• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 24 มิถุนายน 2563

    24 มิถุนายน 2563 | Economic News
  

· ค่าเงินดอลลาร์ได้รับแรงกดดันหลังข้อมูลเศรษฐกิจยุโรปหนุนยุโรป และสนับสนุนความหวังที่จะเห็นเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว ภายใต้ความต้องการค่าเงินในกลุ่มสินทรัพย์เสี่ยงที่มากขึ้น โดยค่าเงินยูโรเดือนนี้เรียกว่าเป็นเดือนที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับดอลลาร์นับตั้งแต่เดือนต.ค. โดยไปแตะ 1.1316 ดอลลาร์/ยูโรในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่ค่าเงินออสเตรเลียดอลลาร์ก็ขยับแข็งค่ามา 0.2% แตะ 0.6942 ดอลลาร์/ออสเตรเลีย

และปัจจัยต่อไปที่ต้องติดตามต่อไปคือความเชื่อมั่นธุรกิจของเยอรมนี โดยตลาดคาดการณ์ว่าจะค่อนข้างออกมาแข็งแกร่ง และสัญญาณทางเศรษฐกิจเชิงบวกทั้งหลายก็ดูจะเพียงพอต่อการชดเชยความกังวลเรื่องการเพิ่มขึ้นของยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในสหรัฐฯ และหลายๆประเทศที่เป็นปัจจัยหลักให้ทองคำพุ่ง และดอลลาร์อ่อนค่า

ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวที่ 96.653 จุด โดยยืนได้เหนือระดับต่ำสุดรอบ 1 สัปดาห์ที่ทำไว้วานนี้ ค่าเงินเยนทรงตัวในทิศทางแข็งค่า 106.53 เยน/ดอลลาร์ จากท่าทีระมัดระวังของนักลงทุนต่อเม็ดเงินการลงทุน หลังจากที่ Softbank ที่เริ่มมีการขายหุ้นในกลุ่มบริษัท T-Mobile ซึ่งเป็นบริษัทเทเลคอมของสหรัฐฯกว่า 2.1 หมื่นล้านเหรียญเหรียญ

· ดร.แอนโธนี ฟอลซี ผู้อำนวยการจาก National Institute of Allergy and Infectious Diseases กล่าวว่า มีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆสำหรับการติดเชื้อไวรัสโคโรนาในกลุ่มผู้ป่วยที่เป็นวัยรุ่น โดยในช่วงต้นของการระบาดพบว่าการระบาดไม่ได้เข้าถึงยังวัยหนุ่มสาวมากนัก เพราะมักจะเป็นในกลุ่มผู้สูงอายุหรือผู้มีปัญหาด้านสุขภาพ แต่ก็ไม่ใช่ทุกๆเคส และแนวความคิดที่ว่ากลุ่มคนวัยหนุ่มสาวไม่มีโอกาสได้รับผลกระทบนั้นไม่เป็นความจริง และเรากำลังเห็นความซับซ้อนในการติดเชื้อของกลุ่มคนรุ่นใหม่

ทั้งนี้ เขายอมรับว่ายังไม่เคยพบไวรัสชนิดใดที่แพร่กระจายเป็นวงกว้างได้มากขนาดนี้มาก่อน

· สหรัฐฯสั่งใส่หน้ากากอนามัยท่ามกลางจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้น

ผู้ว่าการรัฐวอชิงตันมีคำสั่งให้ประชาชนในพื้นที่สวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ ท่ามกลางการใช้มาตรการใหม่เพื่อเข้าควบคุมการระบาดของไวรัสในช่วงที่มีการผ่อนคลาย Lockdown รวมทั้งการกลับมาเปิดทำการทางเศรษฐกิจอีกครั้ง

การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่พบว่า รัฐแอริโซนา, แคลิฟอร์เนีย, มิสซิสซิปปี้ และรัฐเนวาดา มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อใหม่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากที่รัฐเท็กซัสนำไปก่อนด้วยการทำสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันจันทร์

