· ราคาทองคำปรับตัวลดลงในวันนี้ ท่ามกลางความหวังเกี่ยวกับการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์และกลับมาเปิดเศรษฐกิจ รวมถึงความหวังเกี่ยวกับวัคซีนไวรัสโคโรนา ขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับตัวเลขทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอในหลายๆประเทศยังเป็นปัจจัยที่สนับสนุนราคา
โดยราคาทองคำปรับลดลง 0.7% แถว 1,737.35 เหรียญ ขณะที่ราคาสัญญาทองคำปรับลดลง 0.8% แถว 1,738.80 เหรียญ
· ขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกเคลื่อนไหวค่อนข้างจำกัดในช่วงตลาดเอเชียวันนี้ เนื่องจากตลาดยังมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบระยะยาวจากวิกฤตไวรัสโคโรนา
· นักวิเคราะห์จาก National Australia Bank มองว่าตลาดยังคงมีมุมมองในเชิงบวกเกี่ยวกับเศรษฐกิจอยู่บ้าง รวมถึงความหวังจากการพัฒนาวัคซีนและการคลายล็อคดาวน์ แต่ยังคงเป็นความหวังที่ริบหรี่ เพราะถ้าหากเป็นความหวังที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้จริงในเร็วๆนี้ ก็อาจเห็นราคาทองคำย่อหลุด 1,700 เหรียญ
· เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ราคาทองคำได้ขึ้นไปทำระดับสูงสุดตั้งแต่ ต.ค. ปี 2012 โดยได้รับแรงหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับความเสียหายของเศรษฐกิจ ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน และการใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในหลายๆประเทศ
· รายงานการประชุมเฟดเมื่อคืนนี้ แสดงให้เห็นว่าบรรดาคณะกรรมการเฟดยอมรับว่ามีความเป็นไปได้ที่จะออกนโยบายสนับสนุนเศรษฐกิจเพิ่มเติม หากความอ่อนแอของเศรษฐกิจยังคงยืดเยื้อ
· ขณะที่ตัวเลขเงินเฟ้อของอังกฤษประกาศออกมาตกต่ำที่สุดตั้งแต่ปี 2016 จึงยิ่งสะท้อนถึงความเสียหายของเศรษฐกิจที่เกิดจากวิกฤตไวรัสโคโรนา
· สำหรับคืนนี้ ตลาดจะจับตาการประกาศจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ เพื่อวิเคราะห์ทิศทางต่อไปของเศรษฐกิจสหรัฐฯ
· ราคาพลาเดียมปรับลง 2.2% แถว 2,055.14 เหรียญ หลังขึ้นไปทำระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนเมื่อวานนี้ ขณะที่ราคาแพลทินัมปรับลง 1.1% แถว 841.37 เหรียญ
· นักวิเคราะห์จาก ANZ คาดการณ์ว่า ยอดขายรถยนต์ที่ตกต่ำลงจะเป็นปัจจัยที่กดดันราคาแพลทินัมในปีนี้พร้อมระบุว่าเริ่มเห็นได้ถึงปริมาณอุปสงค์ในพลาเดียมและแพลทินัมที่เริ่มหดตัวลงบ้างแล้ว ขณะที่การชะงักลงของกิจกรรมขุดเจาะแร่อาจเป็นปัจจัยที่สนับสนุนไม่ให้ราคาร่วงลงมามากนัก แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเห็นราคาเคลื่อนไหวผันผวนตามสินทรัพย์อื่นๆ
· ด้านราคาซิลเวอร์ปรับลง 2.2% แถว 17.12 เหรียญ
· จับตาเป้าหมายทองคำขาขึ้นที่ 1,800 เหรียญ
บทวิเคราะห์จาก Daily FX ระบุว่าราคาทองคำเป็นทิศทางขาขึ้นที่แข็งแกร่งตั้งแต่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากถูกเทขายและมีความผันผวนอย่างหนักในช่วงเดือน มี.ค. โดยได้รับแรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางของหลายๆประเทศหันมาใช้นโยบายผ่อนคลายทางเศรษฐกิจแบบพิเศษและลดดอกเบี้ยลงมาอยู่ในระดับต่ำกันถ้วนหน้า จึงช่วยหนุนให้ภาพรวมระยะยาวของราคาทองคำเป็นขาขึ้นที่ค่อนข้างสดใสทีเดียว และหลังจากที่ราคาได้ทำระดับสูงสุดใหม่เหนือระดับเดิมที่ 1,747 เหรียญ เป้าหมายต่อไปของราคาทองคำจึงขยับขึ้นมาเป็น 1,800 เหรียญ
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ราคาจะขึ้นไปถึงเป้าหมายที่ 1,800 เหรียญได้ อาจต้องเผชิญกับแนวต้านย่อยหลายระดับด้วยกัน แต่ถึงกระนั้นเป้าหมายหลักก็จะอยู่ที่ 1,800 เหรียญ หากสามารถขึ้นเหนนือระดับนี้ได้ เป้าหมายหลักต่อไปจะขยับขึ้นมาเป็น 1,920 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของปี 2011 โดยเมื่อพิจารณาจากภาพรวมทางเทคนิคของราคาทองคำแล้ว โอกาสที่ราคาจะปรับขึ้นต่อก็เป็นไปได้มากทีเดียว
