· ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 700 จุด เป็นการดิ่งลงรายวันที่แย่ที่สุดตั้งแต่ 11 มิ.ย. กังวลจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสที่เพิ่มมากขึ้น
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลดลงวานนี้ ท่ามกลางรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ที่เพิ่มมากขึ้น และน่าจะส่งผลต่อการกลับมาฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยดัชนีดาวโจนส์ปิด -710.16 จุด หรือคิดเป็น -2.7% ที่ระดับ 25,445.94 จุด ขณะที่ S&P500 ปิด -2.6%ที่ 3,050.33 จุด และ Nasdaq ปิด -2.2% ที่ 9,909.17 จุด ซึ่ง Nasdaq ถือเป็นการปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 9 วันทำการ และภาพรวม 3 ดัชนีหลักก็มีการร่วงลงรายวันที่ย่ำแย่ที่สุดตั้งแต่ 11 มิ.ย.
รัฐฟลอริด้ามีการยืนยันจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นมาประมาณ 5,508 ราย ซึ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และทำให้ยอดผู้ติดเชื้อในรัฐดังกล่าวสะสมอยู่ที่ 109,014 ราย โดยพบผู้มีผลเลือกดเป็นบวกเพิ่มมากขึ้น 15.91% จากเดิม 10.82%
รัฐแคลิฟอร์เนีย ก็เป็นอีกหนึ่งรัฐที่มียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์กว่า 7,000 รายในเวลาเพียงหนึ่งวัน ด้านรัฐเท็กซัสพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาเพิ่มขึ้น 5,489 ราย ขณะที่รัฐนิวยอร์ก, นิวเจอร์ซี และคอนเนคติคัล มีคำสั่งให้ผู้เดินทางเข้าพื้นที่จำเป็นต้องกักตัวเองเป็นระยะเวลา 14 วัน
· เช้านี้ดัชนีหุ้นสหรัฐฯฟิวเจอร์สเปิดปรับตัวลงต่อตามแรงเทขายที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้นหลักสหรัฐฯ โดยดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์สเช้านี้เปิดลดลงประมาณ 80จุด และดัชนี S&P500 และ Nasdaq 100 ปรับลงประมาณ 0.3% ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายในเช้านี้ที่ค่อนข้างเบาง
ทั้งนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ที่ต่างก็เพิ่มขั้นเป็นประวัติการณ์ในหลายๆรัฐของสหรัฐฯดูจะกดดันความหวังที่ว่าจะเห็นเศรษฐกิจสหรัฐฯฟื้นตัวได้อย่างราบรื่น
· ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลง จากยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่เพิ่มขึ้นกดดันเหล่านักลงทุน
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลดลง เนื่องจากจำนวนยอดผู้ติดเชื้อจากไวรัสโคโรนาที่ปรับตัวสูงขึ้นทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อเหล่านักลงทุน
โดยดัชนี Stoxx600 ลดลงประมาณ 2.7% ท่ามกลางตลาดหุ้นภูมิภาคที่เคลื่อนไหวในแดนลบ ซึ่งนำโดยหุ้นกลุ่มยานยนต์ ที่ร่วงลงกว่า 4.5%
ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อจากไวรัสโคโรนาทั่วโลก ในขณะที่มีการผ่อนคลายมาตรการ Lockdowns
ด้านดร.แอนโธนี ฟาวซี ที่ปรึกษาด้านสุขภาพประจำทำเนียบขาว ออกมากล่าวเตือนเมื่อวานนี้ว่า การกลับมาแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาครั้งใหม่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น
· ตลาดหุ้นเอเชียปรับลดลงตามการร่วงลงของดัชนีดาวโจนส์เมื่อคืนนี้ ขณะที่ IMF ลดการคาดการณ์เศรษฐกิจลงอีกครั้ง
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลง ตามการร่วงลงของดัชนีดาวโจนส์กว่า 700 จุด เมื่อคืนที่ผ่านมา
