· ดอลลาร์แข็งค่าจากความกังวลสถานการณ์ในฮ่องกง กดดันสินทรัพย์เสี่ยง
ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นเมื่อวานนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับท่าทีตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและจีน เกี่ยวกับฮ่องกงจึงทำให้ตลาดมีแรงหนุนในฐานะ Safe-Haven ขณะที่ค่าเงินหยวน, ออสเตรเลียนดอลลาร์ และนิวซีแลนด์ดอลลาร์ อ่อนค่าลง
ที่ปรึกษาระดับสูงของสหรัฐฯ กล่าวว่า การที่จีนออกกฎหมายความมั่นคงฮ่องกง อาจนำไปสู่การที่สหรัฐฯจะทำการคว่ำบาตรจีนต่อได้ รวมทั้งสหรัฐฯมีการขู่ถึงสถานภาพการเป็นศูนย์กลางทางการเงินของจีนอีกด้วย ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจทำให้ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสองประเทศเลวร้ายลงไปอีก หลังจากที่ส่อแววคุกรุ่นหลังสหรัฐฯแบนการเข้าถึงบริษัทเทคโนโลยีจีน ตามข้อกล่าวหาที่ว่าจีนเป็นต้นตอในการระบาดของไวรัสโคโรนา
ขณะที่ในประเทศฮ่องกงเกิดการประท้วงของประชาชนนับพันราย และตำรวจมีการใช้แก๊สน้ำตาสลายกลุ่มผู้ชุมนุม
ค่าเงินปอนด์อ่อนค่าลงหลังจากที่มีเสียงเรียกร้องให้ผู้ช่วยคนสนิทของนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ทำการลาออกข้อหาละเมิดมาตรการ Lockdown
ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมาแถว 99.906 จุด ขณะที่ยูโรอ่อนค่าลงไปแถว 1.0887 ดอลลาร์/ยูโร ซึ่งถือเป็นระดับปิดอ่อนค่ามากสุดรอบสัปดาห์ ในส่วนของค่าเงินปอนด์ทรงตัวบริเวณ 1.2175 ดอลลาร์/ปอนด์
ด้านเงินเยนทรงตัวบริเวณ 107.72 เยน/ดอลลาร์
สำหรับเงินหยวนอ่อนค่าไปแตะ 7.1422 หยวน/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับอ่อนค่ามากที่สุดใรอบกว่า 7 เดือน
ปริมาณการซื้อขายในตลาดวานนี้ค่อนข้างเบาบาง เนื่องด้วยเป็นวันหยุดของสิงคโปร์, อังกฤษ และสหรัฐฯ ที่ส่งผลให้ตลาดปิดทำการ
· WHO เตือนการระบาดระลอก 2 หรือ Second Wave สำหรับพื้นที่ที่เห็นอัตราการระบาดลดลง!
ดร. ไมค์ ไรอันจาก WHO กล่าวว่า ประเทศที่พบอัตราการติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่กำลังลดน้อยลงอาจกลับมาเผชิญกับ Second Wave แบบฉับพลัน หากพวกเขาเร่งผ่อนคลายมาตรการ Lockdown เร็วเกินไป เนื่องจากในเวลานี้เราอยู่เพียงระยะกลางของการระบาด ขณะที่ประเทศในอเมริกาใต้และอเมริกากลาง รวมทั้งแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแอฟริกายังคงพบจำนวนการระบาดที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี เขากังวลว่า อาจเห็นการระบาดกลับมาอีกในช่วงปลายปีนี้ และจะยิ่งรุนแรงกว่ารอบแรก รวมถึงยังมีโอกาสที่จะเห็นอัตราการติดเชื่อปรับขึ้นมาอย่างรวดเร็วเกินไป หากผ่อนคลายเร็วเกินไป
· ทรัมป์ขู่เปลี่ยนสถานที่จัดประชุมใหญ่พรรครีพับลิกันเนื่องจาก COVID-19
นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เตือนว่าเขาอาจพิจารณาเปลี่ยนสถานที่จัดการประชุมใหญ่ของพรรครีพับลิกันที่มีกำหนดการในเดือน ส.ค. ออกจากรัฐนอร์ทแคโรไลนา หากทางรัฐยังคงใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมเนื่องจากไวรัสโคโรนา
