MTS Help Center

· ตลาดหุ้นเอเชียปรับสูงขึ้นได้เล็กน้อย และปิดตลาดสัปดาห์นี้ในแดนลบ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ที่ยิ่งกดดันมุมมองเกี่ยวกับโอกาสในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจแม้หลายๆประเทศจะเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ลงบ้างแล้วก็ตาม

โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับขึ้น 0.2% แต่ภาพรวมรายสัปดาห์ปรับลดลงประมาณ 1.0%

· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นรีบาวน์และปิดในแดนบวกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 3 วันทำการ แต่รายสัปดาห์ปิดแดนลบเป็นสัปดาห์แรกในรอบ 3 สัปดาห์ ท่ามกลางความเชื่อมั่นของตลาดที่ถูกกดดันโดบความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่มีท่าทีเลวร้ายลง

โดยดัชนี Nikkei ปิด +0.6% ที่ระดับ 20,037.47 จุด นำโดยการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มวัฏจักรที่ผันผวนตลอดทั้งสัปดาห์ แต่ภาพรวมรายสัปดาห์ปิด -0.7%

· ตลาดหุ้นจีนปิดลบ โดยที่ดัชนีหุ้นบลูชิฟปิดลบด้วยอัตราที่ย่ำแย่ที่สุดในภาพรวมรายสัปดาห์ตั้งแต่เดือน มี.ค. ท่ามกลางตลาดที่ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมถึงแรงกดดันจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่กลับมาประทุอีกครั้ง

โดยดัชนี Shanghai Composite ปิด -0.1% ที่ระดับ 2,868.46 จุด ภาพรวมรายสัปดาห์ปิด -0.9% นับเป็นสัปดาห์แรกของเดือน พ.ค. ที่ปิดแดนลบ ขณะที่ดัชนี Blue-chip CSI300 ปิด -0.3% ภาพรวมรายสัปดาห์ปิด -1.3% นับว่าร่วงมากที่สุดตั้งแต่ช่วงกลางเดือน มี.ค.

· ตลาดหุ้นยุโรปเปิดแดนบวกก่อนหน้าการประกาศตัวเลข GDP ของเศรษฐกิจยุโรป ท่ามกลางตลาดที่ตั้งความหวังว่าจะเห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากวิกฤตไวรัส โดยดัชนี Stoxx 600 เปิด +1.5% นำโดยหุ้นกลุ่มทรัพยากรพื้นฐาน ขณะที่หุ้นกลุ่มอื่นๆต่างเคลื่อนไหวแดนบวกกันเป็นส่วนใหญ่

อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- "สบน." เผยประชาชนสนใจจองซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ รุ่น "เราไม่ทิ้งกัน" ล้นหลาม เปิดขายวันแรกผู้สูงอายุจองซื้อถึง 2.5 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 50% ของวงเงินที่เปิดให้จองซื้อทั้งหมด 5 หมื่นล้านบาท ผลจากอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าเงินฝาก แจงหากความต้องการซื้อยังมีสูง ขอประเมินผลอีกครั้งจะขยายวงเงินเพิ่มหรือไม่

- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังประชุมประเมินทิศทางเศรษฐกิจปี 63 ว่า ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลัง ไปเร่งสรุปแผนการจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือผู้ประกอบการรายเล็กที่ติดปัญหากู้เงินจากธนาคารไม่ได้ ให้มีแหล่งเงินทุนประคองธุรกิจต่อไปได้ รวมถึงให้ไปเร่งจัดทำแผนดูแลภาคอุตสาหกรรมบางกลุ่ม ไม่ให้มีการปลดคนงานออก และดูแลให้จ้างงานต่อไปได้โดยให้เสนอ ครม.ให้ได้สัปดาห์หน้า

- รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ยอมรับว่า ค่ายรถยนต์ในประเทศกำลังปรับตัว เริ่มลดพนักงานให้สอดรับกับการผลิตรถยนต์ และยอดขายที่ลดลงทั้งในประเทศและส่งออกต่างประเทศ ซึ่งจะมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับสถานการณ์โควิด-19 ทั้งไทยและทั่วโลกว่า จะยืดเยื้อมากน้อยเพียงใด โดยปัจจุบันอุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์ รวมถึงตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ หรือดีลเลอร์ มีแรงงานรวมกว่า 755,000 คน

- รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้ทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเร่งกำหนดมาตรฐานรองรับการเริ่มต้นเดินทางท่องเที่ยวอีกครั้ง ตั้งแต่การเดินทาง การเข้าพัก และแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งผู้ประกอบการจะต้องทำตามมาตรฐานใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้ไวรัสกลับมาแพร่ระบาดซ้ำ ส่วนการเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับเข้ามาเที่ยวนั้น ตอนนี้ยังต้องประเมินความเหมาะสมก่อน