สำหรับภาพระยะสั้น หากราคาเกิดย่อตัวลงก็น่าจะชนกับแนวรับที่ 1,714 เหรียญ ซึ่งเป็นแนวรับที่แข็งแกร่งโดยมีเส้น Fibonacci ระยะยาว มาบรรจบกับแนวรับของเทรนขาขึ้นตั้งแต่เดือน ม.ค. ซึ่งทั้งสองเส้นดังกล่าวสามารถรองรับการปรับลงของราคามาได้หลายต่อหลายครั้ง จึงมีแนวโน้มสูงที่จะสามารถรับการร่วงลงของราคาครั้งต่อไปได้อีก
ในกรณีที่ราคาเกิดหลุดแนวรับสำคัญดังกล่าว จะมีแนวรับถัดๆไปที่ 1,650 และ 1,587 เหรียญตามลำดับ แต่ตราบใดที่ราคายังไม่ร่วงลงไปถึง 1,450 เหรียญซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของของเดือน มี.ค. ภาพรวมระยะยาวก็จะยังคงเป็นขาขึ้น
· Gold Price Analysis: ทองคำยังทดสอบไม่ผ่านแนวต้าน 1,752 – 1,754 เหรียญ
บทวิเคราะห์จาก FX Street ระบุว่าราคาทองคำเมื่อคืนได้ย่อตัวลงหลังทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 1,752 – 1,754 เหรียญไม่ผ่าน และในช่วงสายวันนี้ก็ย่อตัวลงต่อแถว 1,747.50 เหรียญ
ดังนั้น แนวรับแรกสำหรับวันนี้จึงอยู่ที่ระดับ 1,740 เหรียญ หากหลุดแนวรับนี้ลงมาจะมีแนวรับถัดไปที่ 1,726 – 1,725.50 เหรียญ ซึ่งเป็นเส้นค่าเฉลี่ย 200-HMA และระดับต่ำสุดรายสัปดาห์ หากยังหลุดต่ำกว่าแนวรับดังกล่าว จะมีโอกาสย่อลงต่อโดยมีแนวรับที่ 1,723.70 และ 1,714 เหรียญ ตามลำดับ โดย 1,714 เหรียญน่าจะเป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง เนื่องจากเป็นระดับ 61.8% Fibonacci retracement วัดจากระดับสูงสุดของวันที่ 6 – 18 พ.ค.
อีกด้านหนึ่ง หากราคาปรับขึ้นทะลุแนวต้านที่ 1,754 เหรียญ จะมีโอกาสลุ้นเป้าหมายต่อไปที่ 1,765.38 เหรียญซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อเร็วๆนี้ และถัดไปอีกที่ 1,796 เหรียญ ระดับสูงสุดของปี 2012
· Gold Price Analysis: ทองต้องยืนเหนือ 1,748 เหรียญ ขาขึ้นถึงได้ไปต่อ
เครื่องมือ Confluences Indicator โดย FX Street ประเมินว่าราคาทองคำจะมีแนวต้านที่ค่อนข้างแข็งแกร่งอยู่ที่ระดับ 1,748 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับที่เส้น Bollinger Band 1h-Middle, เส้นค่าเฉลี่ยราย 5-4 ช.ม., เส้นค่าเฉลี่ยราย 100-15 นาที และระดับสูงสุดของเดือนก่อนมาบรรจบกัน
สำหรับแนวต้านถัดมาที่ค่อนข้างอ่อนแอกว่าจะอยู่ที่ระดับ 1,751 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับ Fibonacci 23.6% one-day และระดับสูงสุดของสัปดาห์ก่อน
สำหรับแนวรับแรกจะอยู่ที่ระดับ 1,737 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับที่เส้น Fibonacci 23.6% one-week และ Pivot Point one-day Support 2 มาบรรจบกัน
ถัดลงมาอีกจะมีแนวรับแข็งแกร่งอยู่ที่ระดับ 1,728 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับที่เส้นเฉลี่ย SMA 50-4 ช.ม. และ Fibonacci 38.2% one-week มาบรรจบกัน
· รัฐบาลอาจแบนการถือครองทองคำ หากคุมเงินเฟ้อไม่อยู่
รายงานจาก Bloomberg ระบุว่า Crispin Odey นักบริหารกองทุน ระบุถึงความเป็นไปได้ที่รัฐบาลจะพิจารณาแบนการถือครองทองคำสำหรับภาคเอกชน หากรัฐบาลสูญเสียความสามารถในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ
ท่ามกลางการที่รัฐบาลและธนาคารกลางของหลายๆประเทศทั่วโลก ต่างมีการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการอัดฉีดเม็ดเงินกันครั้งใหญ่ เพื่อช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตไวรัสโคโรนา ทำให้นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ต่างคาดการณ์ถึงความเสี่ยงที่อัตราเงินเฟ้อจะพุ่งสูงขึ้นได้อย่างมาก ซึ่งทองคำเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนนิยมเลือกถือครองเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อ