MTS Help Center

· ราคาทองคำในวันนี้ปรับขึ้นประมาณ 1% ใกล้ระดับสูงสุดในรอบกว่า 7 ปี ท่ามกลางแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวันศุกร์ที่ประกาศออกมาย่ำแย่ สะท้อนถึงผลกระทบของวิกฤตไวรัสที่มีต่อเศรษฐกิจ ขณะที่ราคาพลาเดียมปรับสูงขึ้นกว่า 9% ท่ามกลางภาพรวมปริมาณอุปสงค์ที่ดีกว่าที่คาด

โดยราคาทองคำปรับขึ้นได้ 1.1% แถว 1,760.85 เหรียญ หลังทำระดับสูงสุดตั้งแต่ 12 ต.ค. 2012 ที่ 1,763.51 เหรียญ ขณะที่ราคาสัญญาทองคำปรับขึ้น 0.8% แถว 1,770.50 เหรียญ

· นักวิเคราะห์จาก IG Markets ระบุว่าตลาดกำลังเริ่มคาดการณ์ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอาจเป็นไปได้ช้ากว่าที่เคยคาดเอาไว้ ซึ่งหมายความว่าสภาวะอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำก็จะยังคงอยู่ต่อไปอีก ซึ่งการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯเมื่อวันศุกร์ที่ออกมาอ่อนแออย่างมาก เป็นปัจจัยกระตุ้นที่สำคัญสำหรับราคาทองคำเลยทีเดียว

· การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯเมื่อวันศุกร์พบว่ายอดค้าปลีกและการผลิตของภาคอุตสาหกรรมต่างหดตัวลงทั้งคู่ในเดือน เม.ย. ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯมีแนวโน้มหดตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่สมัย Great Depression

· นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด ได้กล่าวว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯอาจยืดเยื้อออกไปถึงปีหน้า และการฟื้นตัวโดยสมบูรณ์ของเศรษฐกิจจะขึ้นอยู่กับการพัฒนาวัคซีน

· ขณะที่ หัวหน้าฝ่ายเศรษฐศาสตร์ของธนาคารกลางอังกฤษกำลังหันมามองการใช้อัตราดอกเบี้ยแบบติดลบมากขึ้น ท่ามกลางเศรษฐกิจอังกฤษที่หดตัวเข้าสู่แดนถดถอยจากวิกฤตไวรัสโคโรนา

· อีกปัจจัยที่เติมเชื้อเพลิงให้กับความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและจีน คือการที่กระทรวงพาณิชย์ของประเทศจีนประกาศต่อต้านนโยบายใหม่ล่าสุดจากสหรัฐฯที่เป็นนโยบายเพื่อกดดัน Huawei พร้อมระบุว่าจะมีการดำเนินการตอบโค้เพื่อรักษาผลประโยชน์และสิทธิของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีน

· นักวิเคราะห์กล่าวเสริมว่า ประเด็นความตึงเครียดดังกล่าวจะส่งผลกระทบให้กับภาพรวมเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกับภาคส่วนที่มีความเกี่ยวข้องกับประเทศจีน

· กองทุน SPDR เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เพิ่มการถือครองทองคำอีก 0.8% สู่ระดับ 1,113.78 ตัน

· ราคาพลาเดียมปรับสูงขึ้น 4.2% แถว 1,980.25 เหรียญ หลังจากปรับขึ้นมาได้มากกว่า 9% ในช่วงก่อนหน้า

· นักวิเคราะห์จาก OANDA ระบุว่าทั้งราคาพลาเดียมและแพลทินัมต่างปรับสูงขึ้นได้อย่างมาก นับตั้งแต่ที่สมาคมผู้ลงทุนแพลทินัมโลก หรือ World Platinum Investment Council (WPIC) เผยคาดการณ์เกี่ยวกับภาพรวมอุปสงค์ในทั้ง 2 โลหะล้ำค่า พบว่ามีปริมาณอุปสงค์ดีกว่าที่เคยคาดการณ์เอาไว้ และผลกระทบจากวิกฤตไวรัสก็อาจน้อยกว่าที่คาด ทำให้ความภาพรวมของทั้ง 2 โลหะดูดีขึ้นอย่างมาก

· ด้านราคาแพลทินัมปรับขึ้น 0.8% แถว 804.43 เหรียญ ส่วนราคาซิลเวอร์ปรับขึ้น 3.3% แถว 17.17 เหรียญ

· Gold Price Analysis: ทองคำ Break กรอบสามเหลี่ยม จับตาเป้าหมายใหม่ที่ 1,805 เหรียญในช่วงสัปดาห์ต่อๆไป