อ้างอิงสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

- EGCO ร่วงสองวันติด วานนี้ลดลงเกือบ 3% พร้อมแรงขายหนาแน่น หลังนักลงทุนผิดหวังงบไตรมาสแรกพลิกเป็นขาดทุน หลังขาดทุนค่าเงินเกือบ 3 พันลบ. แต่พบกำไรจากการดำเนินงานปกติกลับเติบโต 5.5% นักวิเคราะห์บอกมีลุ้นไตรมาส 2 พลิกเป็นกำไร เพราะเข้าช่วงไฮซีซั่นการใช้ไฟฟ้า บวกกับไม่มีขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน ส่วนทั้งปีคาดกำไรใกล้เคียงปีก่อนที่ 1 หมื่นลบ. กูรูส่วนใหญ่แนะนำซื้อ เพื่อเก็งกำไรผลงานไตรมาส 2 แถมราคาบวกอัตราตอบแทนเงินปันผลสูงถึง 29% วานนี้ราคาหุ้น บมจ.ผลิตไฟฟ้า(EGCO) เจอถล่มต่อเนื่องเป็นวันที่สอง -2.60% มาปิดที่ 262 บาท ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่หนาแน่นผิดปกติ +135.45%หลังจากสร้างความผิดหวังให้ตลาดประกาศผลกำไรไตรมาสแรกที่ต่ำกว่าการคาดการณ์

- GULF เผย Q1/63 ขาดทุน 413.25 ลบ. หลังค่าเงินบาทอ่อนค่า แต่กำไรจากการดำเนินการยังโต 8% อยู่ที่ 925 ลบ. รับรู้รายได้ไฟฟ้าหนุน - ต้นทุนก๊าซธรรมชาติลดลง ยันไม่รับผลกระทบจากโควิด เล็งออกหุ้นกู้ 10,000 ลบ.กลางปีนี้ ขยายธุรกิจ

นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ กรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยผลประกอบการงวด Q1/63 ขาดทุน 413.25 ล้านบาท หรือ 0.04 บ./หุ้น จากงวดเดียวกันปี 62 ที่มีกำไร 1,292.68 ล้านบาท หรือ0.12 บ./หุ้น ใน Q1/63 กลุ่มบริษัทฯ รับรู้ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเป็นจำนวน 1,338 ล้านบาท เทียบกับผลกำไร 436 ล้านบาท และ 234 ล้านบาท ใน Q1/62 และ Q4/62 ตามลำดับ จากการอ่อนค่าลงอย่างมากของค่าเงินบาท จาก 30.3313 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้น Q4/62 เป็น32.8298 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้น Q1/63

- AOT เผย Q2/63 (ม.ค.-มี.ค.63) กำไรหาย 52.30 % เทียบช่วงเดียวกันปี 62 เหลือ 3,647 ลบ. หลังเจอพิษโควิด-19 กดดันรายได้ลดลงทั้งธุรกิจการบิน และนอกการบิน ส่วนงวด 6 เดือน มีกำไร 1.09 หมื่นลบ. ลดลง 21.75% นายสมบูรณ์ น้อยน้ำคำ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (สายงานบัญชีและการเงิน) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เปิดเผยผลประกอบการงวด Q2/63 (ม.ค.-มี.ค.) ว่ามีกำไร 3,647.64 ล้านบาท หรือ 0.26 บาท/หุ้น ลดลง 52.30% จากงวดเดียวกันปี 2562 ที่มีกำไร 7,646.50 ล้านบาท หรือ 0.54 บ./หุ้น ส่วนงวด 6 เดือนปี 2563 (ต.ค.-มี.ค.) มีกำไร 10,982.36 ล้านบาท หรือ 0.77 บ./หุ้น ลดลง 21.75% จากงวดเดียวกันปี 2562 ที่กำไร 14,022.13 ล้านบาท หรือ 0.98 บ./หุ้น

อ้างอิงจากกรุงเทพธุรกิจ

- เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 63 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธาน ว่า ที่ประชุม ศบค.เห็นชอบลดเวลาเคอร์ฟิวจาก 22.00 น. ถึง 04.00น. มาเป็น 23.00 น. ถึง 04.00 น. ในส่วนของห้างสรรพสินค้าอาจจะต้องมีการปรับเวลาในการเปิดและปิด มาเป็น 10.00น. ถึง 20.00 น.เพื่อให้พนักงานมีเวลาเตรียมตัว

นอกจากนี้ ยังมีการผ่อนคลายกิจการ/กิจกรรมอีกหลายประเภท เช่น กีฬาบางประเภทที่ไม่ได้เล่นเป็นทีมและมีคนจำนวนมาก แต่กีฬาฟุตบอล วอลเลย์บอล และบาสเกตบอลยังไม่ได้มีการผ่อนคลายให้ เพราะเป็นกีฬาที่มีผู้แข่งขันเกิน 3-5 คน ขณะเดียวกัน ยังมีการผ่อนปรนสถานเสริมความงามบางประเภท ซึ่งรายละเอียดต่างๆให้รอการแถลงจากโฆษก ศบค.

ในที่ประชุมนายกฯเป็นห่วงสถานการณ์ถึงแม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่จะต่ำ เพราะถ้าเราประมาทเมื่อไหร่อะไรก็เกิดขึ้นได้ ถ้าผ่อนคลายให้ทำกิจกรรมไปแล้วและมีผู้ติดเชื้อจากการผ่อนคลายดังกล่าวก็ต้องนำมาพิจารณาอีกที