เฟดล่าสุด:
· เฟดปล่อยโครงการเงินกู้ Main Street Lending Program
เมื่อคืนนี้เฟดมีการปล่อยโครงการปล่อยเงินกู้ที่หลายฝ่ายเฝ้ารอมานาน ชื่อว่า "เมน สตรีท" (Main Street Lending Program) เพื่อสนับสนุนภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อคดาวน์สกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อช่วยบริษัทที่มีรูปแบบการเติบโตที่ดีก่อนเผชิญกับการระบาด แต่ในเวลานี้อาจเป็นการมุ่งเป้าไปยังการช่วยเหลือพนักงานและการดำเนินงานด้านเงินทุน โดยอาจมีการเพิ่มเงินกู้สูงถึง 6 แสนล้านเหรียญให้โดยเฉพาะกลุ่มสถาบันการเงินตลอดจนภาคธุรกิจสหรัฐฯที่มีลูกจ้าง 15,000 รายขึ้นไป หรือมีรายได้ที่สูงกว่า 5 พันล้านเหรียญขึ้นไป
การกู้ยืมดังกล่าวจะต้องมีการลงทะเบียนการได้รับสนับสนุนจากเฟดเพื่อให้เฟดเริ่มต้นโปรแกรมเงินกู้เพื่อผลกำไรบริษัทได้ในทันที
นอกจากนี้ เฟดยังเสนอการขยายโครงการการอนุญาตให้บริษัทที่ไม่แสวงผลกำไรได้ทำการกู้ยืมภายใต้โครงการนี้ด้วย
· เฟดจะทำเริ่มต้นเข้าซื้อพันธบัตรเพิ่มในวันนี้
เฟดกล่าวว่าจะเริ่มต้นเข้าซื้อพันธบัตรในวันนี้ ตลอดจนการเข้าถึง The secondary market corporate credit facility (SMCCF) เพื่อเป็นการดูแลตลาดตราสารหนี้
ทั้งนี้เฟดจะใช้ดัชนีชี้วัดการเข้าซื้อเพื่อสร้างพอร์ตโฟลิโอที่อ้างอิงดัชนีตลาดที่มีความหลากหลายในตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ
· เฟดเริ่มซื้อพันธบัตรเพิ่ม 2.5 แสนล้านเหรียญในกลุ่มหุ้นกู้ภาคเอกชน
เฟดมีการประกาศที่จะเริ่มต้นเข้าซื้อหุ้นกู้เอกชนเป็นเวลา 85 วัน หลังจากที่มีการเปิดเผยนโยบายการเข้าซื้อและการบรรเทาแรงกดดันในตลาดสินเชื่อ
โดยโครงการ SMCCF จะมีการเข้าซื้อหุ้นกู้ภาคเอกชนเพิ่ม 2.5 แสนล้านเหรียญ และเฟดยังให้การสนับสนุนทางการเงินแก่กระทรวงการคลังผ่านทางกองทุนช่วยเหลืออีกมูลค่า 2.5 หมื่นล้านเหรียญ ภายใต้โครงการ CARES Act
· ดอลลาร์ทรงตัวท่ามกลาง Risk-Off ที่อ่อนตัวลง
ค่าเงินดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลงหลังจากที่ปรับแข็งค่าขึ้นไป และตลาดสินทรัพย์เสี่ยงส่วนใหญ่เผชิญแรงเทขายทำกำไรจากความกังวลเรื่องการกลับมาระบาดรอบที่ 2 ของไวรัสโคโรนา
ดัชนีดอลลาร์เมื่อคืนอ่อนค่าลงเล็กน้อย 0.12% ที่ระดับ 97.06 จุด แต่ดอลลาร์ก็ยังคงยืนเหนือระดับต่ำสุดรอบ 3 เดือนที่ทำไว้ในสัปดาห์ที่แล้วได้เป็นอย่างดี เนื่องจากยังมีแรงหนุนจากความต้องการดอลลาร์เป็น Safe-Haven จากความกังวลในเรื่องการระบาดของผู้ติดเชื้อใหม่ที่เพิ่มขึ้น
ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง 0.06% ที่ 1.126 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าง 0.1% ที่ 1.255 ดอลลาร์/ปอนด์ ด้านค่าเงินเยนอ่อนค่าไปที่ 107.38 เยน/ดอลลาร์
จีนกลับมาใช้มาตรการคุมเข้มในบางพื้นที่ของกรุงปักกิ่ง หลังพบผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ก.พ. ทางด้านรายงานเมื่อวันเสาร์ก็พบว่าสหรัฐฯมีผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นมากกว่า 25,000 ราย
· อียู และอังกฤษ เห็นพ้องกันในการเร่งเจรจาการค้า Brexit กับช่วงเปลี่ยนผ่านที่จะหมดอายุในอีก 6 เดือน
สหภาพยุโรปและรัฐบาลอังกฤษมีการตัดสินใจที่จะมุ่งหาทางเจรจากันต่อในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ท่ามกลางหลายๆฝ่ายที่กังวลว่าทั้งสองฝ่ายอาจล้มเหลวในการบรรลุข้อตกลงการค้าร่วมกันได้ก่อนสิ้นปีนี้
เมื่อวานนี้ นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของทางอียู ร่วมหารือกันถึงแนวทางความเป็นไปได้ครั้งใหม่ต่อการเจรจาหาข้อตกลงร่วมกัน หลังจากที่การเจรจามากว่า 4 ครั้งก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ นับตั้งแต่ที่อังกฤษออกจากอียูอย่างเต็มรูปแบบไปเมื่อเดือนม.ค. และกำลังหาเตรียมข้อตกลงหรือกฎการค้าครั้งใหม่กับประเทศอียูที่เหลือ
อย่างไรก็ดี ในคืนวันศุกร์ รัฐบาลอังกฤษมีการยืนยันว่าจะไม่ทำการขยายเวลาการเปลี่ยนผ่านและการเจรจาออกไปเกินกว่าธ.ค.นี้ นั่นหมายความว่าแรงกดดันกำลังเพิ่มขึ้นระหว่างทั้งสองฝ่ายที่ต้องให้เกิดข้อตกลงให้ได้ก่อนในช่วงต.ค. เพื่อจะให้สามารถเริ่มข้อตกลงใหม่ได้ในช่วงปีใหม่
· ราคาน้ำมันดิบปิดปรับขึ้น 2% ท่ามกลางมุมมองบวกต่อข้อตกลงการผลิตน้ำมัน OPEC+
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลางสัญญาณอุปสงค์น้ำมันที่ปรับตัวขึ้น ขณะที่บรรดาสมาชิก OPEC+ มีการหารือถึงข้อตกลงการปรับลดกำลังการผลิต ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อใหม่ที่เพิ่มขึ้นได้สร้างความวิตกกังวลว่าอาจทำให้เศรษฐกิจโลกเติบโตได้ช้าลงไปอีก
น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับขึ้น 86 เซนต์ หรือ +2.37% ที่ระดับ 37.12 เหรียญ/บาร์เรล ทางด้านน้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้น 96 เซนต์ หรือ +2.5% ที่ระดับ 39.73 เหรียญ/บาร์เรล