· ดอลลาร์และเยนปรับแข็งค่าขึี้นในวันนี้ ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของยอดผู้ติดเชื้อใหม่ของไวรัสโคโรนาจึงหนุนให้เกิดความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น
ค่าเงินออสเตรเลียดอลลาร์อ่อนค่าหลังจากที่ข้อมูลภาคแรงงานอ่อนแอลงจึงตอกย้ำภาวะเศรษฐกิจที่เผชิญกับภาวะ Lockdown ขณะที่เงินปอนด์เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆก่อนทราบประชุมบีโออีที่ถูกคาดว่าจะขยายโครงการ QE เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และการเจรจาการค้ากับทางอียู
การเพิิ่มขึ้นของยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารอบใหม่ในสหรัฐฯ ขณะที่จีนควบคุมการระบาดครั้งใหม่เกี่ยวกับการกลับมาเปิดทำการกิจกรรมทางเศรษฐกิจอีกครั้งก่อนที่วัคซีนจะมีการพัฒนา
ค่าเงินยูโรอ่อนอ่อนค่าลง 0.2% ที่ 1.1256 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่เงินเยนแข็งค่าลงมาแตะ 106.86 เยน/ดอลลาร์ สำหรับเงินปอนด์อ่อนค่าลง 1.2557 ดอลลาร์/ปอนด์
ในส่วนของเงินหยวนแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยแตะ 7.0735 หยวน/ดอลลาร์ หลังจากที่ธนาคารกลางจีนยังคงสนับสนุนเม็ดเงินอัดฉีดสู่ตลาดการเงินและเศรษฐกิจ
· เฟดบอสติก กล่าวว่า การระบาดส่งผลให้โครงสร้างเรื่องความไม่เท่าเทียมกันย่ำแย่มากขึ้น
นายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนต้า กล่าวว่า การระบาดของไวรัสโคโรนาได้เข้ากระทบต่อระบบสังคมชนชั้นล่างมากกว่ากลุ่มอื่นๆทั่วประเทศ จึงทำให้เห็นความชัดเจนมากขึ้นในเรื่องต้นทุนทางศีลธรรมและเศรษฐกิจของประชาชน
นอกจากนี้ ประธานเฟดสาขาบอสติกยังเรียกร้องให้ยุติการเหยียดเชื้อชาติมา ณ ที่นี้ด้วย

· จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างรายสัปดาห์ยังคงอยู่ระดับสูง กังวล Second Wave
การกลับมาของ Second Wave ในช่วงที่ว่างงาน ท่ามกลางอุปสงค์ที่อ่อนแอ ขณะที่ห่วงโซ่อุปทานประสบปัญหาอุปสรรคที่มีแนวโน้มจะทำให้การขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ เพื่อสนับสนุนมุมมองทางเศรษฐกิจที่เผชิญกับความท้าทายระยะยาว และความยากในการฟื้นคืนเศรษฐกิจที่ประสบภาวะถดถอยจากการระบาดของไวรัสโคโรนา และข้อมูลในคืนนี้คาดว่าแม้จะเห็นการขอรับสวัสดิการลดลงแต่ก็จะยังอยู่ในระดับสูง ท่ามกลางประธานเฟดที่ส่งสัญญาณว่าความไม่แน่นอนยังมีอยู่ และการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่จะใช้เวลานาน
· ธนาคารกลางจีนคงการเสริมสภาพคล่อง กดดันการก้าวออกจากมาตรการอื่นๆ
ธนาคารกลางจีนจะยังคงเสริมสภาพคล่องในตลาดต่อไปในช่วงครึ่งปีหลัง แต่ก็อาจเลื่อนการพิจารณาถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วง COVID-19
ทั้งนี้ ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน กล่าวว่า ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจและตลาดการเงิน โดยภาพรวมยังมีเสถียรภาพ
· "แมร์เคล" เรียกร้องให้อียูจำเป็นต้องทำการตัดสินในเรื่องงบประมาณและกองทุนฟื้นฟู
นางอังเกลาร์ แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี เรียกร้องให้ทางอียูเร่งพิจารณาข้อตกลงงบประมาณประจำปี และกองทุนฟื้นฟูเพื่อช่วยหนุนเศรษฐกิจของยุโรปที่ถูกทำลายจากการระบาดของไวรัสโคโรนา โดยนางแมร์เคล กล่าวว่า ข้อตกลงใดๆก็ตามไม่ควรที่จะต้องบรรลุข้อตกลงร่วมกันให้ได้ในช่วงการประชุมสุดยอดผู้นำอียูในวันศุกร์นี้ที่เป็นการประชุมผ่าน VDO Conference แต่ควรจะเป็นการจัดประชุมแบบพบกันในช่วงปลายปีนี้
· ว่างงานออสเตรเลียพุ่งแตะระดับสูงสุดรอบ 19 ปีในเดือนพ.ค. ท่ามกลางการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ โดยมีคนว่างงานเพิ่มขึ้น และการจ้างงานมีการลดลงแตะ 227,700 ราย หลังจากที่ร่วงลงในเดือนเม.ย. ไป 600,000 ราย
ด้านอัตราว่างเพิ่มขึ้นแตะ 7.1% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ ต.ค. ปี 2001 ขณะที่เดือนเม.ย. มีการปรับทบทวนที่ 6.4%
· ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง ท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในประเทศจีนและสหรัฐฯ อาจกดดันความต้องการเชื้อเพลิงที่ฟื้นตัวขึ้น
โดยราคาน้ำมันดิบ Brent ลดลง 22 เซนต์ หรือคิดเป็น 0.5% ที่ระดับ 40.49 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับลง 38 เซนต์ หรือคิดเป็น 1% ที่ระดับ 37.58 เหรียญ/บาร์เรล
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบทั้งสองชนิดปรับร่วงลงไปประมาณ 2% ในช่วงการซื้อขายก่อนหน้านี้