ขณะที่รัฐวอชิงตัน หนึ่งในที่มีการระบาดของไวรัสเช่นกัน พบว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นคิดเป็น 35% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่แล้ว

· รัฐมนตรีสาธารณสุขเยอรมนี ยังเห็นความเสี่ยงจากไวรัสโคโรนาแม้จะมีอัตราติดเชื้อต่ำก็ตาม

รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขเยอรมนี กล่าวว่า ความเสี่ยงเกี่ยวกับไวรัสโคโรนายังคงมีอยู่ และทำให้เมืองทางตะวันตกของเขต North Rhine-Westphalia ที่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอาจต้องกลับมาใช้มาตรการ Lockdown อีกครั้ง

ขณะที่เมือง Geutersloh และเมือง Warendorf ซึ่งเป็นพื้นที่แรกของเยอรมนีที่มีอัตราการติดเชื้อไวรัสลดลงภายใต้การเริ่มทยอยผ่อนคลาย Lockdown

· ในการประชุมธนาคารกลางนิวซีแลนด์วันนี้ พบว่า
- จะมีการเตรียมใช้เครื่องมือทางการเงินเพิ่มเติมหากจำเป็น และอาจมีการปรับทบทวน QE
- เตรียมจะกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหากจำเป็น ขณะที่การระบาดของไวรัสโคโรนาในประเทศนิวซีแลนด์เวลานี้ควบคุมได้แล้ว
- เตรียมขยายโครงการ LSAP หากจำเป็น ขณะที่การกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐมีขนาดใหญ่กว่าที่คาดการณ์ไว้
- แม้จะมีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจบางส่วน แต่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจก็ยังคงมีความท้าทาย ซึ่งน่าจะมีการประเมินและเลือกใช้เครื่องมืออย่างเหมาะสมมากขึ้นในการประชุมเดือนส.ค.นี้

· ผู้ว่าการโตเกียวคาดจะมีผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มอย่างมาก

ผู้ว่าการรัฐโตเกียว กล่าวว่า โตเกียวจะมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาครั้งใหม่ทำสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังมีการรวมตัวกันในสถานที่ทำงานที่ดูจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ตามมา ขณะที่ผลทดสอบหาเชื้อไวรัสจากบริษัทในพื้นที่ที่ไม่เปิดเผยนาม พบผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น 7 ราย และดูเหมือนว่าจำนวนผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มจะมากกว่า 10 ราย ในชินจูกุ ซึ่งเป็นย่านดังยามราตรีของโตเกียว

· ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงจากสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯเพิ่มขึ้นกังวลอุปทานล้นตลาด

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงท่ามกลางแรงกดดันจากการที่ API เผยข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯในสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวขึ้นเกินคาดกว่า 1.7 ล้านบาร์เรล โดยน้ำมันดิบ Brent ปรับลง 29 เซนต์ หรือ -0.7% ที่ 42.34 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ WTI ปรับลง 35 เซนต์ หรือ -0.9% ที่ 40.02 เหรียญ/บาร์เรล

ขณะที่ข้อมูลของ EIA ซึ่งเป็นของหน่วยงานรัฐสหรัฐฯจะเปิดเผยในคืนวันนี้

· FX Empire วิเคราะห์ราคาราคาน้ำมันดิบ WTI เคลื่อนไหวในกรอบ

นักวิเคราะห์คาดราคาน้ำมันดิบ WTI มีแรงย่อกลับในช่วงต้นตลาดแต่ก็ยังมีแรงสนับสนุนพอให้ขึ้นต่อไปเหนือ Gap 41 เหรียญ/บาร์เรล หากน้ำมันดิบ WTI ยืนได้เหนือเส้นค่าเฉลี่ย EMA ราย 200 วันก็จะยังทำให้ภาพทางเทคนิคยังคงมีความน่าสนใจอยู่ แต่หากต่ำกว่าเส้น EMA ราย 50 วันก็มีโอกาสจะเห็นราคาปรับตัวลดลง ภาพรวมตลาดน่าจะยังเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 30 - 40 เหรียญ/บาร์เรลในระยะสั้น


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com