ขณะที่กองทุน IMF ได้ปรับลดการคาดการณ์ทางเศรษฐกิจลงอีกครั้ง โดยประมาณการว่าจีดีพีทั่วโลกจะหดตัว 4.9% ในปีนี้ ซึ่งย่ำแย่กว่าที่คาดการณ์ในเดือนเม.ย.ว่าจะหดตัวลง 3%
พร้อมทั้งกล่าวว่า การระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรนานั้นมีผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจในช่วงครึ่งแรกของปีนี้มากกว่าที่คาดการณ์ไว้และคาดว่าการฟื้นตัวจะค่อยเป็นค่อยไปมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
โดยดัชนี Kospi เกาหลีใต้ ลดลง 1.32% ด้านดัชนี S&P/ASX 200 ออสเตรเลีย ลดลง 0.91%
เช้านี้ ดัชนี Nikkei ลดลง 0.77% ขณะที่ดัชนี Topix ลดลง 0.7%
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลง 0.44%
สำหรับวันนี้ตลาดหุ้นจีนและฮ่องกงจะปิดทำการเนื่องในวันหยุดเทศกาลไหว้บ๊ะจ่าง
· นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ระหว่าง 30.75 - 30.95 บาท/ดอลลาร์ โดยค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องตามภูมิภาค ขณะที่ตัวเลขส่งออกที่ลดลงมาก และมติ กนง.ไม่ส่งผลกระทบต่อค่าเงินบาทมากนัก อาจเพราะเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ต่อปี เนื่องจากประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปี 63 มีแนวโน้มหดตัวกว่าที่ประมาณการไว้เดิม เนื่องจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รุนแรงกว่าที่คาดไว้
พร้อมทั้งปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 63 ลงเหลือ -8.1% จากเดิมคาด -5.3% โดยเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มหดตัวมากกว่าที่ประเมินไว้เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่กิจกรรมทางเศรษฐกิจมีสัญญาณปรับดีขึ้นหลังการผ่อนคลาย
มาตรการควบคุมการระบาด พร้อมทั้งปรับลดคาดการณ์การส่งออกไทยในปีนี้ลงเหลือ -10.3% จากเดิมคาด -8.8% ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปีนี้ คาดว่าจะหดตัวอยู่ที่ -1.7% จากเดิมคาด -1.0% โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงปี 64
- กระทรวงพาณิชย์ เผยการส่งออก พ.ค.63 มีมูลค่า 16,278 ล้านเหรียญฯ ติดลบ -22.50% หดตัวต่ำสุดในรอบ 130 เดือนนับตั้งแต่เดือน ก.ค.52 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ประกอบกับฐานสูงในเดือน พ.ค.62 ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 13,584 ล้านเหรียญ หดตัว -34.41% ขณะที่ดุลการค้าเกินดุล 2,694.6 ล้านเหรียญ ส่งผลให้ภาพรวมช่วง 5 เดือนแรกของปี 63 (ม.ค.-พ.ค.) การส่งออกมีมูลค่า 97,899 ล้านเหรียญ ติดลบ -3.71% ส่วนนำเข้ามีมูลค่า 88,808 ล้านเหรียญ หดตัว -11.64% ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุล 9,090.6 ล้านเหรียญ
- ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เตรียมประกาศขยายเวลาการใช้หลักเกณฑ์ราคาเสนอขายชอร์ตเซล(Short Sell) โดยกำหนดให้สมาชิกเสนอขายชอร์ตเซลได้เฉพาะในราคาที่สูงกว่าราคาซื้อขายครั้งสุดท้าย (Uptick) และหลักเกณฑ์ราคาเสนอซื้อขายสูงสุดและต่ำสุด (Ceiling & Floor) ที่ได้ลดอัตราราคาเสนอซื้อขายสูงสุดและต่ำสุดของหลักทรัพย์ลงจาก +/- 30% เป็น +/-15% ตลอดจนเกณฑ์การหยุดการซื้อขายโดยอัตโนมัติ (Circuit Breaker) ที่กำหนดเป็น 3 ระดับ ซึ่งเดิมจะสิ้นสุดในวันที่ 30 มิ.ย.63 ทั้งนี้ เนื่องจากสถานการณ์ตลาดหุ้นยังผันผวน และต้องติดตามปัจจัยต่าง ๆ ที่อาจจะเข้ามากระทบทั้งสถานการณ์โควิด- 19 และภาวะเศรษฐกิจ โดยคาดว่าจะประกาศความชัดเจนการขยายระยะเวลาการใช้มาตรการดังกล่าวภายในสัปดาห์หน้า
Thai
Eng