• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 16 มิถุนายน 2563

    16 มิถุนายน 2563 | Economic News

เฟดล่าสุด:

· เฟดปล่อยโครงการเงินกู้ Main Street Lending Program

เมื่อคืนนี้เฟดมีการปล่อยโครงการปล่อยเงินกู้ที่หลายฝ่ายเฝ้ารอมานาน ชื่อว่า "เมน สตรีท" (Main Street Lending Program) เพื่อสนับสนุนภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อคดาวน์สกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา

โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อช่วยบริษัทที่มีรูปแบบการเติบโตที่ดีก่อนเผชิญกับการระบาด แต่ในเวลานี้อาจเป็นการมุ่งเป้าไปยังการช่วยเหลือพนักงานและการดำเนินงานด้านเงินทุน โดยอาจมีการเพิ่มเงินกู้สูงถึง 6 แสนล้านเหรียญให้โดยเฉพาะกลุ่มสถาบันการเงินตลอดจนภาคธุรกิจสหรัฐฯที่มีลูกจ้าง 15,000 รายขึ้นไป หรือมีรายได้ที่สูงกว่า 5 พันล้านเหรียญขึ้นไป

การกู้ยืมดังกล่าวจะต้องมีการลงทะเบียนการได้รับสนับสนุนจากเฟดเพื่อให้เฟดเริ่มต้นโปรแกรมเงินกู้เพื่อผลกำไรบริษัทได้ในทันที

นอกจากนี้ เฟดยังเสนอการขยายโครงการการอนุญาตให้บริษัทที่ไม่แสวงผลกำไรได้ทำการกู้ยืมภายใต้โครงการนี้ด้วย

· เฟดจะทำเริ่มต้นเข้าซื้อพันธบัตรเพิ่มในวันนี้

เฟดกล่าวว่าจะเริ่มต้นเข้าซื้อพันธบัตรในวันนี้ ตลอดจนการเข้าถึง The secondary market corporate credit facility (SMCCF) เพื่อเป็นการดูแลตลาดตราสารหนี้

ทั้งนี้เฟดจะใช้ดัชนีชี้วัดการเข้าซื้อเพื่อสร้างพอร์ตโฟลิโอที่อ้างอิงดัชนีตลาดที่มีความหลากหลายในตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ

· เฟดเริ่มซื้อพันธบัตรเพิ่ม 2.5 แสนล้านเหรียญในกลุ่มหุ้นกู้ภาคเอกชน

เฟดมีการประกาศที่จะเริ่มต้นเข้าซื้อหุ้นกู้เอกชนเป็นเวลา 85 วัน หลังจากที่มีการเปิดเผยนโยบายการเข้าซื้อและการบรรเทาแรงกดดันในตลาดสินเชื่อ

โดยโครงการ SMCCF จะมีการเข้าซื้อหุ้นกู้ภาคเอกชนเพิ่ม 2.5 แสนล้านเหรียญ และเฟดยังให้การสนับสนุนทางการเงินแก่กระทรวงการคลังผ่านทางกองทุนช่วยเหลืออีกมูลค่า 2.5 หมื่นล้านเหรียญ ภายใต้โครงการ CARES Act

· ดอลลาร์ทรงตัวท่ามกลาง Risk-Off ที่อ่อนตัวลง

ค่าเงินดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลงหลังจากที่ปรับแข็งค่าขึ้นไป และตลาดสินทรัพย์เสี่ยงส่วนใหญ่เผชิญแรงเทขายทำกำไรจากความกังวลเรื่องการกลับมาระบาดรอบที่ 2 ของไวรัสโคโรนา

ดัชนีดอลลาร์เมื่อคืนอ่อนค่าลงเล็กน้อย 0.12% ที่ระดับ 97.06 จุด แต่ดอลลาร์ก็ยังคงยืนเหนือระดับต่ำสุดรอบ 3 เดือนที่ทำไว้ในสัปดาห์ที่แล้วได้เป็นอย่างดี เนื่องจากยังมีแรงหนุนจากความต้องการดอลลาร์เป็น Safe-Haven จากความกังวลในเรื่องการระบาดของผู้ติดเชื้อใหม่ที่เพิ่มขึ้น

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง 0.06% ที่ 1.126 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าง 0.1% ที่ 1.255 ดอลลาร์/ปอนด์ ด้านค่าเงินเยนอ่อนค่าไปที่ 107.38 เยน/ดอลลาร์

จีนกลับมาใช้มาตรการคุมเข้มในบางพื้นที่ของกรุงปักกิ่ง หลังพบผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ก.พ. ทางด้านรายงานเมื่อวันเสาร์ก็พบว่าสหรัฐฯมีผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นมากกว่า 25,000 ราย

· อียู และอังกฤษ เห็นพ้องกันในการเร่งเจรจาการค้า Brexit กับช่วงเปลี่ยนผ่านที่จะหมดอายุในอีก 6 เดือน

สหภาพยุโรปและรัฐบาลอังกฤษมีการตัดสินใจที่จะมุ่งหาทางเจรจากันต่อในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ท่ามกลางหลายๆฝ่ายที่กังวลว่าทั้งสองฝ่ายอาจล้มเหลวในการบรรลุข้อตกลงการค้าร่วมกันได้ก่อนสิ้นปีนี้

เมื่อวานนี้ นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของทางอียู ร่วมหารือกันถึงแนวทางความเป็นไปได้ครั้งใหม่ต่อการเจรจาหาข้อตกลงร่วมกัน หลังจากที่การเจรจามากว่า 4 ครั้งก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ นับตั้งแต่ที่อังกฤษออกจากอียูอย่างเต็มรูปแบบไปเมื่อเดือนม.ค. และกำลังหาเตรียมข้อตกลงหรือกฎการค้าครั้งใหม่กับประเทศอียูที่เหลือ

อย่างไรก็ดี ในคืนวันศุกร์ รัฐบาลอังกฤษมีการยืนยันว่าจะไม่ทำการขยายเวลาการเปลี่ยนผ่านและการเจรจาออกไปเกินกว่าธ.ค.นี้ นั่นหมายความว่าแรงกดดันกำลังเพิ่มขึ้นระหว่างทั้งสองฝ่ายที่ต้องให้เกิดข้อตกลงให้ได้ก่อนในช่วงต.ค. เพื่อจะให้สามารถเริ่มข้อตกลงใหม่ได้ในช่วงปีใหม่

· ราคาน้ำมันดิบปิดปรับขึ้น 2% ท่ามกลางมุมมองบวกต่อข้อตกลงการผลิตน้ำมัน OPEC+

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลางสัญญาณอุปสงค์น้ำมันที่ปรับตัวขึ้น ขณะที่บรรดาสมาชิก OPEC+ มีการหารือถึงข้อตกลงการปรับลดกำลังการผลิต ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อใหม่ที่เพิ่มขึ้นได้สร้างความวิตกกังวลว่าอาจทำให้เศรษฐกิจโลกเติบโตได้ช้าลงไปอีก

น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับขึ้น 86 เซนต์ หรือ +2.37% ที่ระดับ 37.12 เหรียญ/บาร์เรล ทางด้านน้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้น 96 เซนต์ หรือ +2.5% ที่ระดับ 39.73 เหรียญ/บาร์เรล

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com