· ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดปรับขึ้นจากเฟดที่พยายามหนุนการฟื้นตัว
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดปรับตัวสูงขึ้นวานนี้ หลังจากที่เฟดประกาศโครงการหนุนการเข้าซื้อหุ้นกู้เพื่อเสริมความมั่นใจนักลงทุน ในช่วงที่เกิดการระบาดของไวรัสโคโรนารอบใหม่
ดัชนีดาวโจนส์ปิด +157.62 จุด หรือ +0.62% ที่ระดับ 25,763.16 จุด ด้านดัชนี S&P500 ปิด +0.8% ที่ 3,066.59 จุด และ Nasdaq ปิด +1.43% ที่ 9,726.02 จุด
ทั้ง 3 ดัชนีหลักของตลาดหุ้นสหรัฐฯฟื้นตัวได้หลังจากที่เผชิญแรงเทขายในช่วงต้นตลาด โดยตลาดฟื้นตัวขึ้นได้จากการที่เฟดจะให้การสนับสนุนโครงการสินเชื่อ SMCCF เพื่อให้เกิดการกระจายที่มากขึ้นในพอร์ตลงทุน
· ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์สดีดต่อกว่า 250 จุดเช้านี้
ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์สปรับตัวขึ้นได้ต่อในเช้านี้ตามการปิดตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนนี้ โดยดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์สเปิดปรับขึ้นได้กว่า 260 จุด จึงบ่งชี้วว่าตลาดอาจขยับขึ้นได้เกือบ 300 จุด จึงหนุนให้ดัชนี S&P500 ฟิวเจอร์ส รวมทั้ง Nasaq-100 ฟิวเจอร์สเช้านี้ขยับขึ้นตาม
· ตลาดหุ้นยุโรปปิดในแดนลบ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการกลับมาแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนารอบสองในเอเชียและสหรัฐฯ หลังจากที่คลายมาตรการ Lockdowns ลงไป
โดยดัชนี Stoxx600 ลดลงประมาณ 0.2% ดัชนี DAX เยอรมนี ลดลงประมาณ 0.3% ดัชนี CAC 40 ฝรั่งเศสปิดลบ 0.4% และดัชนี FTSE 100 อังกฤษ ปิดลง 0.8%
ทั้งนี้ การปรับตัวลงของตลาดหุ้นต่างๆ เกิดขึ้นหลังจากที่รัฐต่างๆ รวมถึง อลาบามา แคลิฟอร์เนีย ฟลอริดาและนอร์ธ แคโรไลน่า รายงานว่ามีการเพิ่มขึ้นขอยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารายวัน
จีนซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาแห่งแรกในโลกได้กลับมาสร้างความกังวลต่อตลาดอีกครั้งเกี่วกับ Second Wave หลังสำนักข่าว Reuters ระบุว่า กรุงปักกิ่งมีการประกาศภาวะฉุกเฉิน “Wartime Emergency” หลังพบผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ในตลาดสด
ขณะที่การประท้วงต่อการกระทำที่เกิดกว่าเหตุของตำรวจที่มีจุดเริ่มต้นจากการเสียชีวิตของชาวผิวสีในสหรัฐฯได้ลุกลามทั่วทุกรัฐในสหรัฐฯและลามไปยังประเทศยุโรป และล่าสุดก็มีการเสียชีวิตของชาวผิวสีเพิ่มในวันอาทิตย์ และทั้งหมดนี้ก็ได้กลายมาเป็นความกังวลต่อ Second Wave
· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้น ตามการรีบาวน์ของตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยเช้านี้ดัชนี Nikkei พุ่งขึ้น 2.86% ด้านดัชนี Topix เพิ่มขึ้น 2.49% รวมทั้งดัชนี Kospi เกาหลีใต้ที่เพิ่มขึ้น 3.1%
ขณะที่ดัชนี S&P/ASX 200 ออสเตรเลีย ปรับตัวสูงขึ้นเช่นเดียวกัน 1.28%
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปรับตัวสูงขึ้นได้ 0.92%
· นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในวันนี้ระหว่าง 30.85 - 31.15 บาท/ดอลลาร์ โดยยังต้องติดตามสถานการณ์โควิด-19 ในต่างประเทศ ส่วนการเจรจา Brexit อาจจะยังไม่ชัดเจน แต่ถ้ามีข้อสรุปอะไรออกมาน่าจะส่งผลต่อค่าเงินปอนด์
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า หลังจากที่ผ่อนคลายมาตรการในระยะที่ 4 แล้ว ต้องดูว่าสถิติการการแพร่ระบาดภายในประเทศแต่ละวันจะเพิ่มขึ้นหรือไม่ อย่างไร แต่สถานการณ์ในขณะนี้พบว่าเป็นผู้ที่รับเชื้อมาจากต่างประเทศ และอยู่ในสถานที่กักกันตัวของรัฐ หรือ State Quarantine จึงสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ อย่างไรก็ดี หากมีการผ่อนปรนไปแล้ว แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ ก็อาจจะกลับมาประกาศเคอร์ฟิวใหม่ได้
- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มอบนโยบายแก่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) โดยประเมินว่า จากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่ระบาดไปหลายประเทศทั่วโลก ส่งผลต่อเศรษฐกิจทั่วโลก และเชื่อว่าภายใน 1-2 ปีนี้สถานการณ์เศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้น แต่ต้องการให้บีโอไอใช้โอกาสนี้ในการสร้างจุดเด่นให้กับประเทศไทย เพื่อดึงดูดการลงทุนในอนาคต และผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลาง (HUB) ด้านเกษตรและการแพทย์ ในกลุ่ม CLMVT
- ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เดินหน้าหลายมาตรการเพื่อให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยตั้งแต่เดือน ม.ค.63 ที่ธนาคารเริ่มโครงการช่วยเหลือลูกค้า จนถึงล่าสุด ณ วันที่ 10 มิ.ย.63 ธนาคารได้ดูแลช่วยเหลือกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการและลูกค้าบุคคลรายย่อย ผ่านมาตรการของธนาคารและโครงการของทางการแล้วรวมเป็นจำนวนกว่า 9.15 แสนราย