ 3 ดัชนีหลักวานนี้ ท่ามกลางตลาดที่รอคอยข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในคืนนนี้ โดยดาวโจนส์ฟิวเจอร์สเปิด +53 จุด หรือคิดเป็น +0.2% ขณะที่ดัชนี S&P500 ฟิวเจอร์ส เปิด +0.1% และ Nasdsaq 100 ฟิวเจอร์สเปิด +0.3%

· ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลง 2% ท่ามกลางความหวังการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาจะลดลง

คลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลงอย่างหนัก ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่ให้ความสนใจไปยังถ้อยแถลงของนายเจอโรม โพเวลล์ ที่กล่าวเตือนเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ รวมทั้งความหวังว่าจะใกล้สิ้นสุดของวิกฤตการระบาดของไวรัสโคโรนา

โดยดัชนี Stoxx600 ลดลง 2.1% ด้านหุ้นกลุ่มยานยนต์ปรับลดลง 2.9% ท่ามกลางหุ้นกลุ่มภูมิภาคส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในแดนลบ

· ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวก รอข้อมูลการผลิตจีน

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดปรับตัวขึ้นวันนี้ ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯและตลาดรอคอยข้อมูลการผลิตจีนในเช้านี้

ดัชนีนิกเกอิเปิด +1.15% ขณะที่ Topix เปิด +0.8% และ Kospi ของเกาหลีใต้เปิด +0.26%

หุ้น S&P/ASX200 เปิด +1.12%

ภาพรวมดัชนี MSCI ที่ไม่รวมญี่ปุ่นเปิด +0.27%

ข้อมูลภาคการผลิตของจีนในเช้านี้จะเป็นตัวบอกว่าเศรษฐกิจจีนจะกลับมาเปิดทำการได้อย่างรวดเร็วหรือไม่ หลังจากที่เริ่มกลับมาทำการอีกครั้งจากที่มีมาตรการ Lockdown มาตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้

· นักบริหารการเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ระหว่าง 32.00-32.105 บาท/ดอลลาร์ โดยคาดว่าจะเคลื่อนไหวในทิศทางแคบๆ เพราะไม่มีปัจจัยใหม่ ขณะที่มี Flow ในตลาดพันธบัตรต้องรอดูตลาดหุ้น แต่ยังไม่มี ปัจจัยใหม่ที่จะทำให้บาทอ่อนค่าในช่วง

· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมของไทย จะเป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เต็มคณะในวันพรุ่งนี้ คาดว่าจะมีการพิจารณาการผ่อนปรนมาตรการคลายล็อกกิจการ/กิจกรรมต่าง ๆ ในระยะที่ 2

- รมว.คลังไทย กล่าวภายหลังการประชุมการทบทวนภาวะเศรษฐกิจที่มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ(GDP) ของไทยในปีนี้คาดว่าจะติดลบอย่างแน่นอน แต่ขณะนี้คงคาดการณ์ลำบาก เนื่องจากผลกระทบการระบาดของโควิด-19 เป็นเหตุที่เกิดขึ้นแล้ว มีคนตกงานแล้ว ซึ่งขณะนี้รัฐบาลพยายามดูแลด้วยการออกมาตรการต่าง ๆ มาช่วยเหลือและลดผลกระทบให้กับประชาชน

- ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้ามาตรการเยียวยา 5,000 บาทว่า ล่าสุดมีผู้ผ่านเกณฑ์แล้วกว่า 14 ล้านราย แบ่งเป็น กลุ่มผู้ที่ผ่านเกณฑ์การคัดกรองตั้งแต่รอบแรกจำนวน 4.4ล้านราย กลุ่มที่ขอข้อมูลประกอบอาชีพเพิ่มเติมและผ่านเกณฑ์จำนวน 5.3 ล้านราย และกลุ่มที่ขอทบทวนสิทธิและผ่านเกณฑ์จำนวน 4.7ล้านราย

- สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แจ้งผลตรวจสอบความซ้ำซ้อนในการลงทะเบียนเกษตรกร จำนวน 8.33 ล้านคน เพื่อรับเงินเยียวยาเกษตรกร มีผู้ผ่านเกณฑ์ 6.77 ล้านคน โดย ธ.ก.ส.จะเริ่มทยอยโอนเงิน วันละ 1 ล้านราย ตั้งแต่ 15 พ.ค.นี้

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com