• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 25 พฤษภาคม 2563

    25 พฤษภาคม 2563 | SET News
   

· S&P 500 ยังไม่ผ่านแนวต้านสำคัญ ขณะที่ความเสี่ยงที่จะเกิดความผันผวนเริ่มลดน้อยลง

บทวิเคราะห์จาก Daily FX ระบุว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนวันศุกร์ปิดค่อนข้างผสมผสานกัน โดยดัชนี S&P 500 ปิด +0.24% ขณะที่ดาวโจนส์ปิด -0.04% ขณะที่ค่าเงิน Safe-haven อย่างดอลลาร์และเงินเยนต่างก็อ่อนค่าลงกันเล็กน้อยในช่วงการซื้อขายของตลาดสหรัฐฯ ขณะที่ค่าเงินที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยงอย่างดอลลาร์ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ต่างฟื้นตัวขึ้นกันได้บางส่วน

S&P 500 Technical Analysis

ดัชนี S&P 500 ยังคงไม่สามารถปรับขึ้นแนวต้านที่เป็นระดับสูงสุดของเดือน เม.ย. ได้ และยังคงผันผวนอยู่แถวระดับดังกล่าว ทำให้แนวต้านของดัชนีอยู่ที่บริเวณ 2,944 – 2,965 จุด ขณะที่สัญญาณจากเส้น RSI ที่เป็นลบ ประกอบกับสัญญาณว่าทิศทางขาขึ้นเริ่มอ่อนกำลังสะท้อนว่าดัชนีมีโอกาสย่อตัวลง หากเป็นเช่นนั้น ดัชนีจะมีแนวรับแรกอยู่ที่ระดับ 2,908 จุด และตามมาด้วย 2,823 จุด

· ตลาดหุ้นฮ่องกงและตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลง หลังจากที่จีนพิจารณากฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ที่เกี่ยวข้องกับเขตบริหารพิเศษฮ่องกง เพื่อควบคุมฮ่องกงมากขึ้น รวมทั้งการห้ามก่อความไม่สงบและห้ามปลุกระดมการแยกตัวจากจีน และอื่นๆนั้นได้ส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงในอนาคตและโอกาสทางการค้าทั่วโลก

โดยดัชนี HSI ลดลง 0.4% หลังจากร่วงลงไป 5.5% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 0.3% ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง

· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากญี่ปุ่นใกล้จะกลับมาเปิดเศรษฐกิจอย่างเต็มรูปแบบในเร็วๆนี้ ขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมยกเลิกมาตรการฉุกเฉินในอีกหลายพื้นที่ที่เหลือ ซึ่งรวมถึงกรุงโตเกียว จึงเพิ่มความหวังที่ว่าเศรษฐกิจอาจเริ่มฟื้นตัวจากภาวะถดถอยได้ในไม่ช้า

โดยดัชนี Nikkei พุ่งขึ้น 1.7% ที่ระดับ 20,741.65 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดที่ดีที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 6 มี.ค. นำโดยหุ้นขนส่งทางอากาศและทางบก

ด้านดัชนี Topix เพิ่มขึ้น 1.7% เช่นเดียวกัน ที่ระดับ 1,502.20 ซึ่งเป็นระดับปิดสูงที่สุดในรอบ 2 เดือนครึ่ง

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นวางแผนที่จะจัดการประชุมคณะทำงานของรัฐบาลภายในวันนี้เพื่อตัดสินใจว่าจะยกระดับมาตรการฉุกเฉินในโตเกียวและอีกสี่จังหวัดซึ่งรวมถึงเกาะทางตอนเหนือของฮอกไกโดซึ่งยังอยู่ภายใต้ข้อจำกัดดังกล่าว

· ตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากบริษัทผู้บริโภค แม้ว่าการเพิ่มขึ้นจะเป็นไปได้อย่างจำกัดเนื่องจากถูกกดดันจากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีน

โดยดัชนี Shanghai Composite เพิ่มขึ้น 0.15% ที่ระดับ 2,817.97 จุด

· ตลาดหุ้นยุโรปมีการซื้อขายที่สูงขึ้นเนื่องจากประเทศต่าง ๆ เดินหน้าเพื่อเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง โดยดัชนี CAC 40 ฝรั่งเศส เพิ่มขึ้นประมาณ 28 จุดในการซื้อขายช่วงเช้า ขณะที่ดัชนี DAX ของเยอรมนีเพิ่มขึ้น 100 จุด

ทั้งนี้ ตลาดสหรัฐฯและอังกฤษปิดทำการเนื่องในวััน Memorial Day

อ้างอิงจากนักข่าวกรุงเทพธุรกิจ

- เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 63 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน ว่า ประเทศไทยพบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 2 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม 3,042 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมยอดผู้เสียชีวิต 57 ราย รักษาหายเพิ่ม 7 ราย ผู้ป่วยที่รักษาหายแล้ว 2,928 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 57 ราย

- นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่กระทรวงการคลัง ได้ปรับลดสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เหลือต่ำกว่า 50% เมื่อศุกร์ ที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้กระทรวงคมนาคม หมดหน้าที่ในการกำกับดูแลการบินไทยในทันที เนื่องจากการบินไทยได้ขาดจากการเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ

นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคม ยังไม่มีสิทธิใดในการเข้าไปจัดตั้งคณะผู้ทำแผน เพราะถือเป็นหน้าที่ของผู้ถือหุ้น ซึ่งเป็นกระทรวงการคลัง เช่นเดียวกับคณะทำงานของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่ก่อนหน้านี้กระทรวงคมนาคม เตรียมเสนอ 4 รายชื่อเข้าไปบูรณาการร่วม ขณะนี้ก็ไม่มีสิทธิในการเสนอรายชื่อดังกล่าวแล้ว

“เมื่อโอนหุ้นไปแล้ว กระทรวงคลังก็มีสิทธิมีเสียงในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ แต่กระทรวงคมนาคมเราไม่ได้มีสิทธิอะไรไปกำกับดูแล เพราะการบินไทยไม่ใช่หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ถ้าผู้ถือหุ้นเขาไม่มอบอำนาจมา เราก็ไม่สิทธิเข้าไป ซึ่งผมก็ได้หารือทางโทรศัพท์กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมแล้ว ว่าตอนนี้เราต้องถอยก่อน เพราะเราไม่มีหน้าที่แล้ว รอดูท่าทีว่ากระทรวงการคลังจะทำอย่างไร”

อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสำหรับสัปดาห์นี้ (25-29 พ.ค.) ที่ 31.70-32.10 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ รายงานเศรษฐกิจการเงินเดือนเม.ย. ของธปท. ภาวะการระบาดของโควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงสถานการณ์ระหว่างสหรัฐฯ-จีน ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค. ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย รายได้-รายจ่ายส่วนบุคคล และอัตราเงินเฟ้อที่วัดจากดัชนีราคา Core PCE Price Index ใน เดือนเม.ย. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และข้อมูลจีดีพีไตรมาส 1/63 ของสหรัฐฯ (รายงานครั้งที่ 2) นอกจากนี้ตลาด ยังรอติดตามรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book) และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดด้วยเช่นกัน

- 'พาณิชย์' หนุนเต็มที่ส่งออกสินค้าเกษตรและอาหาร หลังช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาเติบโตดี ทั้งข้าว อาหารทะเลแช่แข็ง ผัก-ผลไม้ อาหารสัตว์เลี้ยง ตามความต้องการช่วงล็อกดาวน์ทั่วโลก คาดสถานการณ์ยังดีต่อเนื่องอีก 1-2 ปี พร้อมเจรจาญี่ปุ่น สนับสนุน 9 ผลไม้ไทยขายตรงผ่านทีวี

- ส.อ.ท.เร่งทำแผนฟื้นฟูอุตสาหกรรมหลังโควิด-19 รับมือโลกเปลี่ยน และเทรดวอร์รอบ 2 ที่กำลังตั้งเค้า ปักธงยกเครื่อง 45 อุตสาหกรรม 11 คลัสเตอร์ เน้นแผนผลิตครบวงจรพึ่งวัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก ดันรัฐจัดแพกเกจผ่านบีโอไอ ตั้งเป้าเพิ่ม 6อุตสาหกรรมใหม่ ดิจิทัล เครื่องมือแพทย์ โลจิสติกส์ หุ่นยนต์ คาดเสร็จ พ.ค.นี้ เพื่อสอดรับกับแผนฟื้นฟู ศก.และสังคมที่รัฐตั้งงบไว้ 4 แสนล้าน

- 200 ซีอีโอวิตก "โควิด-19" กระทบต่อเศรษฐกิจทั้งปี เร่งปรับแผนรุกสู่ออนไลน์ เผยวิกฤติครั้งนี้ ดันธุรกิจสู่ "นิวนอร์มอล"ซีอีโอเกินครึ่งนำเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นส่วนสำคัญในการทำธุรกิจ รี-สกิล กำลังคนครั้งใหญ่รับโลกยุคใหม่ ขณะที่ซีอีโอ 69.7% หนุนให้คงพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ระบุยัง "รับได้" เหมาะกับสถานการณ์เหตุกระทบน้อยว่าประกาศเคอร์ฟิว แนะรัฐเร่งความช่วยเหลือภาคธุรกิจให้เร็วขึ้นลดผลกระทบเศรษฐกิจวงกว้าง

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com