MTS Help Center

ผลสำรวจราคาทองคำ พบว่า ส่วนใหญ่ของกลุ่มนักลงทุนกว่า 71% และผู้เชี่ยวชาญในตลาดทองคำกว่า 69% มองว่าสัปดาห์นี้ทองคำเป็นขาขึ้น ท่ามกลางการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน และตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอ โดยเฉพาะข้อมูลผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ออกมาเพิ่มขึ้นล่าสุดอีกเกือบ 3 ล้านตำแหน่ง ประกอบกับข้อมูลยอดค้าปลีกเดือนเม.ย. ที่ออกมาหดตัวลงแตะ -16.4%

ประธานฝ่ายบริหารจาก Adrian Day Asset Management กล่าวว่า ราคาทองคำ ณ ขณะนี้ดูเหมือนจะปรับขึ้นได้ต่อจนกว่าจะมีการยุติ QE

ประธานจาก Phoenix Futures and Options LLC เชื่อมั่นต่อทิศทางทองขาขึ้น และคาดว่าจะเริ่มเห็นราคาตลาดหุ้นค่อยๆอ่อนตัว ท่ามกลางทั่วโลกที่ยังคงใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากธนาคารกลางต่างๆ ขณะที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำมาก ดังนั้น ทั้งหมดนี้จึงเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ

บรรณาธิการจาก Eureka Miner's Report กล่าวว่า ราคาทองคำยังคงได้รับอานิสงส์ในฐานะ Safe-Haven ขณะที่ซิลเวอร์เองก็ดูจะสดใสตามๆกัน แต่ก็ต้องระมัดระวังจากการที่นักลงทุนทำการปิดสถานะ Long เร็วเหมือนตอนเข้าสถานะ แต่ภาพรวมทองคำยังคงเคลื่อนตัวได้ดีจนกว่าจะมีข่าวเรื่องวัคซีนสำหรับไวรัสโคโรนา ดังนั้น จึงมีโอกาสเห็ฯทองคำแตะ 1,780 เหรียญในสัปดาห์นี้ ขณะที่ซิลเวอร์ดูมีโอกาสยืนเหนือ 17 เหรียญ อย่างที่ไม่เคยเห็นมาตั้งแต่ต้นมี.ค.

นายจิม เวคคอฟ เจ้าหน้าที่ทางเทคนิคอาวุโสจาก Kitco ก็มองว่าทองคำนั้นจะปรับตัวสูงขึ้น และน่าจะขึ้นได้เป็นอย่างดีในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางสัญญาณทางเทคนิคที่เป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ

นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์จาก RJO Futures กล่าวว่า มีโอกาสเห็นทองปรับขึ้นในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อดอลลาร์อ่อนค่า ประกอบกับการฟื้นตัวของซิลเวอร์ที่ดูจะเป็นแรงหนุนแก่ทองคำ

นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Price Fututures Group กล่าวว่า ราคาทองคำดูจะยังปรับตัวขึ้นได้ต่อในกรอบ ท่ามกลางอุปสงค์ทองคำที่เพิ่มขึ้น ด้านข้อมูลจีนที่ออกมาดีขึ้นก็จะเป็นตัวชี้วัดอุปสงค์ของประเทศที่มีแนวโน้มจะปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่การใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำ

นักวารสารจาก VR Metals/Resource Letter ชี้ว่า แม้ทองคำจะขึ้นแต่ก็มีโอกาสอ่อตัวลงมาได้ในลักษณะของการปรับฐาน และระยะสั้นๆ อาจเห็นาราคาทองคำอ่อนตัวลงมาได้

หัวหน้านักกลยุทธ์จาก SIA Wealth Manangement กล่าวว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มทรงตัวในกรอบสัปดาห์นี้มากกว่า

ที่มา: Kitco