บทวิเคราะห์จาก FX Street ระบุว่าราคาทองคำได้กลับตัวเป็นขาขึ้นโดยสมบูรณ์ นับตั้งแต่ที่ราคาได้ทำ Bottoming out ไปที่ 1,690 เหรียญ และทิศทางขึ้นก็มีกำลังมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากราคาสามารถยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 21-DMA ที่ 1,705.81 เหรียญได้

ขณะที่ในกราฟรายวัน จะเห็นได้ว่าราคามีการ Breakout เหนือเส้นแนวต้านของกรอบสามเหลี่ยม (Symmetrical triangle) และขึ้นไปทำระดับสูงสุดที่ 1,751.80 เหรียญ ก่อนจะย่อตัวลงมาเล็กน้อยในช่วงปิดตลาดวันศุกร์

เมื่อพิจารณาจากภาพรวมรายเดือน จะเห็นได้ว่าเทรนขาขึ้นมีแนวต้านอยู่ที่ระดับ 1,807 เหรียญ ซึ่งจะเป็นเป้าหมายถัดไปให้กับฝั่งขาขึ้น โดยก่อนหน้านั้นจะมีแนวต้านที่ 1,754.39 (ระดับสูงสุด พ.ย. 2012) 1,760 (แนวต้านทางจิตวิทยา) และ 1,795.25 เหรียญ (ระดับสูงสุด ต.ค. 2012) ตามลำดับ

อีกสัญญาณหนึ่งที่สะท้อนถึงทิศทางขาขึ้นที่แข็งแกร่งมาจากเส้น Relative Strength Index (RSI) ที่กำลังเคลื่อนไหวในทิศทางขึ้น แต่ต่ำกว่าแดน Overbought แถว 65.15 จุด และการที่ราคาทองคำกำลังเคลื่อนไหวเหนือเส้นค่าเฉลี่ยสำคัญเกือบทั้งหมด

อีกด้านหนึ่ง หากราคาย่อตัวลงต่ำกว่าเส้นแนวรับของเทรนขาขึ้น เดิมทีเป็นแนวต้าน ที่ระดับ 1,719.61 เหรียญ ราคาจะมีโอกาสย่อตัวลงทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 21-DMA ก่อนลงไปที่ระดับ 1,700 เหรียญ หากหลุดแนวรับนี้ลงมาจะทำให้ทิศทางขาลงกลับมามีกำลังมากขึ้นและมีแนวรับถัดไปที่ 1,685.56 เหรียญ

· Kitco Survey | สัปดาห์นี้ (18 - 22 พ.ค.) ทองคำยังคงสดใส

ผลสำรวจราคาทองคำ พบว่า ส่วนใหญ่ของกลุ่มนักลงทุนกว่า 71% และผู้เชี่ยวชาญในตลาดทองคำกว่า 69% มองว่าสัปดาห์นี้ทองคำเป็นขาขึ้น ท่ามกลางการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน และตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอ โดยเฉพาะข้อมูลผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ออกมาเพิ่มขึ้นล่าสุดอีกเกือบ 3 ล้านตำแหน่ง ประกอบกับข้อมูลยอดค้าปลีกเดือนเม.ย. ที่ออกมาหดตัวลงแตะ -16.4%

ประธานฝ่ายบริหารจาก Adrian Day Asset Management กล่าวว่า ราคาทองคำ ณ ขณะนี้ดูเหมือนจะปรับขึ้นได้ต่อจนกว่าจะมีการยุติ QE

ประธานจาก Phoenix Futures and Options LLC เชื่อมั่นต่อทิศทางทองขาขึ้น และคาดว่าจะเริ่มเห็นราคาตลาดหุ้นค่อยๆอ่อนตัว ท่ามกลางทั่วโลกที่ยังคงใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากธนาคารกลางต่างๆ ขณะที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำมาก ดังนั้น ทั้งหมดนี้จึงเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ

บรรณาธิการจาก Eureka Miner's Report กล่าวว่า ราคาทองคำยังคงได้รับอานิสงส์ในฐานะ Safe-Haven ขณะที่ซิลเวอร์เองก็ดูจะสดใสตามๆกัน แต่ก็ต้องระมัดระวังจากการที่นักลงทุนทำการปิดสถานะ Long เร็วเหมือนตอนเข้าสถานะ แต่ภาพรวมทองคำยังคงเคลื่อนตัวได้ดีจนกว่าจะมีข่าวเรื่องวัคซีนสำหรับไวรัสโคโรนา ดังนั้น จึงมีโอกาสเห็ฯทองคำแตะ 1,780 เหรียญในสัปดาห์นี้ ขณะที่ซิลเวอร์ดูมีโอกาสยืนเหนือ 17 เหรียญ อย่างที่ไม่เคยเห็นมาตั้งแต่ต้นมี.ค.