นอกจากนี้ วิกฤตไวรัสโคโรนายังกดดันให้นายทรัมป์และคู่แข่งในการเลือกตั้งจากพรรคเดโมแครตอย่างนายโจ ไบเดน จำเป็นต้องระงับแคมเปญหาเสียงของพวกเขา โดยเฉพาะการประชุมใหญ่ของพรรครีพับลิกันที่มักจะมีสมาชิกระดับสูงของพรรคมารวมตัวกัน จึงทำให้เกิดเสียงวิพากวิจารณ์ว่าการประชุมดังกล่าวอาจมีปัญหาด้านความปลอดภัย
นายทรัมป์ได้ทวีตข้อความว่า หากนายรอย คูเปอร์ ผู้ว่ารัฐที่เป็นฝ่ายเดโมแครต ไม่ยอมให้คำตอบโดยเร็วว่าจะอนุญาตให้ใช้สถานที่สำหรับการจัดการประชุมหรือไม่ ทางรีพับลิกันจะพิจารณาเปลี่ยนสถานที่จัดการประชุม ซึ่งจะทำให้รัฐนอร์ทแคโรไลนา สูญเสียโอกาสในการสร้างตำแหน่งงานและการพัฒนาเศรษฐกิจที่การประชุมครั้งนี้จะนำมาด้วย
· ผู้นำไต้หวันสนับสนุนชาวฮ่องกงจากกรณีกฏหมายความมั่นคงของจีน
นางไช่ อิงเหวิน ประธานาธิบดีไต้หวัน ได้กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ว่าเกาะไต้หวัน “ยืนหยัดเคียงข้างประชาชนฮ่องกง” พร้อมยืนยันว่าจะให้การช่วยเหลือที่จำเป็นแก่ชาวฮ่องกงที่ต้องการมัน
นางไช่ได้แสดงความคิดเห็นผ่านทางเฟสบุค หลังจากที่รัฐบาลจีนเผยร่างกฏหมายว่าด้วยความมั่นคงระหว่างประเทศสำหรับฮ่องกงซึ่งจะไม่ผ่านสภานิติบัญญัติของฮ่องกง ส่งผลให้เกิดการประท้วงขึ้นในศูนย์กลางทางการเงินเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กลายเป็นความกังวลเกี่ยวกับสิทธิและเสรีภาพของชาวฮ่องกง
· สิงคโปร์ทำการหั่นคาดการณ์เศรษฐกิจปี 2020 หลังเผชิญกับการระบาดของไวรัสโคโรนาที่ทำให้จีดีพีช่วงไตรมาสแรกของปีนั้นหดตัวลง และคาดจะเห็นเศรษฐกิจสิงคโปร์หดตัวงไประหว่าง -4.0 ถึง -7.0% ได้ในปีนี้ จากคาดการณ์ก่อนห้าที่คาดจะเห็นเศรษฐกิจหดตัดแค่ระหว่าง -1.0% ถึง -4.0%
· นางอังเกลาร์ แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ต้องการให้มีการผ่อนปรนมาตรการภาษีมูลค่าไม่น้อยกว่า 5 พันล้านยูโรเพื่อช่วยเหลือภาคบริษัท และกลุ่มผู้บริโภคให้เกิดการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วมากขึ้น
อย่างไรก็ดี ในเดือนมี.ค. นางแมร์เคล ก็มีการอนุมัติวงเงินที่สูงเหนือความคาดหมายกว่า 7.5 แสนล้านเหรียญเพื่อช่วยหนุนเศรษฐกิจของประเทศที่ได้รับผลกระบจากการระบาดในเวลานี้
· นายวิลเลอครอยย์ เด กัลตู หนึ่งในสมาชิกอีซีบี กล่าวว่า ธนาคารกลางในยูโรโซนบางแห่งต้องเตรียมที่จะเข้าซื้อพันธบัตรมากขึ้น เพื่อให้หลายๆคนมั่นใจต่อการทำธุรกรรม ขณะที่แผนการเข้าซื้อของอีซีบีค่อนข้างมีความยืดหยุ่นภายใต้วงเงิน 7.5 แสนล้านยูโร (8.17 แสนล้านเหรียญ) ซึ่งเป็นแผนการเข้าซื้อเพิ่มเติมฉุกเฉินในช่วงการระบาดของไวรัส
· ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่ค่อนข้างเบาบางในวันหยุด ทั้งตลาดสิงคโปร์, ลอนดอน และนิวยอร์ก แต่ตลาดเองก็ยังคงมีความกังวลมากขึ้นในเรื่องของการฟื้นตัวของอุปสงค์ท่ามกลางการปรับลดอุปทานน้ำมัน
น้ำมันดิบ Brent ปรับตัวขึ้นแถว 35.81 เหรียญ/บาร์เรล ด้าน WTI ทรงตัวแนว 33.74 เหรียญ/บาร์เรล และน้ำมันดิบทั้ง 2 ชนิดเมื่อนับจากช่วงต้นปีจะพบว่าต่างก็ปรับตัวลดลงมาแล้วประมาณ 45% ขณะที่เมื่อคืนนี้ไม่มีราคาปิดเนื่องในวันหยุด Memorial Day ของสหรัฐฯ