· ราคาทองคำปรับสูงขึ้นในวันนี้ ท่ามกลางความต้องการทองคำในตลาดที่สูงขึ้น เนื่องจากเริ่มมีความชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากวิกฤตไวรัสโคโรนามากขึ้นจากตัวเลขทางเศรษฐกิจต่างๆที่ประกาศออกมาในแดนอ่อนแอ ประกอบกับความเชื่อมั่นในการพัฒนาวัคซีนที่อ่อนแอลงไป
ราคาทองคำปรับขึ้น 0.2% แถว 1,746.58 เหรียญ ขณะที่ราคาสัญญาทองคำปรับขึ้น 0.4% แถว 1,751.90 เหรียญ
· นักวิเคราะห์จากสถาบัน Anand Rathi ระบุว่าตลาดหุ้นที่ปรับขึ้นได้จากความหวังในวัคซีนได้อ่อนแอลงไป ทำให้ตลาดกลับมาให้ความสนใจในทองคำอีกครั้ง ประกอบกับตัวเลขทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอละความเสี่ยงที่ความตึงเครียดทางการค้าจะประทุได้ทุกขณะ
ความเชื่อมั่นของตลาดที่มีต่อการพัฒนาวัคซีนได้อ่อนแอลงไป หลังมีรายงานว่าวัคซีนอาจไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลดลง ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียทรงตัวหลังจากปรับขึ้นมาได้ในช่วงต้นสัปดาห์
ด้านตัวเลขการก่อสร้างบ้านในสหรัฐฯประกาศออกมาลดลงด้วยอัตราที่มากที่สุดครั้งประวัติการณ์สำหรับเดือน เม.ย. จึงยิ่งตอกย้ำความกังวลว่าวิกฤตไวรัสจะฉุดให้เศรษฐกิจโลกในไตรมาสที่ 2/2020 อ่อนแอลงด้วยอัตราที่สาหัสยิ่งกว่าสมัย Great Depression
ขณะที่ในญี่ปุ่น ความเชื่อมั่นทางธุรกิจได้ปรับลดลงในเดือน พ.ค. ทำระดับต่ำสุดในรอบทศวรรษ เนื่องจากบรรดาผู้ประกอบการกำลังเตรียมรับความเสี่ยงจากความอ่อนแอของเศรษฐกิจที่น่าจะยืดเยื้อ
· สำหรับคืนนี้ ตลาดจะจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมเฟดรอบ 28-29 เม.ย.
ในการรายงานตนต่อคณะกรรมการของวุฒิสภาสหรัฐฯเมื่อคืนนี้ นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด ได้กล่าวว่าเฟดกำลังหาวิธีขยายการเข้าถึงนโยบายสนับสนุนด้านเครดิตให้กับผู้ประกอบการสหรัฐฯให้ครอบคลุมไปยังผู้ประกอบการเป็นวงกว้างขึ้น รวมไปถึงบรรดารัฐที่มีจำนวนประชากรน้อย
· นักวิเคราะห์จาก ANZ ประเมินว่า สิ่งที่เฟดจะดำเนินการในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจะมีความสำคัญและน่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะยิ่งประธานเฟดได้ส่งสัญญาณว่าอัตราดอกเบี้ยจะคงอยู่ใกล้ระดับ 0% ต่อไปอีกระยะหนึ่ง
· Gold Price Outlook: ทองคำกลับมาขึ้นต่อ “ปรับฐาน” หรือ “กลับตัว”?
บทวิเคราะห์จาก Daily FX ระบุว่าราคาทองคำในภาพรวมรายปีสามารถปรับขึ้นมาได้มากกว่า 20% จากระดับเปิดตลาดปีนี้ และการปรับขึ้นต่อเมื่อคืนก็ได้พาราคากลับมาใกล้เส้นแนวต้านของเทรนขาขึ้นระยะหลายปี แม้ภาพรวมระยะสั้นของราคาจะยังคงเป็นขาขึ้นแต่ยังคงมองว่าทิศทางต่อไปของราคาทองคำมีความเสี่ยงที่จะแกว่งตัวไปได้ทั้งสองทิศทาง ซึ่งต้องจับตาระดับปิดตลาดสัปดาห์นี้เพื่อหาสัญญาณต่อไป
ทั้งนี้ สำหรับภาพรวมระยะยาวของราคาทองคำ มองแนวรับแรกไว้ที่ 1,673 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของเดือน มี.ค. และถัดมาที่ 1,645 เหรียญ ที่เป็นระดับ 38.2% retracement วัดจากภาพรายปี สำหรับกรณีที่ราคาขึ้นต่อ มองแนวต้านไว้ที่ระดับ 1,795 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของปี 2012 หากขึ้นเหนือระดับนี้ได้จะมีโอกาสขึ้นไปทำระดับสูงสุดใหม่ที่1,856 เหรียญ
· Gold Price Analysis: ทองคำทำลักษณะ Rising wedge หลังขึ้นมาแถว 1,750 เหรียญ
บทวิเคราะห์ทางเทคนิคจาก FX Street ระบุว่าการที่ราคาทองคำสามารถฟื้นตัวขึ้นมาจากระดับต่ำสุดของเมื่อวานที่ 1,726 เหรียญ สู่ระดับ 1,750 เหรียญในวันนี้ ได้ทำให้ภาพรวมระยะสั้นก่อตัวเป็นลักษณะหน้าจั่วขาขึ้น (Rising wedge)
Rising wedge คือลักษณะที่ประกอบไปด้วยเส้นเทรนที่เชื่อมต่อจุดสูงยกสูง (Higher highs) และจุดต่ำยกสูง (Higher lows) เข้าด้วยกัน ซึ่งถูกมองว่าเป็นสัญญาณสะท้อนถึงแรงซื้อที่เริ่มอ่อนกำลัง ดังนั้นหากราคาย่อตัวหลุดแนวรับของเทรนนี้ก็อาจเป็นสัญญาณของการกลับตัว และราคาอาจย่อตัวลงลงมาแถวระดับต่ำสุดของลักษณะ Rising wedge
ในช่วงสายวันนี้ ราคาทองคำกำลังเคลื่อนไหวแถวระดับ 1,748 เหรียญ โดยที่แนวรับของลักษณะ Rising wedge จะอยู่ที่ระดับ 1,743 เหรียญ หากหลุดแนวรับนี้ลงมาจะทำให้ราคามีโอกาสย่อลงต่อถึงระดับ 1,726 เหรียญ อีกด้านหนึ่ง หากราคาสามารถยืนเหนือระดับ 1,750 เหรียญได้ จะทำให้ราคามีโอกาสขึ้นต่อไปยังระดับ 1,765 เหรียญ
ทั้งนี้ มองว่าราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้นต่อมากกว่า เนื่องจากเกิดสัญญาณ Bullish Engulfing แท่งเทียนของราคาวันจันทร์ที่ทำลักษณะ Inverted bearish hammer ทำให้แนวโน้มที่ราคาจะย่อตัวลงต่อดูอ่อนกำลังลงไป
· ด้านราคาพลาเดียมปรับลง 0.9% แถว 2,039.93 เหรียญ ขณะที่ราคาซิลเวอร์ปรับขึ้น 0.8% แถว 17.53 เหรียญ และราคาแพลทินัมปรับขึ้น 0.3% แถว 835.28 เหรียญ